15 พ.ค. 2020 เวลา 08:40 • ความคิดเห็น
ครอบครัวบำบัดที่ทำให้ปัญหาคลี่คลาย
เคสครอบครัวบำบัด เป็นการมาตามนัดครั้งที่2 เป็นเคสที่มาพบจิตแพทย์เพราะปัญหาภาวะซึมเศร้าภายหลังภรรยาขอหย่า มีพฤติกรรมดื่มเหล้า จากเป็นคนไม่เคยดื่ม
ถ้าดูปัญหาคนไข้ ก็เป็นปัญหาซึมเศร้าและการปรับตัว การยอมรับสถานะที่จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ การสูญเสียself ความวิตกกังวลและกระวนกระวายจิตใจ
การแต่งงานเป็นครอบครัวมาร่วม20ปี มีบุตรชายวัย17 ปีที่เจอปัญหาระหว่างเรียนจนต้องหยุดพักการเรียน
ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ดูเหมือนดีในภาพของคนนอกที่มอง สามีไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เที่ยว ให้ความสำคัญกับครอบครัว
แต่ปัญหาเกิดเพราะสามีมีบุคลิกควบคุมคนในครอบครัว แต่เวลามีปัญหาขาดความเป็นผู้นำในการจัดการปัญหา ปฏิเสธไม่ยอมรับรู้เมื่อมีสถานการณ์ที่ต้องช่วยกันแก้ไข เช่น ปัญหาลูกชาย สามีไม่เข้าสังคม เป็นคนเก็บตัว ไม่สังสรรค์ และต้องการให้ภรรยาใช้ชีวิตที่ราบเรียบเช่นตนเอง
มีผลกระทบต่อภรรยา ทั้งการใช้ชีวิตที่ขาดอิสระ มีผลกระทบต่อการทำงาน ที่สามีไม่พอใจและก้าวก่ายในการทำงานและตำหนิสายบังคับบัญชาของภรรยา
ภรรยาใช้ความอดทน มาตลอด มีปากเสียงแต่ไม่เคยขัดแย้งรุนแรงจนถึงขั้นพูดถึงการหย่า
และเส้นความอดทนขาดผึงเพราะปัญหาลูกชายที่ต้องแบกรับแก้ปัญหาเพียงลำพัง
สามีไม่เคยได้รับการสื่อสารจากภรรยาที่มีความอัดอั้นตันใจ
สามีที่มองแต่ปัจจัยภายนอกว่าเป็นสาเหตุให้ภรรยาเปลี่ยนไป
ไม่เคยมองว่าตัวเองมีส่วนเป็นปัญหาของครอบครัว
ในครั้งแรกของการพบนักจิตบำบัด ภรรยาและสามีที่มีสีหน้าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ใบหน้าของภรรยาที่ราบเรียบและตั้งจุดยืนที่การหย่า ในขณะที่สามีไม่เป็นตัวของตัวเอง ใบหน้าเศร้าหมอง ดำคล้ำ แววตาหวั่นวิตก เวลาพูดมีน้ำเสียงที่สั่นเครือ
ฉันอ่านจากบันทึกโอพีดีการ์ด จากการบันทึกของพยาบาล บันทึกของแพทย์ การวินิจฉัยเบื้องต้น การส่งปรึกษาเรื่องการจิตบำบัด
เป็นการพบกันเพื่อสร้างสัมพันธภาพ ความคุ้นเคยและการตกลงบริการ การนัดหมาย และความร่วมมือต่อกันในการบำบัด
ฉันรับรู้ได้รวดเร็วพอสมควร เคสนี้ต้องครอบครัวบำบัด มีหลายประเด็นของระบบครอบครัวที่ควรได้รับความช่วยเหลือ
มีประโยคที่ฉันชอบประเมินต่อหน้าของคู่สามีภรรยา (ไม่มีในตำรา)
100% คุณให้ความรักภรรยาเท่าไหร่ตอนนี้ แล้วคุณล่ะ คุณให้ความรักสามีเท่าไหร่
