15 พ.ค. 2020 เวลา 16:57
แชร์ประสบการณ์ นักเรียนทุนประเทศ “โรมาเนีย” มีดีมากกว่าปราสาทแดรกคูล่า
Buna Ziua! สวัสดีค่ะทุกคน ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อ มะปรางค่ะ เป็นนักเรียนทุน Romanian Government Scholarship มาเรียนที่เมือง ‘’ คลูช นาโปคา‘’ (Cluj-Napoca) ประเทศโรมาเนีย คณะ ยุโรปศึกษา สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นระยะเวลา 4 ปี ( รวมเรียนภาษาโรมาเนียน 1 ปี ) ตอนนี้ปีสุดท้ายแล้วค่ะ กำลังเขียนตัวจบ อยากจะมาเล่าประสบการณ์สนุก มันส์ ฮา หลากหลายรสชาติในประเทศโรมาเนีย คำถามแรกที่ใครๆก็มักจะถามคือ มาทำไมประเทศโรมาเนีย ทำไมเลือกประเทศโรมาเนีย จริงๆแล้วก่อนจะสมัครทุนมา เราได้คิดๆ อยากจะไปเรียนต่างประเทศ แต่อยากได้ภาษาที่สาม ซึ่งก็คือ ภาษาโรมาเนียน ก็เลยสมัครทุน ปรากฎว่าได้ด้วย เลยเอาว่ะ อย่างน้อยโรมาเนียก็อยู่ใน EU ( European Union ) วุฒิปริญญาตรีที่ได้ก็สามารถไปสมัครงานในกลุ่มประเทศ EU ได้ ตัดสินใจไปเลยค่ะ ปรึกษาครอบครัว ทุกคนก็สนับสนุน จึงได้มีโอกาสมา ..ปัจจุบันก็เข้าปีที่ 4 แล้วค่ะ
ทุนนี้ อะไรยังไง? ทุนนี้จะให้กับนักเรียนทั่วโลก 85 ทุน ป.ตรี ป.โท ป.เอก เลืิอกเรียนในคณะที่เค้ากำหนดโดยจะครอบคลุมค่าเล่าเรียน ค่าวีซ่า มีหอพักให้ และให้เงินใช้ 65 ยูโร ต่อเดือน เอกสารที่สมัครจะยุ่งยากนิดหน่อย แต่ไม่เกินความสามารถค่ะ ใครสนใจ เข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.mae.ro/en/node/10251 ซึ่งจะปิดรับสมัครราวๆเดือนมีนาคมของทุกปี ประกาศผลเดือนมิถุนายนค่ะ สามารถเตรียมเอกสารตามเว็บไซต์และโทรนัดสถานฑูตโรมาเนียประจำประเทศไทย ที่กรุงเทพ จะมีนัดส่งเอกสารผ่านทางสถานฑูตเท่านั้นนะคะ ไม่ยากค่ะ สัมภาษณ์นิดๆ หน่อยๆ ถึงความสนใจ คณะที่อยากเรียน ภาษาอังกฤษเป็นยังไงโดยท่านฑูตจะเป็นคนสัมภาษณ์ แต่ต้องสมัครผ่านสถานฑูตเท่านั้นค่ะ
ตอนแรกที่รู้ว่าได้รับทุนไปโรมาเนีย สิ่งแรกที่นึกถึงคือ ปราสาทแดรกคูล่าค่ะ จาก การ์ตูน Hotel Transilvania ค่ะ อยากไปเที่ยวมากส่วนเมืองที่เราจะได้ไปอยู่ชื่อ Cluj-Napoca อยู่ทางเหนือ เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองของโรมาเนีย นักเรียนนักศึกษาเยอะมาก ซึ่งมหาลัยที่รับเราจะเข้าเรียนคือ University of Babes-Bolyai คณะ European studies and international relations เรียนเกี่ยวกับการเมือง การปกครอง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่จะเน้นเกี่ยวกับอียู หรือ European Union ในเชิงการเมือง กฎหมายและเศรษฐกิจ แต่ต้องเรียนเป็นภาษาโรมาเนียนค่ะ เข้าเรียนกับนักเรียนโรมาเนียน เป็นเอเชียคนเดียวทั้งชั้นปี ไม่ต้องกลัวนะคะ ต้องไปเรียนภาษาโรมาเนียนเป็นระยะเวลา 7 เดือน และสอบระดับให้ได้ B2 ถึงจะเข้าเรียนในคณะที่อยากเรียนได้ .... แต่กว่าจะผ่าน ก็เลือดตาแทบกระเด็น หินสุดๆ
