14 พ.ค. 2020 เวลา 01:19 • ธุรกิจ
กลไกค่าเงินแต่ละประเทศ ทำไมถึงมีการแข็งและการอ่อนค่า อยู่ตลอดเวลา?
เรื่องนี้ผู้เขียนใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการศึกษาและทำความเข้าใจระบบของค่าเงิน จะได้นำมาเล่าให้เพื่อน ๆที่ติดตามอ่านบล็อกนี้
1
ในปัจจุบัน ประเทศอเมริกามีเงินฝากประมาณ 13Tดอลล่าห์ พันธบัตรอีก 40Tดอลล่าร์ ดังนั้นเงินในระบบจริง ๆ คือราว ๆ 53Tดอลล่าร์
1
ในวิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้ เท่าที่ติดตามข่าว จนถึงปัจจุบัน วงเงินที่ใช้ในครั้งนี้น่าจะอยู่ที่ราว ๆ 20T
ดังนั้นค่าเงินควรจะอ่อนค่าลงประมาณ 38% นั่นหมายความว่าค่า us index จากเริ่มต้น 100 จุด ควรจะเหลือ ประมาณ 62 จุด
แต่ปรากฏว่าตั้งแต่ต้นปี จนถึงปัจจุบัน ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐก็ยังอยู่แถว 98-100 แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นั่นก็แปลว่าต้องมีประเทศอื่น ๆ หลายประเทศด้วยกัน ที่พิมพ์เงินในสกุลของตัวเองรวมกันออกมาในปริมาณที่มากพอๆ กันกับ 20T ดอลลาร์ จึงจะยันค่าเงินให้คงที่ได้
เพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ = เงินประเทศอื่น ๆ ในโลกรวมกัน
สมดุลของค่าเงินดอลลาร์กับเงินสกุลอื่น ๆในโลก
เพราะจากที่ดูค่าเงินในแต่ล่ะสกุลแล้วปรากฏว่าอ่อนค่าลงกันมาก อ่อนไป 10%-100%หลายสกุล เช่น อินเดีย บราซิล รัสเซีย อาเจนติน่า อิหร่าน เวเนซุเอลา เป็นต้น
แสดงว่าพิมพ์เงินมากกว่าที่อเมริกาพิมพ์มาก
มีบางกลุ่มค่าเงินก็ใกล้เคียงเดิม แสดงว่าพิมพ์พอๆ กัน เช่น ปอนด์ เยน ยูโร บาท หยวน เป็นต้น
ดังนั้นโดยภาพรวมค่าเงินมันเป็นภาพลวงตาแบบหนึ่ง การที่ค่าเงินอ่อนลงหรือแข็งขึ้นก็เป็นการเพิ่มเงินในระบบแบบหนึ่ง คล้าย ๆ ตาชั่งดังภาพ
สมมุติ 2 ประเทศ A and B ค่าเงินอยู่ที่ 1: 1 เงินในระบบเริ่มเท่ากันอยู่ที่ 100 หน่วยเท่ากัน
ประเทศ A พิมพ์ขึ้นมาอีก 100 หน่วย ค่าเงินจะกลายเป็น 2:1 เงินในระบบของ A กลายเป็น 200 หน่วย ค่าเงินอ่อนลง 100% เงินในระบบเพิ่มขึ้น 2 เท่า
เหมือนเราปี 2540 ที่พอลอยตัวค่าเงิน ค่าเงินก็อ่อนจาก 25 ไป 56 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินอ่อนลงไป 100% เลย แสดงตอนนั้นมีการเพิ่มเงินบาทในระบบขึ้น 2 เท่า เพื่อนำไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
หลังจากนั้นประเทศ B พิมพ์ขึ้นมาบ้าง 100 หน่วย เงินในระบบเพิ่มขึ้นเป็น 200 หน่วย ค่าเงินจะกลับไป 1:1 เท่าเดิม
1
แต่เงินในระบบทั้ง 2 ประเทศเพิ่มขึ้นมาเป็น 2 เท่าเรียบร้อยแล้ว
ภาพจาก pixabay ตาชั่งแสดงการแข็งอ่อนของค่าเงิน สลับกันแข็งกันอ่อน
โดยสรุปก็คือการที่ค่าเงินมันมีการเปลี่ยนแปลง แข็งค่าหรืออ่อนค่า แสดงว่ามีการเพิ่มเงินเข้ามาในระบบ ประเทศที่เศรษฐกิจไม่ดี พิมพ์เงินมามาก ค่าเงินก็จะอ่อน ประเทศที่ไม่ได้พิมพ์หรือพิมพ์น้อยกว่า ค่าเงินจะแข็งขึ้น
บางครั้งก็สลับกันพิมพ์ จนค่าเงินกลับมาเท่าเดิม
ราคาทองคำที่แท้จริงก็คือ ปริมาณเงินทั้งหมดที่อยู่ตาชั่งทั้งสองข้าง เท่าที่คาดคะเนตอนนี้น่าจะมีข้างละ 75T รวม 2 ข้างเท่ากับ 150T
คิดเป็นราคาทองคำก็ 24,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ oh my goodness 😮😮😮 ราคาตอนนี้ถูกมาก
ดังนั้นการถือทองคำ จึงเน้นที่ป้องกันความเสี่ยงด้านการเงินเท่านั้น เพราะเรารู้นี่ว่ารัฐบาลเพิ่มเงินในระบบได้ตลอดเวลา ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ จะได้เอาตัวรอดได้
ข้อสังเกตก็คือ ถ้าไม่มีการพิมพ์เงินเพิ่มในระบบเลย ค่าเงินควรจะคงที่ไม่มีการขยับ
ภาพจาก tradingeconomics ค่าเงินโบลิวาร์จาก 8 โบลิวาร์ ต่อ 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบัน 178,593 โบลิวาร์ต่อ 1 เหรียญดอลล่าร์
เวเนซุเอลาเป็นตัวอย่างของการพิมพ์เงินที่ชัดเจน ส่งผลต่อค่าเงินอย่างมาก
ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดี ๆ ต่อไป
โฆษณา