14 พ.ค. 2020 เวลา 09:16 • ธุรกิจ
คนทำธุรกิจเครือข่าย....ต้องอ่าน
ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง
และ แชร์ลูกโซ่ คืออะไร
แตกต่างกันอย่างไร?
ธุรกิจเครือข่าย(Network Marketing) เป็นหนึ่งในระบบเคลื่อนสินค้าที่เติบโตเร็วที่สุด
และถูกเข้าใจผิด มากที่สุดในปัจจุบัน ธุรกิจเครือข่ายถูกเชื่อว่า
จะเป็นคลื่นลูกใหม่ในยุคปี 1980s แต่เชื่อผมเถิดว่า มันจะเติบโตได้ไกลกว่านั้นแน่ ภายในยุค 1990s สินค้า และบริการมูลค่ามากกว่า หนึ่งร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ ถูกเคลื่อนผ่านบริษัทธุรกิจเครือข่ายทุก ๆ ปี จงจับตามองธุรกิจเครือข่ายในช่วงปี 2000s ถึง 2100s ให้ดี
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
นำเสนอข้อมูลผ่านทางรูปภาพและตัวอย่างว่า ธุรกิจเครือข่ายคืออะไร และสิ่งไหนไม่ใช่ธุรกิจเครือข่าย เรายังจะแสดงให้คุณเห็นว่า คุณจะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจในธุรกิจเครือข่าย
อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ผมขอย้ำ “อธิบายอย่างมีประสิทธิภาพ” ได้อย่างไร...?
ผมขออนุญาตตอบคำถามที่เป็นหนึ่ง
ในคำถามที่ถูกถามมากที่สุด และอาจเป็นคำถามที่เป็นพื้นฐานที่สุด
ของบรรดาคำถามทั้งปวง นั่นคือ “ธุรกิจเครือข่าย หรือ Multi-level Marketing หรือ MLM นั้นคืออะไร”
Marketing หรือ การตลาด หมายถึง การเคลื่อนสินค้าหรือบริการ จากผู้ผลิตไปถึงผู้บริโภค
Multi-Level อ้างถึง ระบบในการจ่ายค่าตอบแทนให้กับบุคคล
ผู้ซึ่งทำให้สินค้าหรือบริการนั้นเคลื่อนตัว
Multi หมายถึง มากกว่าหนึ่ง
Level หมายถึง ระดับหรือรุ่น
คำว่า MLM นั้น แพร่หลายมากเสียจนพวกพีระมิด
หรือแชร์ลูกโซ่ที่ผิดกฎหมาย ได้พยายามทำตัวเองให้เหมือนกับธุรกิจเครือข่าย ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างภาพลบอย่างร้ายกาจ
และไร้เหตุผลให้กับบริษัทธุรกิจ เครือข่ายใหม่ ๆ
มีสามวิธีหลัก ๆ ในการเคลื่อนสินค้าและบริการ คือ
Retailing หรือ การขายปลีก ผมเชื่อว่า ทุกๆ คนคุ้นเคยกับระบบนี้ดีอยู่แล้ว คุณเดินเข้าไปในร้านของชำ ร้านขายยา หรือห้างสรรพสินค้า แล้วซื้อสินค้าบางอย่างออกมา
Direct Sales (Single-Level Marketing) หรือ การขายตรง คือการเคลื่อนสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ผ่านทางเทคนิคของการขาย เช่น การไปบ้านลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้า การโทรศัพท์ไปขายของให้กับลูกค้า การขายตรงบางครั้งถือว่า
เป็นการขายที่ไม่มีพ่อค้าคนกลาง (เช่น ร้าน Retail หรือ บริษัทตัวแทนจำหน่าย) ยกตัวอย่าง (แต่ไม่เสมอไป) เช่น การขายประกัน เครื่องครัว สารานุกรม สาวขายเอว่อน มิสทีน
