15 พ.ค. 2020 เวลา 07:59 • ปรัชญา
ศิษย์ดีได้เพราะมีครูสอนสั่ง ดั่งเพชรงามต้องมีการเจียรไน
ผมเองในฐานะครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนนักเรียนตั้งแต่ประถมยันมหาลัย ย่อมมีความรักความผูกพันธ์กับศิษย์ ที่เป็นความรักความเมตตา ความเป็นห่วงอยากเห็นศิษย์ทุกคนมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต เพื่อเป็นคนดีของสังคม มีคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม เป็นแบบอย่างที่ดีให้คนทั่วไปได้ยกย่อง
จากกรณีข่าวที่เกิดขึ้นของครู 5 คน กับนักเรียนหญิงในกรณีล่วงละเมิดทางเพศ ตามกฏหมายแล้วถือว่าเป็นความผิดส่วนเรื่องของโทษจะหนักเบาก็อยู่ที่การกระทำของจำเลยว่าล่วงละเมิดแบบใดรุมโทรม หรือคนเดียว ก็คงเป็นเรื่องของกระบวนการทางกฏหมายไป ซึ่งบทความนี้ไม่ได้ซ้ำเติมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่เพื่อสะท้อนสังคมให้เห็น เพื่อหาแนวทางแก้ไขอย่างถูกวิธี
ในด้านของกฏระเบียบทางวินัยที่ทางคุรุสภาและผู้อำนวยการจะจัดการให้เป็นไปตามความถูกต้อง เพราะเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่หลายคนต้องกลับมาคิดทบทวนกันให้มาก เพราะมันไม่ใช่แค่กระทบต่อระบบการศึกษา แต่ยังรวมถึงความศรัทธาของพ่อแม่เด็ก ความคิดแบบดั้งเดิมที่เชื่อว่าครูเป็นคนดี ที่จะสั่งสอน แนะนำให้ลูกเป็นคนดีได้ ในช่วงที่ผ่านมาก็ยังมีข่าวเกี่ยวกับ ผอ. ก๊อฟ ที่โด่งดังมาแล้ว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงมาก ซึ่งก็มีหลายฝ่ายถกเถียงกันบางกลุ่มว่าเด็กผิด บางกลุ่มว่าครูผิด เมื่อวิเคราะห์กันตามความจริงทั้งคุณวุฒิ และวัยวุฒิ คนที่ผิดก็ควรจะเป็นครู ด้วยการศึกษา และผ่านการอบรมจากที่ต่างๆ จรรยาบรรณความเป็นครู การอบรมด้านคุณธรรม จริยธรรม วุฒิภาวะความเป็นครูผู้สอน จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะกระทำ แม้แต่คิดก็ไม่ควรคิดกับศิษย์
การที่เด็กเป็นแบบนี้ในฐานะครูควรเข้าใจว่าสิ่งที่เด็กทำอยู่เป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่ควรสนับสนุน ครูก็ไม่ควรพาเด็กกระทำ มีน้องหลายคนที่เป็นพยาบาล แพทย์ สัตวแพทย์ พูดว่าจรรยาบรรณแต่ละสายงานมีกันหมด แต่จรรยาบรรณสายงานที่ต้องมีสูงกว่าทุกสายงานคือ ครูและอาจารย์ เพราะต้องเจออะไรที่มากกว่า การสอนให้คนๆ หนึ่งเป็นคนดีมีความรู้นั้นยิ่งใหญ่มาก
การเป็นครูที่เก่งในหน้าที่การงานนั้นถือว่าสำคัญ แต่การเป็นครูที่เก่งและมีคุณธรรม จรยธรรม อันนี้ยิ่งสำคัญยิ่ง เพราะทุกการกระทำของครูจะทำให้เด็กเห็น เรียนรู้ และปฏิบัติตาม มันจึงเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน ยิ่งเด็กนักเรียนในระดับประถมเป็นกลุ่มที่ไร้เดียงสา ที่มักจะปฏิบัติตามคนอื่นได้โดยง่าย จึงควรสั่งสอนให้มาก
บทความนี้จึงได้นำแนวคิดหลักคำสอนทางพุทธธรรมมาวิเคราะห์ให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะต้องปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะเหมาะสมถูกต้อง เพราะทุกการกระทำล้วนแต่ส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนอย่างแน่นอน ความผิดในหน้าที่การงาน ความผิดต่อกฏหมาย ความผิดต่อลูกเมียตนเอง ความผิดต่อศีลธรรม ยิ่งเป็นกฏแห่งกรรมนี้ยิ่งรุนแรงมาก ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้
การเป็นครูไม่ใช่เพียงแค่สอนให้รู้ แต่ควรที่จะสอนให้ทำเป็น มีความรู้คู่คุณธรรม คำปฏิญาณของความเป็นครูที่กล่าวทุกวันครู จะต้องจำฝังใจตนเองเสมอ จงเป็นเรือจ้างที่นำผู้โดยสารไปถึงฝั่ง อย่าพาผู้โดยสารจมกลางแม่น้ำ ทำความดีให้สมกับที่เด็กนำดอกไม้มาไหว้เคารพในวันครู เหตุการณ์นี้ให้ข้อคิดเตือนใจแก่ครูทั้งหลาย ไม่ให้ทำความชั่วสุดท้ายผลกรรมย่อมมาถึงตน ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า กมฺมุนา วตฺตี โลโก. แปลว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม.
