15 พ.ค. 2020 เวลา 16:30 • ธุรกิจ
🎖ไปช้อปมาแล้ว อยากรู้เลยไปลองใช้ ศึกษาข้อมูลประกอบ เอามาเล่าสู่กันฟัง
App น้องใหม่นี้มาแรง แต่ก็ไม่ได้น้องใหม่จริงๆหรอกแค่ใหม่ในประเทศไทยเท่านั้น
วันนี้จะบอกข้อดีข้อเสียที่เราจะต้องรู้แต่จำไว้ว่า มันไม่ใช่จุดอ่อน แต่มันคือจุดแข็ง
ในประเทศไทย App ที่ค่อนข้างให้ผลตอบแทนที่ดีก็จะมีอยู่ 3 ตัวที่คล้ายๆกัน
Moomall เป็นของคนไทย อันนี้ก็ เน้นไปในทางของแบรนด์เนมมากหน่อย อันนี้จะถูกใจรสนิยมของคนระดับมีอันจะกินนิดนึงหรือคนที่ติดภาพลักษณ์ของชีวิตแบบดูดี เพราะของแบรนด์เนมเขาจะเยอะสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของเขาก็ค่อนข้างมาก แต่อย่าลืมว่าตัวเขาเอง เป็นบริษัทของคนไทยเขาย่อมเข้าใจนิสัยคนไทยได้ดีกว่า
แต่ผลตอบแทน ผลประกอบการและระบบธุรกิจไม่ค่อยประทับใจโดยส่วนตัว ซึ่งเมื่อประเมินในระยะยาวดูแล้วก็ไม่เห็นพัฒนาการอะไรที่ฉันจะโอเคกับเขา
ส่วนใน Youpik ก็จะเป็นของที่คล้ายๆกับ Moomall แต่ผลตอบแทนและรายได้ด้อยกว่า
สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของ fingo ถ้าเรามองแบบตื้นหน่อยก็คือ มันเป็นสินค้าที่มีที่มาจากประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่หรือของมาเลเซีย(แต่อยากจะบอกให้ฉุกคิดนิดนึงว่า ของแบรนด์ส่วนใหญ่ในโลกนี้ ส่วนใหญ่ก็ไปผลิตที่ประเทศจีนทั้งนั้น...ตึ่งโป๊ะ) สินค้าที่เป็นของแบรนด์เนมจึงไม่ค่อยมีมากนักหรืออาจจะไม่มีเลย ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงแรกๆย่อมไม่เป็นที่ถูกใจของคน รสนิยมของคนไทยจำนวนไม่น้อยก็ชอบของแบบภาพลักษณ์ดีไว้ก่อน ( บางทีก็คุณภาพดีตรงกับภาพลักษณ์บางที ก็ไม่ตรง)
แต่ Alibaba และ Fingo
มีจุดแข็งมากอยู่ 2 ข้อ
1. สินค้าเป็นสินค้ากลางๆแต่ใช้ได้ในชีวิตจริง ไม่ใช่สินค้าเฉพาะที่เจาะจงไปในรสนิยมเฉพาะของแต่ละคน ซึ่งเราต้องเข้าใจว่าคนกลุ่มใหญ่ของประเทศหรือโลกใบนี้อยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้
ผมมองว่าในอนาคตเขาคงจะตอบโจทย์ความหลากหลายทางรสนิยม ได้ดีกว่านี้ เพราะว่ามันสมองขององค์กรนี้เป็นมือขวาและทีมบริหารของอาณาจักรอาลีบาบา เขาย่อมรู้ว่าเทรนของโลกนี้ กำลังเป็นไปในลักษณะเฉพาะเจาะจงด้านรสนิยม ซึ่ง fingo เพิ่งจะเข้ามาในประเทศไทย ได้แค่ไม่กี่เดือน(ตั้งแต่ ก.พ.) ก็เหมือนกับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นในพื้นที่ที่ตัวเองไม่คุ้นเคย ซึ่งทุกๆบริษัทก็ต้องเจอภาวะนี้เหมือนกันทุกคน