Multi-Level Marketing (MLM) หรือ การตลาดเครือข่าย คือสิ่งที่เราจะพูดถึงในบทความนี้ เราไม่ควรสับสนระหว่างสองอย่างข้างบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการขายตรง คนส่วนใหญ่มักสับสนระหว่างการตลาดเครือข่าย
กับการขายตรง
ยังมีการตลาดอีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า การสั่งทางไปรษณีย์ การทำการตลาดแบบไปรษณีย์สามารถถูกจัดอยู่ในกลุ่มของ Direct sales ได้ บางคนก็ถือว่าการตลาดทางไปรษณีย์เป็นการตลาดแบบที่ 4
แบบที่ 5 ซึ่งมักถูกเข้าใจสับสนกับ MLM ก็ คือ แบบพีระมิดหรือแชร์ลูกโซ่ ดังที่กล่าวไปแล้วว่าแชร์ลูกโช่นั้นผิดกฎหมาย เหตุผลสำคัญที่ผิดกฎหมาย
"เพราะว่ามันล้มเหลวในการเคลื่อนผลิตภัณฑ์" หรือการบริการไปสู่ผู้บริโภคได้ ถ้าผลิตภัณฑ์ไม่เคลื่อนไหว เราจะเรียกมันว่า “การตลาด” ได้อย่างไร แชร์ลูกโซ่สามารถใช้คำว่า “เครือข่าย” ได้
แต่ไม่สามารถใช้คำว่า “การตลาด” ได้
ข้อขัดแย้งส่วนใหญ่ในใจคนมากมาย ที่ทำให้เขาไม่เข้าร่วมทำธุรกิจ MLM คือ เขาไม่รู้ความแตกต่าง ระหว่าง MLM กับ การขายตรง ไม่แปลกใจเลยที่คนส่วนมากสับสนเพราะบริษัท MLM ที่ มีชื่อเสียงส่วนใหญ่นั้นอยู่ในสมาคมขายตรง และในบางครั้งคุณอาจมองการทำธุรกิจเครือข่าย
เหมือนการการขายเดินขายของแบบ เคาะประตู เพราะว่าคุณได้รู้จักกับกับธุรกิจเครือข่ายครั้งแรก เมื่อผู้จำหน่ายเคาะประตูบ้านคุณ
เพื่อพยายามขายของบางอย่างให้กับคุณ ซึ่งแท้จริงแล้ว มีลักษณะบางอย่างที่แยก MLM ออกจากการขายตรง นั่นคือ หากคุณอยู่ในธุรกิจ MLM คุณอยู่ในธุรกิจ "เพื่อตัวของคุณเอง" แต่ไม่ใช่ "โดยตัวของคุณเอง"
การเข้าร่วมธุรกิจคือคุณจะซื้อสินค้าในราคาขายส่ง (คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองด้วย) หลายคนเข้าร่วมธุรกิจเพราะเหตุผลข้อนี้ หลังจากนั้นคุณก็จะเริ่ม “เอาจริง” เมื่อคุณซื้อสินค้าในราคา“ขายส่ง” ถ้าคุณต้องการ คุณสามารถ“ขายปลีก” และคุณจะได้ “ผลกำไร” คนจำนวนมากเข้าใจผิดว่า คุณ “ต้อง” ขาย ปลีก คุณจึงประสบความสำเร็จ
บางบริษัทถึงกับกำหนดยอดขายให้สมาชิก
ทำยอดตามเป้าเพื่อเขาจะได้รับผลตอบแทน คุณสามารถขายถ้าคุณต้องการ หรือ ถ้าคุณจำเป็นต้องขายเพื่อให้ได้รับผลตอบแทน
ก็ขายไปเถิดครับ แต่หากคุณต้องการสร้างรายได้มหาศาลแล้วหละก็ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนั้น มาจาก
“การสร้างเครือข่าย” เท่านั้น
ประเด็นสำคัญ: ให้ การขายเป็นสิ่งที่ตามมาจาก
การสร้างองค์กรโดยธรรมชาติ คนส่วนใหญ่ล้มเหลวเพราะเขาทำสิ่งที่กลับกัน คือ เขาพยายามสร้างองค์กรโดยการขาย
คำว่า “ขาย” เป็นความคิดทางลบในจิตใจคนถึง 95% ในธุรกิจเครือข่ายคุณไม่จำเป็นต้อง “ขาย” ตามความเข้าใจของโลก แต่อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ต้องเคลื่อนไหว มิฉะนั้นจะไม่มีใครได้รับเงิน ดอน เฟียล่า ได้นิยามคำว่า ขาย ไว้ว่า “การโทรศัพท์ไปหาคนแปลกหน้า เพื่อขายของบางอย่าง ที่เขาอาจไม่จำเป็นต้องใช้ หรือ ไม่ต้องการ”
