ข้อตกลงในการจ้างทำของ แม้ได้ทำเป็นหนังสือก็ฟ้องร้องบังคดีได้ แต่จะฟ้องที่ศาลไหน และเอาอะไรมาเป็นหลักฐานเพื่อใช้นำสืบให้ศาลเห็น
ฟ้องที่ศาลไหน ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งกำหนดว่าให้ฟ้องที่มูลคดีเกิด
มูลคดีเกิดที่ใด ดูตัวอย่างฎีกาที่ 4687/2553
ข้อตกลงจ้างเหมาแก้ไขต่อเติมบ้านที่โจทก์ทำกับจำเลยที่ 1 เป็นสัญญาจ้างทำของ แม้ไม่ทำเป็นเอกสารก็สมบูรณ์หาจำต้องทำเป็นหนังสือไม่
เมื่อโจทก์ตกลงกับจำเลยที่ 1 ด้วยวาจาที่จังหวัดนครสวรรค์ สัญญาย่อมเกิดขึ้นที่จังหวัดนครสวรรค์ทั้งตามฟ้องก็ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ โจทก์จึงต้องฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 4 (1)
.
.
แล้วนำสืบด้วยหลักฐานอะไร เพื่อพิสูจน์ถึงความมีอยู่จริงของการจ้าง
ตัวอย่างคำพิพากษาฎีกาที่ 1411/2549 สัญญาจ้างทำของนั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มิได้บังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือ มิฉะนั้นตกเป็นโมฆะ ฉะนั้น ศาลย่อมรับฟังพยานหลักฐานอื่นเพื่อวินิจฉัยว่าโจทก์ได้ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. ก่อสร้างอาคารจริงหรือไม่
ปรากฏว่าโจทก์มีพยานเบิกความประกอบสำเนาใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร สำเนาเอกสาร ซึ่งจำเลยทั้งสี่ไม่ได้คัดค้านว่าไม่มีต้นฉบับเป็นพยาน ได้แก่
- สำเนาขอเบิกเงินค่ารับจ้างเหมาทำรางเครนของห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.
- สำเนาเช็คธนาคารกรุงเทพ ระบุชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. เป็นผู้รับเงินและขีดคร่อมพร้อมระบุห้ามเปลี่ยนมือไว้ด้วย
- สำเนาบัญชีการเงิน สำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและเอกสารอีกหลายรายการ
เอกสารเหล่านี้เมื่อพิจารณาประกอบกันแล้วฟังได้ว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. ได้ขอเบิกเงินค่าจ้างก่อสร้างอาคารตามงวดจากโจทก์ โจทก์อนุมัติและได้จ่ายเงินเป็นเช็คจำนวน 12 ฉบับ พร้อมหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายต่อจำเลยที่ 1 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. ได้ออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีให้แก่โจทก์ และเช็คทั้ง 12 ฉบับ เรียกเก็บเงินได้
เมื่อฟังได้เช่นนี้จึงมีเหตุเชื่อได้ว่าโจทก์ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. จ่ายเงินค่าจ้างจริง ใบกำกับภาษีที่ออกโดยห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. จึงเป็นใบกำกับภาษีที่ออกให้เนื่องจากการรับเงินค่าจ้าง เป็นใบกำกับภาษีที่โจทก์ ผู้ได้รับประโยชน์สามารถพิสูจน์ได้ว่าบุคคลใดเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีใบกำกับภาษีดังกล่าว จึงมิใช่ใบกำกับภาษีปลอมตามประมวลรัษฎากร มาตรา 89 ( 7 ) วรรคสอง
เมื่อขณะใบกำกับภาษีนั้นห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โจทก์จึงมีสิทธินำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณหาภาษีมูลค่าเพิ่มตาม ประมวลรัษฎากรมาตรา 82/3
.
.
จากตัวอย่างที่นำเล่าวันนี้ จะเห็นได้ว่า การไม่ทำสัญญาไว้ต่อกันแม้จะฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ แต่ก็สร้างความยุ่งยากแก่การนำสืบคดีพอสมควร
เพื่อป้องการเกิดข้อพิพาท คู่สัญญาควรจัดทำสัญญาต่อกันไว้เป็นหลักฐาน
ติดตามกฎหมายเพื่อผู้ประกอบการได้ที่
Facebook – กฎหมายเพื่อผู้ประกอบการ
Instagram – Instagram.com/runglawyer2019
Blockdit – blockdit.com/runglawyer
Reference:
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4687/2553
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2549
#กฎหมายเพื่อผู้ประกอบการ
#สัญญาก่อสร้าง #มูลคดีเกิด
#การร่างสัญญา #ตรวจร่างสัญญา #บริหารสัญญา #Project_Management
#lawyer #legal #business_law #Contract_Management
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