ผมยังตั้งข้อสังเกตุอีกว่า สินค้าบางรายการที่เราเสิร์ชค้นหาเข้าไปแล้วไม่มี มักจะเป็นสินค้าที่ มีความสุ่มเสี่ยงต่อความเสียหายของบริษัทในเชิงคุณภาพหรือไม่ ซึ่งเหตุผลลึกๆ ผมก็ไม่อาจทราบได้ เพราะไม่ใช่ทีมบริหารของฟินโก (ฮา) เช่น มีกระทาชายนายหนึ่ง ค้นหาคำว่า power bank ....ไม่มีครับ , มือถือก็ไม่มีครับ (แต่ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมาก เพราะผมเองก็ชอบไปเลือกสินค้าเหล่านี้ด้วยตัวเองมากกว่าเสมอ)
โธ่ถัง! แค่ผมไปเซอร์เวย์ดูสินค้าก็เยอะแยะจนตาลายเลยนะครับ มันน้อยซะที่ไหนกัน
คนทั่วไปไม่ได้แคร์รสนิยมเฉพาะตัวอะไรมากมายเพราะไม่ได้มีกำลังซื้อราคาสูงอะไรมากมาย แต่มันเป็นของที่เขาจำเป็นต้องใช้และจับต้องได้ อันนี้ คือความรู้สึกที่เกิดขึ้น หลังจากที่ได้ไปเซอร์เวย์สินค้าในแอป
ดังนั้นปริมาณในการซื้อและการใช้ สามารถสะท้อนจำนวนคนที่จะซื้อสินค้าเหล่านี้ว่ามีปริมาณมหาศาลมากกว่า เรียกได้ว่าเป็นเกมของปริมาณและมีคุณภาพพอประมาณ
2. ในตอนนี้สินค้าที่กล่าวมายังอยู่ระดับนี้แต่ในอนาคต มีความเป็นไปได้สูงว่าสินค้าเหล่านี้จะได้รับการอัพเกรดและมีความหลากหลายเจาะจงตอบสนองรสนิยมของผู้คนมากขึ้น และเมื่อ fingo เข้าใจธรรมชาติของคนไทยมากขึ้นการปรับเปลี่ยนก็จะตามมา
ทางบริษัทเองก็แถลงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มจำนวนสินค้าให้มากขึ้นและหลากหลายขึ้น อย่างนี้ก็ต้องรอดูต่อไป แต่ผมคิดว่ามันก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องเป็นไปในทิศทางนี้
ประเด็นสำคัญคือถ้าเรารอให้ถึงจุดนั้นเราจะได้อะไร ทำได้ก็เป็นเพียง ผู้ซื้อสินค้าเท่านั้นหรือ
เกมนี้เป็นเกม เส้นทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน เป็นเกมวิ่งมาราธอนวิ่งไตรกีฬา จะวัดกันเมื่อถึงเส้นชัยในระยะยาวเท่านั้น ซึ่งในระยะเริ่มแรก เราจะอยู่ท้ายสุดของคู่แข่งขันก็ได้
แต่เราต้องมองให้ออกว่าแผนการของเรา ศักยภาพของเรา จะนำเราไปเข้าเส้นชัยในวินาทีสุดท้ายได้หรือไม่
เราทุกคนในโลกใบนี้ไม่ใช่ผู้ชนะ ผู้ชนะที่แท้จริงคือเวลา สุมาอี้ไม่เคยชนะขงเบ้ง ไม่เคยชนะโจโฉ แต่สุดท้ายได้ครองราชบัลลังค์... นี่คือกลยุทธ์ของเขา เพื่อใช้เอาชนะผู้แข็งแกร่ง
โหลดแอป Fingo แล้วไปลงทะเบียนที่ลิ้งนี้
รับคูปองส่วนลด แล้วลองช้อปดู( หรือจะยังไม่ Shop ก็เก็บคูปองไว้ใช้)
เดินหมากเม็ดที่ 68
ไม่ลองจะรู้รึ?
#เท็ดดี้ลุย
โฆษณา