13 พ.ค. 2020 เวลา 03:53 • การศึกษา
ความลับของ เส้นประธานทั้ง ๑๐ บนมรรคาแห่งโยคะ
.
เส้นประธานทั้ง ๑๐ บนมรรคาแห่งโยคะ
ในธรรมคีตา ของ ท่านมิลาเรปะ
แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่าง...
ปัญญาโดยสัญชาตญาณ กับ พินทุ(Bindu...ธิเบต เรียก ทิคเล)
วงแห่งญาณ(มัณฑละแห่งธรรม)
นาภีทั้ง ๒(ปิงคลา นาภี และ อิทา นาภี)
รวมตัวเกิดช่องว่าง (นาทิ...Nadi)..คือ สุศุมญา นาทิ ทำให้จิตเดิมแท้(ภวังคจิต...)ถูกทำให้บริสุทธิ์ เป็นโพธิจิต(ภาวนามยปัญญา)
พัฒนาขึ้นมาจาก "พินทุ( ธิเบต เรียก ทิคเล)"
สีขาว ในธรรมคีตานี้ คือ โยคะธาตุเย็น(จันทระกลา)
สีแดง คือ โยคะธาตุร้อน(สูรยะกลา)
เส้นประธานทั้ง ๑๐
เป็นเคล็ดฝึกโยคะของพระโยคาวจรชั้นสูงในพระพุทธศาสนา
.
จุดที่แสดงในภาพนี้ว่า..."จุด ลม ตรึง เอ็น"
ที่เมื่อ ลมหายใจออก ลมหายใจเข้าขาดประสิทธิภาพ ทำให้ ลมที่เหลืออีก ๕ กอง ได้แก่ อุทธัง. อัทโธ. กุจฉิ. โกฏฐา. อังคะมังคา. กระจายเข้าแทรก เกิด เป็น ลม "~ฆาต"
ผู้ฝึก กักลมอัสมิตา ระดับพื้นฐานชำนาญดีแล้ว
ก็ลองฝึก ตอน "กลั้น-กัก-อัด" ลมหายใจออกเข้าที่ตกค้างในปอด ไปสู่จุด ลมตรึงเอ็น ดังในภาพ โบราณกันดูครับ... มหัศจรรย์แห่งร่างกายตามธรรมชาติ ที่พระพุทธศาสนาได้ค้นพบ แล้วแยกบันทึกไว้ในวิชานวด โบราณ แพทย์โบราณดั้งเดิม ยิ่งใหญ่ขนาดไหน...
ในคัมภีร์นวดที่สอดคล้องวิชาจิตสรีระวิภาค ของ กรรมฐานฝ่ายพุทธดั้งเดิม ในการนวดบำบัด ทั้งหลาย...เมื่อเรียนรู้เรื่อง ธาตุลมภายในทั้ง ๖ กอง หรือที่เรียกว่า "ลมในกองธาตุ"
.
แต่...ไม่มีความรู้ในเรื่อง "นหารู"...เอ็นทั้ง ๙๐๐ ที่ กรรมฐานฝ่ายพุทธ ท่านกล่าวว่า...
"เอ็นใหญ่ ๖๐ เส้น ชื่อว่า สรีรธารกะ"...คือ เส้นเอ็นหลักที่ยึดโครงกระดูกให้เป็นรูปโครงร่างร่าง(มนุษย์)ไว้
แล้วมีเอ็นชื่อ "กัณฑระ" สัณฐานเหมือนต้นคล้าอ่อนช่วยพัน เอ็นใหญ่ "สรีรธารกะฎ
แล้วมีเอ็นเล็กละเอียดตามมาเหมือน "เถากระพังโหม"
แล้วเอ็นเล็กย่อย เหมือน "สายพิณขนาดใหญ่"...
ตามมาด้วย เหมือนด้ายหยาบ
จน..."เส้นที่เหลือ ที่แล่นไปตามอวัยวะน้อยใหญ่ นั้นๆ มีสัณฐาน เหมือนเสื้อถักเป็นข่ายที่สวมไว้ในสรีระ....