ขอยืนยันอีกครั้ง ผลิตภัณฑ์ต้องเคลื่อนไหว มิฉะนั้นจะไม่มีใครได้รับเงิน
MLM สามารถเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า Network Marketing เมื่อ คุณสร้างองค์กร แท้จริงแล้วคุณกำลังสร้างเครือข่าย
ที่ใช้ในการกระจายสินค้าของคุณเอง การขายนั้นยังคงเป็นรากฐานของธุรกิจเครือข่าย เพียงแต่การขายในธุรกิจเครือข่ายนั้น
มาจากการที่ผู้จำหน่าย “แบ่งปัน” ให้กับเพื่อนและญาติพี่น้องของเขา
ไม่ใช่ให้กับคนแปลกหน้า
การสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ให้ประสบความสำเร็จคุณต้อง “สร้างความสมดุล” คุณต้องอุปถัมภ์
และสอน MLM ให้กับคนอื่น และในกระบวนการนี้เอง คุณจะสามารถสร้างลูกค้าได้ซึ่งก็คือเพื่อนๆ หรือญาติพี่น้องของคุณ
อย่าพยายามอุปถัมภ์คนทั้งโลก
ด้วยตัวของคุณเอง จงจำไว้ว่า Network marketing คือการสร้างองค์กรผู้จำหน่ายจำนวนมาก แต่ละคนขายคนละเล็กคนละน้อย ซึ่งดีกว่าการใช้คนจำนวนน้อยๆ ขายของปริมาณมาก ๆ
บริษัทธุรกิจเครือข่ายส่วนใหญ่
ไม่ต้องเสียเงินปริมาณมหาศาลไปกับการโฆษณา เพราะสุดยอดแห่งการโฆษณา
ก็คือการบอกแบบปากต่อปากของสมาชิก ดังนั้น บริษัทเครือข่ายจึงมีเงินมาใช้ในการ
พัฒนาสินค้าได้มากกว่าบริษัททั่ว ๆ ไป ดังนั้น คุณภาพสินค้าจึงมักดีกว่าสินค้าคู่แข่ง
ในกลุ่มเดียวกันที่พบตามร้านค้าปลีก คุณจึงเพียงแค่แบ่งปันสินค้า
ที่มีคุณภาพสูงกว่าสินค้ายี่ห้ออื่น ๆ ในหมวดเดียวกัน ให้เขาเปลี่ยนมาใช้ยี่ห้อใหม่ ซึ่งคุณได้ทดสอบด้วยตัวคุณเองแล้วว่า มันดีกว่า
คุณ คงเห็นแล้วว่านี่ไม่ใช่การเดินไปเคาะประตูตามบ้าน
เพื่อขายสินค้าให้กับคน แปลกหน้า
ธุรกิจเครือข่ายที่ผมรู้จักสอนว่า... การที่คุณแบ่งปันคุณภาพสินค้า
และบริการให้กับเพื่อนของคุณ ทั้งหมดนี้แหละที่ “การขาย” เข้ามาเกี่ยวข้อง จริงๆควรใช้คำว่า “การแบ่งปัน” มากกว่า “การขาย” เพราะมันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ
หากคุณทำงานให้กับบริษัทขายตรง และคุณตัดสินใจที่จะลาออก
เพราะคุณต้องย้ายไปอาศัยที่ท้องถิ่นอื่น คุณอาจต้องเริ่มทำงานทั้งหมดใหม่อีกครั้ง แต่หากคุณอยู่ในบริษัท MLM คุณ สามารถย้ายไปในท้องที่ใดก็ได้ และเริ่มอุปถัมภ์ผู้คนใหม่
โดยไม่สูญเสียยอดขายจากองค์กรที่คุณได้สร้างไว้ แล้วในท้องที่เดิมการทำธุรกิจเครือข่าย
คุณสามารถสร้างรายได้ได้มากมายจากการสร้างองค์กร ไม่ใช่แค่การขาย ข้าพเจ้ายังขอยืนยังอีกครั้ง คุณสามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีได้จากการขายของ แต่คุณสามารถสร้าง “ความมั่งคั่งอย่างถาวร” ได้ด้วยการสร้างองค์กรเท่านั้น....