เป็นคำถามที่ฉันมักได้คำตอบของความรู้สึกที่แท้จริงในขณะนั้นที่เค้าบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ และมีผลต่อฝ่ายนั้นในทันที
สามีภรรยาไม่เคยบอกด้วยเปอร์เซ็นต์ที่เท่ากันซักคู่
ก็เพราะเค้ามีปัญหากันงัยคะ มันก็มีคนนึงที่ยังรักแต่อีกฝ่ายรักน้อยลงหรือเฉยๆไม่เหลือแล้ว
ก็ทำให้เราคาดการณ์บางอย่างได้ไม่ยาก
คู่นี้ภรรยาไม่ขอตอบ สามีบอกเกินร้อย
เราจะไม่บอกว่าใครถูกใครผิด พูดจริงหรือเท็จ
หลังตั้งเป้าหมายเรียบร้อย และนัดหมาย
ครั้งที่2 ครอบครัวบำบัดที่เข้ามาทีละคน คนไข้ คือสามี ภรรยาตามมา จากที่ทำงาน และระหว่างช่วงกลางบำบัด ลูกชายตามมา
ไม่เป็นไร มากันครบก็ดีแล้ว
เป็นความท้าทายการบำบัดเลย เมื่อลูกนั่งตรงกลางระหว่างแม่และพ่อ
ป้อนบทสนทนาที่ต่างฝ่ายโต้อีกฝ่ายข้ามหัวลูกไปข้ามหัวลูกมา^^
 
ทุกคำพูดเราต้องแปลงเป็นความรู้สึกภายในของฝ่ายให้อีกฝ่ายรับรู้
ใช่คะ พวกเค้ามีปัญหาการสื่อสารกัน
ความแตกต่างของครอบครัวทางสามีและภรรยา
ความสัมพันธ์ในครอบครัวเดิมก็แตกต่าง
ปัญหามองว่าครอบครัวอีกฝ่ายนั่นแหละเป็นปัญหา พี่น้องของแต่ละฝ่ายที่มีอิทธิพล
แต่ละฝ่ายก็ปกป้องครอบครัวพี่น้องตัวเองรักและปรารถนาดี ไม่ได้เป็นอย่างที่อีกฝ่ายเข้าใจ
มีรายละเอียดเพิ่มเข้าเรื่อยๆในทุกประเด็นที่นักจิตฯลิสขั้นมาในบทสนทนา
ประเด็นที่กระตุ้นอารมณ์แต่ละฝ่ายที่สุด และควบคุมสถานการณ์ได้
ไม่แย่กว่าเดิม และมองช่องทางความเป็นไปได้ ความลงตัวที่ยอมรับได้ทั้งสองฝ่าย
คนสองคนรักลูกเหมือนกัน
เริ่มต้นความรัก ผ่านเรื่องราว มาด้วยกัน
ตอนนี้มองอนาคตที่ต่างกัน
แต่ยังคงต้องการทำหน้าที่พ่อและแม่
ลูกโตและเข้าใจพ่อและแม่
นักจิตวิทยาเหมือนทำหน้าที่ยื้อเวลาออกไปเพราะให้ทุกฝ่ายปรับตัวและยอมรับ และทำความเข้าใจตัวเอง เข้าใจความรู้สึกอีกฝ่าย และระบบครอบครัวที่ต้องมาดู รื้อแก้ไข ซ่อมแซม และมันก็ทำหน้าที่ของมันต่อไป
คนที่บอกว่ายอมทุกอย่าง อาจไม่ใช่คนยอมจริงๆ เพียงแต่คนๆนั้นเค้าคิดถึงผลของการยอมตอบสนองความต้องการของเขาอย่างไรบ้าง เท่านั้นเอง
การเปลี่ยนแปลงที่เหมือนจุดเริ่มต้นที่ดี แต่มันก็ไม่มีประโยชน์กับอีกฝ่าย ถ้าฝ่ายนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงถาวร นั้นคือพฤติกรรมใหม่ที่พึงอยากให้เป็น เพราะเค้าคาดเดาจากสิ่งที่ผ่านมาคุณเปลี่ยนตัวเองไม่ได้ ดังนั้นต้องใช้เวลา พอสมควรที่จะสร้างให้อีกฝ่ายเชื่อว่าคุณเป็นคนใหม่ที่ดีจริงๆ ดีมาจากการพัฒนา การเรียนรู้ด้วยตัวเอง และรู้ตัว
ในทุกสิ่งย่อมมีโอกาส โอกาสที่ได้ เมื่อไม่ได้สิ่งเดิมก็ได้สิ่งใหม่เข้ามาทดแทน มันเป็นกฏ
ย้อนรอยบันทึกเมื่อ 30 มกรา 63
โฆษณา