14 พ.ค. 2020 เวลา 15:18 • ธุรกิจ
#สงครามโฆษณาระหว่างแบรนด์สนุกเสมอ เมื่อโฆษณาจิกกัดมีผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว เรื่องราวมันเป็นยังไง #เดี๋ยวสรุปให้ฟัง
1) เรื่องมีอยู่ว่า แอดมินเห็นรูปโฆษณา print ad ของแบรนด์รถยนต์ยุโรปทำล้อเลียนจิกกัดกัน แต่ละแบรนด์เล่นกับเอกลักษณ์และจุดเด่นของตัวเองได้อย่างแสบสันสุดๆ (ขอออกตัวก่อนว่า ได้ข่าวมาว่าเป็นกลุ่มแฟนคลับทำนะ ไม่ใช่ Official Brand ทำเอง)
2) เริ่มต้นจาก BMW เปิดตัวด้วย รูปภาพโลโก้ดาวสามแฉกของคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Mercedes-Benz ว่าถ้ามันหมุนไปเรื่อยๆ แล้ว สุดท้ายจะออกมาเป็นโลโก้ใบพัดอันโด่งดังของ BMW พร้อมกับ copy กวนๆว่า "Speed up to see us" หรือมาให้เร็วขึ้นสิ จะได้เห็นฉัน!
3) ฝั่งดาวสามแฉกก็เห็นแล้วยอมไม่ได้ เลยใส่ copy เจ๋งๆ อย่าง "Behind every authentic brand, there is more authentic one" หรือหมายความว่าสุดท้ายแล้วมันจะมีเพียงแบรนด์เดียวที่เจ๋งจริงอยู่เสมอ ซึ่งแอดมินว่าน่าจะตีความว่า ยังไงก็ตาม Mercedes-Benz เป็นแบรนด์ที่คิดค้นรถยนต์ขึ้นมาเป็นคนแรกของโลก ย่อมมีความ authentic มากกว่าอยู่แล้ว
4) สู้กัน 2 คนคงจะไม่สนุก Audi (เค้าเรียกว่า อาวดี้แล้วนะ ไม่ใช่ออดี้) ขอแจมด้วย! ใส่วงกลมเพิ่มไปอีกสักวง ไม่ต้องเถียงกัน กลายเป็นโลโก้ 4 ห่วงของ Audi ซะงั้น! หมดกัน!
5) ช้าก่อนเด็กๆ เล่นอะไรกันอยู่ หลบหน่อยพี่จะเดิน Ferrari (เฟอร์รารี่) แบรนด์รถยนต์สปอร์ตสุดหรู ขอมองเหล่าเด็กๆ อยู่ในกระจกหลังแล้วกัน! เพราะพี่ขอแซงไปก่อนแล้ว... ไม่ใช่รถซื้อแกง จะไม่แรงได้ไงใช่มั้ยล่ะ! โอโห พี่เล่นอย่างงี้ก็ชนะไปเลยแล้วกันครับ! เรียกได้ว่า Ferrari เล่นกับจุดแข็งของตัวเองก็คือเรื่องความเป็นรถสปอร์ตเร็วแรงได้อย่างลงตัว ทำเอาเกมส์โอเวอร์กันไปเลยทีเดียว
6) ถ้าให้วิเคราะห์เรื่องนี้ จะเห็นว่าน่าสนใจมาก และคนทำได้หยิบจุดเด่น หรือ core value ของแต่ละแบรนด์มานำเสนอได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะเจ้าสุดท้ายอย่าง Ferrari
7) โฆษณาเชิงแข่งขัน หรือ competitive advertising นั้นนอกจากจะใช้สื่อถึงจุดเด่นของสินค้าตัวเองแล้ว ก็ยังสร้างการรับรู้ หรือ awareness ที่สูงขึ้นได้มากอีกด้วย เพราะลูกค้าของแต่ละแบรนด์ก็อยากจะแชร์อะไรแบบนี้แข่งกัน ทำให้ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ก็ไม่ใช่กับทุกธุรกิจที่จะทำแบบนี้ได้ เพราะธุรกิจที่อาศัยความน่าเชื่อถืออย่างธนาคารหรือบริษัทกฎหมายก็อาจจะไม่เหมาะนัก
8) ถ้าใครจำกันได้ Apple กับ Microsoft ทำโฆษณาล้อเลียนกันแบบนี้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000s แล้ว และสงครามโฆษณาระหว่างแบรนด์ก็ยังคงมีมาเรื่อยๆ ให้ลูกค้าอย่างเราๆ สนุกสนานกันไป หรือแม้แต่ Mcdonald's กับ Burger King ก็เล่นกันอยู่ให้เห็นทุกปี
โฆษณาชุด Get a Mac (2006)
โฆษณาจาก Burger King ในช่วงภาพยนต์เรื่อง IT ที่ล้อเลียนมาสคอต Ronald McDonald ซึ่งเหมือนกับ Clown ในภาพยนต์นั่นเอง
#สรุปแล้ว การตลาดแบบนี้ทำให้การแข่งขันมันมีสีสันมากขึ้น ส่วนตัวแอดมินมองว่าทุกฝ่ายได้ประโยชน์หมดเลย แต่เราก็ไม่ค่อยเห็นโฆษณาอะไรแบบนี้สำหรับแบรนด์ในไทยเท่าไหร่ หลักๆ น่าจะเป็นเพราะมีกฎหมายเรื่องการโฆษณาที่ค่อนข้างจะเข้มงวดอยู่ แต่แอดมินก็คิดว่าถ้าแบรนด์ไทยเราทำบ้าง ก็น่าจะสนุกไม่ใช่น้อย....
โฆษณา