1. จิตอยู่กับสติ  การมีสติควรมีไว้ให้มากเพราะความเป็นครูที่ต้องพบปะกับเด็กนักเรียน ครูที่มาฝึกสอน เราย่อมรู้ว่าการคิดในสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ย่อมทำให้เกิดความเสื่อมเสียได้ ยิ่งคนที่มีครอบครัวแล้วยิ่งมีสติให้มาก การคิดอะไรที่เกินเลยจึงไม่ควรอย่างยิ่ง ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า สติมา สุขเมธติ. แปลว่า คนมีสติ ย่อมได้รับความสุข.
2. หิริโอตตัปปะ ความเกรงกลัวและละอายต่อบาปควรมี การมีความรู้ก็ใช่ว่าจะประคับประคองตนเองให้ไปถึงฝั่งได้ สิ่งที่สำคัญต้องรู้จัก กลัวและละอายต่อการที่จะทำความชั่ว แม้โอกาสนั้นเอื้อต่อการกระทำเราควรรู้ไว้ว่าต่อให้คนอื่นไม่รู้ แต่เทพ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมเห็น เหมือนคำที่ผู้เฒ่าผู้แก่พูดไว้ว่า "จะทำอะไรก็ควรอายผีสางนางไม้บ้าง" แต่สุดท้ายก็หลอกตัวเองไม่ได้อยู่ดี ควรยึด สัจจะ และความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า ปาปานํ อกรณํ สุขํ. แปลว่า การไม่ทำบาป นำสุขมาให้.
3. ประมาทย่อมไม่มี การกระทำสิ่งใดก็ตามเราควรพึงระลึกอยู่เสมอทุกครั้งว่า สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือสิ่งที่ผิด เพราะต่อให้ไม่มีใครรู้ก็ตามสักวันสิ่งที่ทำก็ย่อมถูกเปิดเผย เหมือนที่เขาว่า "หน้าต่างมีรู ประตูมีหู" ความไม่ประมาทจึงเป็นหนทางนำไปสู่ความเจริญ ไม่ทำความผิดก็ไม่ต้องรับโทษ เพราะเมื่อใดที่เราประมาทเมื่อนั้นความเดือดร้อนจะวิ่งเข้าหาเราทันที ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า อปฺปมตฺโต หิ ฌายนฺโต แปลว่า ผู้ไม่ประมาทพินิจอยู่ ย่อมถึงสุขอันไพบูลย์
4. ชีวิตดีมีศีลธรรม การรักษาศีลถือเป็นการทำความดีทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ สำหรับศีล 5 เป็นจริยธรรมในเบื้องต้นที่ทุกคนควรจะมี การไม่ทำร้ายผู้อื่น, การไม่ลักทรัพย์, การไม่ประพฤติผิดในกาม, การไม่พูดโกหก, และการไม่ดื่มสุรายาเมา เมื่อผู้ใดปฏิบัติได้ผู้นั้นย่อมมีความสุข ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า สุขํ ยาว ชรา สีลํ. แปลว่า ศีลนำสุขมาให้ตราบเท่าชรา.
5. เวรกรรมไม่ก้าวก่าย เมื่อใดก็ตามที่เราไม่ทำความชั่ว เมื่อนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องทุกข์ร้อนใจ กระวนกระวาย ไม่ต้องเกรงกลัวว่าเวรกรรมจะไปตกถึงตน หรือคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ สามีภรรยา ญาติพี่น้อง ลูกหลาน เหตุเพราะเราทำกรรมดีอยู่ตลอดเวลา ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า ตญฺจ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ. แปลว่า ทำกรรมใดแล้วไม่ร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำแล้วนั้นแลเป็นดี.
ดังนั้น ศิษย์จะดีได้ก็ด้วยอาศัยครูบาอาจารย์คอยสั่งสอน อบรมบ่มเพาะ ให้เกิดความรู้ความสามารถ เป็นคนดีของสังคม ก็เหมือนเพชรเม็ดงามที่ต้องอาศัยการเจียรไน เพื่อให้เกิดความงามมีเหลี่ยมมีความวาาวับ (วิบวับ) ศิษย์ทุกคนก็อยากได้ครูที่ดี คอยสั่งสอน เหมาะแก่การเคารพบูชา แต่ถ้าครูทำความชั่วเหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้น สุดท้ายก็ต้องถูกลงโทษรับผลกรรมที่ก่อไว้ เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า กลฺยาณการี กลฺยาณํ. ปาปการี จ ปาปกํ. แปลว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว.
ฝากกด like
ฝากกด share
ด้วยนะครับ
โฆษณา