.
ไม่เพียงผิดในทางสังคมเท่านั้น การคบซ้อนจะทำให้ผู้ที่กระทำรู้สึกผิดในทางจิตวิทยา ส่งผลต่อสภาะจิตใจของทั้งสองฝ่าย ผู้กระทำอาจรู้สึกว่าต้องหาทางจัดการกับความรู้สึกผิดที่มีของตนเองกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป ความรู้สึก "guilty" (ร๊้สึกผิด)
โดยสามารถสรุปได้คือสองวิธีด้วยกันที่ผู้ผิดพลาดมักนำมาแก้ปัญหาในภายหลังที่ปัญหาได้เกิดขึ้นไปแล้ว
1. รู้สึกผิด ปรับปรุง แก้ไข เริ่มต้นใหม่ทำตัวใหม่กับคนเดิม พยายามนึกถึงจิตใจของอีกฝ่าย ทบทวนแล้วแก้ไข จากนั้นก็ปรับความเข้าใจกันไปตามลำดับ
หรือ
2. รู้สึกผิดว่าตัวเองผิดสมควรได้รับการลงโทษ จึงลงโทษตัวเองโดยการที่เป็นฝ่ายเดินออกไปเอง โดยปล่อยให้ผู้หญิงชอกช้ำอยู่แบบนั้น
(ส่วนมากแล้วไม่รู้ว่าคนเขาชอบนิยมทำกันแบบไหนนะ?)
.
ในชีวิตจริง เราและเพื่อน(พวกเรา)ยังพูดคุย พูดแซวถึงบุคลอื่นในขณะที่ลับตาแฟน หรือพวกผู้ชายก็จะชอบแซวเรื่องสาวๆที่สวยๆ เอ่ยถึงสรีระที่สะโอดสะองของพวกเธอเหล่านั้น หนักหน่อยก็จะมีการยุแยงให้กับเพื่อนหรือที่เรียกว่า(พวกเรา)แล้วทำอะไรลงไปั ทำมันให้เหมือนเรื่องตลกจนเกิดปัญหาบานปลาย เราพูดเหมือนมันเป็นแค่เรื่องโจ๊ก อันนี้ไม่ได้ว่าใครนะแต่หมายถึงรวมๆ ...สุดท้ายก็เกิดปัญหาที่ไม่โจ๊กตามมา หรืออาจจะโจ๊กก็ได้...ความรู้สึกของอีกฝ่ายเละเป็นโจ๊ก
.
ทั้งที่จริงกว่านั้นไปอีก มีตัวอย่างให้เห็นมากมายว่าผู้มีอำนาจหรือความพร้อมทางสังคมและการเงิน ก็มักจะมีค่านิยมการมีเมียหลายคน มีอย่างออกหน้าออกตา จนตัวเราอดคิดไม่ได้ว่า #แล้วอย่างงี้เราจะดัดจริตกันไปทำไม สร้างกฏให้มันยุ่งยากทำไมในเมื่อสุดท้าย ผู้ชายก็มักทำตามสัญชาตญาณอยู่ดี ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนหรือบางศาสนาก็อนุญาติให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้และสนับสนุนด้วยซ้ำ