เบื้องต่ำ.. กำหนดตั้งอยู่บนกระดูก ๓๐๐ ท่อน
เบื้องบน.. กำหนดตั้งจดเนื้อและหนัง "
แทรกขยาย นหารู
หมวดเส้นเอ็น (นฺหารู) อาจารย์คัดมาให้อ่านบางส่วนจากโรคนิทาน ลองศึกษาดูนะ เป็นการเรียนรู้แบบไทยๆที่เราอาจควรรู้ไว้ เรามาเรียนรู้ร่วมกันนะคะว่าคนสมัยก่อนอธิบายเรื่องเส้นเอ็นว่าอย่างไร บางทีในคำกลอนก็จะใช้คำว่า ปัตฆาฏเค้าแปลออกมาว่าชาติ(เกิด) เส้นเอ็น โบราณว่า เส้นเอ็นใหญ่มีรวม 900 เส้น เอ็นน้อยมี ๙๐๐๐เส้น
โดยกำหนดสี : มีสีขาว บางแห่งว่ามีสีน้ำผึ้ง
โดยรูปสัณฐาน : มีสัณฐานต่างๆ คือ
-- เส้นเอ็นใหญ่ที่รึงรัดร่างกาย ตั้งแต่แต่ส่วนบนแห่งคอหยั่งลงไปทางข้างหน้า 5 เส้น ทางข้างหลังก็ 5 เส้น
-- ทางข้างขวาก็ 5 เส้น ทางข้างซ้ายก็ 5 เส้น
-- แม้ที่รึงรัดมือขวา ทางข้างหน้ามือก็ 5 เส้นทางข้างหลังมือก็ 5 เส้น ที่รึงรัดมือซ้ายก็เช่นเดียวกัน
-- แม้ที่รึงรัดเท้าขวา ทางข้างหน้าเท้าก็ 5 เส้น ทางข้างหลังก็ 5 เส้น ที่รึงรัดเท้าซ้ายก็เช่นเดียวกัน
-- เอ็นใหญ่มี 60 เส้น อันได้ชื่อว่า สรีรธารกา
-- เอ็นรึงรัดร่างกาย เอ็นที่หยั่งลงไป เรียกว่า กัณฑรา (เอ็นรากเง่า) เอ็นใหญ่เหล่านี้มีสัณฐานดังต้นคล้าอ่อน
-- ส่วนเอ็นอื่นๆ แผ่คลุม ตำแหน่งต่างๆ ในร่างกาย นั้นๆ
-- ส่วนเอ็นที่เล็กกว่าเอ็นสรีรธารกานั้น มีสัณฐานดังเชือกดักหมู
-- ที่เล็กกว่านั้นมีสัณฐานดังเชือกเส้นเล็ก
-- เส้นเอ็นอื่นที่เล็กกว่านั้นมีสัณฐานดังสายพิณใหญ่
-- เอ็นอื่นมีสัณฐานดังเส้นด้ายอ้วนๆ
-- เอ็นที่หลังมือและเท้ามีสัณฐานดังเท้านก
-- เอ็นที่ศีรษะมีสัณฐานดังข่ายคลุมศีรษะทารก
-- เอ็นที่หลังมีสัณฐานดังอวนเปียกที่เขาผึ่งแดดไว้
-- เอ็นที่รัดรึงอวัยวะต่างๆ ที่เหลือมีสัณฐานดังเสื้อร่างแหที่สวมร่างกายไว้
โดยทิศ : กำหนดเอ็นเกิดในทิศเบื้องบนและเบื้องล่างของร่างกาย
โดยโอกาส(หน้าที่) : ยึดกระดูกในร่างกายทั้งสิ้นอยู่
โดยปริจเฉท : เบื้องล่างกำหนดด้วยพื้นที่มันตั้งอยู่บนกระดูก 300 ท่อน
เบื้องบน กำหนดด้วยตำแหน่งที่มันตั้งจดเนื้อและหนังอยู่
เบื้องขวางกำหนดด้วยเอ็นด้วยกัน
มีอยู่โดยเฉพาะในร่างกาย มิใช่อยู่ในโกฏฐาสะอื่นๆ (โกฏฐาส แปลว่าส่วนต่าง มีดิน ๒๐ น้ำ ๑๒ ไฟ ๔ ลม ๖ รวม ๔๒ เรียกว่าโฏฏฐาส คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ )
การนวดนั้นๆ บังเอิญ....ทั้งหมด ครับ
เพราะ...ลมในกองธาตุ อาศัยเอ็นน้อยใหญ่ ทั้ง ๙๐๐ นี้ เป็นที่แล่นไป เอ็นบางเส้นรัดรึงอาการ ๓๒ บางอาการไว้ด้วย(เป็นที่มาของลม "~ฆาต" )
ทำให้มีอาการเสียดแทงตลอดจนก่อโรคในอวัยวะ(อาการ) นั้นๆ ด้วย ไล่เอ็นไม่ถูก ก็ขับลมที่อาศัยเอ็นไม่ออก กล้ามเนื้อที่สานอยู่ร่วมกับเอ็นก็บอบช้ำไป รู้ผิด แก้ไขสติปัญญาใหม่...ก็ยังรู้ถูกต้องทันกาล ก่อนสร้างกรรมหนัก กับวิชาโบราณ ที่ปราชญ์ท่านค้นพบและแสดงไว้ดีแล้ว
.
เครดิตบทความและภาพ..อจ.ดำโยคีขยะ..(นิด)
โฆษณา