ผู้คนจำนวนมากเข้าสู่ธุรกิจเครือข่าย
เพียงแค่ต้องการมีรายได้เพิ่ม
เดือนละ 5000 , 10000 บาท หรือ 20000 บาท ต่อเดือน และทันใดนั้นเขาต้องการที่จะจริงจัง
และเขาสามารถทำได้ถึงเดือนละ แสน หรือ 3 แสนได้ หรือมากกว่านั้น เขาเหล่านี้ไม่ได้หาเงินจำนวนมากจากการขายของ เขาทำได้จากการสร้างองค์กร
นั่นคือวัตถุประสงค์ของเวปไซต์แห่งนี้ เราจะให้ความรู้คุณให้สามารถสร้างองค์กรได้
และทำได้อย่างรวดเร็วด้วยโดยการ สอนให้คุณสร้างทรรศนะคติที่ถูกต้อง
เกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายให้กับผู้มุ่ง หวัง หากผู้มุ่งหวังของท่านเข้าใจว่า
ธุรกิจเครือข่ายนั้นผิดกฎหมายเสียแล้ว คุณจะมีปัญหาในการอุปถัมภ์เขาอย่างแน่นอน
คุณต้องชี้แจงให้เขาเห็นถึงข้อเท็จจริง เพื่อขจัดทรรศนะคติหรือความเข้าใจผิดที่ว่า “ธุรกิจเครือข่ายนั้นเหมือนพีระมิด” ขอให้ทำความเข้าใจตัวอย่างข้างล่าง
และรูปนี้เพราะคุณสามารถนำมันไป ใช้อธิบายกับผู้มุ่งหวังได้
พีระมิด หรือ แชร์ลูกโซ่นั้น สร้างจากยอดลงมาด้านล่าง ดังนั้น ผู้ที่เข้ามาสู่ธุรกิจเป็นกลุ่มแรกเท่านั้น
ที่สามารถอยู่ด้านบนของพีระมิด แต่ในรูปสามเหลี่ยมในธุรกิจเครือข่าย ทุกๆ คนเริ่มต้นจากด้านล่างและมีโอกาสเท่า ๆ กันที่จะสร้างองค์กรขนาดใหญ่ของตัวเอง
ทุกๆคนสามารถสร้างองค์กรให้ใหญ่
กว่าองค์กรของผู้แนะนำของเขาได้ หลายเท่าถ้าต้องการ
ข้อแตกต่างอีกอย่างของ MLM กับการขายตรงนั้นคือการ “ช่วยเหลือ” (Sponsor) ผู้จำหน่ายคนอื่นๆ บางบริษัทอาจใช้คำว่า การหาสมาชิกใหม่ อย่างไรก็ตาม การ Sponsor กับการหาสมาชิกนั้นต่างกันอย่างแน่นอน
คุณ Sponsor คนบางคน แล้ว “สอน” ให้ เขาทำสิ่งที่คุณทำอยู่ เพื่อให้เขาสร้างธุรกิจของเขาเอง การ Sponsor คนบางคน กับการทำให้คนบางคนเซ็นใบสมัครนั้นต่างกันมาก
เมื่อคุณ “Sponsor” ใคร บางคน คุณกำลังให้คำมั่นสัญญาที่จะช่วยเขา
จนกว่าเขาจะประสบความสำเร็จ
หากคุณไม่ประสงค์ที่จะให้คำมั่น คุณกำลังทำร้ายเขาถ้าคุณทำให้เขา
เซ็นใบสมัครเพื่อผลประโยชน์ของคุณเอง
มันเป็น “ความรับผิดชอบ” ของ ผู้แนะนำที่จะสอนผู้ที่เขานำเข้ามาในธุรกิจ
ให้รู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างใน ธุรกิจ เช่น การสั่งสินค้า การจดบันทึกความคืบหน้าในธุรกิจ การเริ่มต้น วิธีในการฝึกอบรม เพราะการช่วยเหลือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจเครือข่ายเติบโต เมื่อองค์กรของคุณโต คุณก็จะเป็นนักธุรกิจอิสระที่ประสบความสำเร็จ ในที่สุดคุณจะกลายเป็นเจ้านายของตัวเอง!
ดังที่ผมกล่าวไปในตอนต้นว่าภายในยุค 1990s MLM หรือธุรกิจเครือข่าย ได้ทำเงินไปมากกว่า หนึ่งร้อยล้านเหรียญ นี่เป็นธุรกิจที่ใหญ่มาก! แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่รู้ ธุรกิจเครือข่ายนั้นอยู่รอบๆ ตัวเรามามากกว่า 40 ปีแล้ว บางบริษัทที่เปิดทำการมากว่า 20 ปี กำลังทำเงินกว่าร้อยล้านเหรียญต่อปี ผมรู้จักบริษัทหนึ่งที่ทำรายได้
มากกว่าสองล้านเหรียญในปีแรก ในปีที่สองเขาทำได้ถึงสิบห้าล้านเหรียญ ในปีที่สามเขาคาดหวังรายได้ 75 ล้านและ หนึ่งพันล้านเหรียญภายในปีที่ 5!
หลักการนี้จะทำให้คุณเห็นว่า
เป้าหมายของเขาจะเป็นจริงได้อย่างไร และสิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุก ๆ คน ถ้าเข้าใจและตั้งใจที่จะประสบความสำเร็จจริงๆ
#MingMillionaire
โฆษณา