ประเทศโรมาเนียเป็นประเทศที่อยู่ในยุโรปตะวันออก ติดกับฮังการี บัลเกเรีย มอลโดว่า และยูเครน สำหรับคนยุโรปด้วยกัน โรมาเนียถือว่าเป็นประเทศที่ยากจน ค่าครองชีพถูก แต่ว่ามีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สถาปัตยกรรม โบสถ์หรือตึกเก่าๆ สไตล์คอมมิวนิสต์ และสไตล์ยุโรปมากมาย อย่าง เมืองหลวงบูคาเรสต์ (Bucharest ) ถือว่าเป็น little Paris ปารีสย่อมๆ เพราะมีตึกสวยๆมากมาย เมืองบราชอฟ (Brasov) เมืองเก่าสวยๆ สไตล์เยอรมัน โรมาเนียคืออยู่ภายใต้เผด็จการ เชาเชสกู ( Caucescu ) เป็นระยะเวลาถึง 24 ปี ประชาชนทั่วประเทศอดอยากแต่เขากลับใช้ชีวิตสะดวกสบาย สร้างตึกรัฐสภาที่ปัจจุบันเป็นตึกที่ใหญ่อันดับ 2 รองจากตึกเพนตากอน แต่คนกลับก่นด่า เพราะสร้างมาจากเลือดเนื้อของประชาชน จนประชาชนลุกฮือปฎิวัติในปี 1989 นำไปสู่การประหารชีวิตทั้งเชาเชสกูและภรรยา ปิดฉากระบอบคอมมิวนิสต์จากจองเผด็จการแห่งยุโรปตะวันออก
5
ตึกรัฐสภา หรือ ภาษาโรมาเนียน คือ Palatul Parlamentului แปลเป็นไทยคือ พระราชวังรัฐสภา ข้างในสวยมากๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ต้องมา
Cluj-Napoca , RO
หอพักฟรีสำหรับนักเรียนทุน อยู่กัน 5 คนค่ะ แอบเยอะหน่อย แต่ว่าจะได้ฝึกภาษากับนักเรียนโรมาเนียนค่ะ
คนโรมาเนีย เป็นคนขี้สงสาร ใจดีแต่บางครั้งอาจจะยิ้มยากสักนิด แต่พอได้รู้จักจริงๆ เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือ โอบอ้อมอารี เห็นอกเห็นใจ อย่างเราเป็นนักเรียนต่างชาติคนเดียวของคณะที่เรียนภาคภาษาโรมาเนียน แม้แต่อาจารย์ยังตกใจ เพื่อนๆก็สงสาร หลายๆครั้งก็จะได้ความช่วยเหลือเวลาแปลไม่ออกค่ะ แต่คนโรมาเนียนรุ่นใหม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี ยกเว้นคนแก่จะพูดโรมาเนียน แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ คนแก่ที่นี้ใจดีมาก จะชอบชวนคุย แม้เราจะพูดงูๆปลาๆ แต่พอรู้ว่าไทยแลนด์ พวกแกก็จะยิ้ม ชวนคุย ถามนู้นถามนี้ ชอบถามว่าชอบโรมาเนียมั้ย อาหารที่นี้เป็นยังไง เผลอๆ คุยยาวเป็นชั่วโมงค่ะ แถมขนมกลับบ้านไปกินด้วย 5555
แนะนอนว่า การมาเรียนต่างประเทศ ต่างบ้านต่างเมือง แถมยังเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมต่างจากบ้านเรามาก ย่อมทำให้เกิด Culture Shock เราอาจจะรู้สึกว่าหงุดหงิด ไม่คุ้นชินกับวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไป ทำให้เกิดปัญหาการเข้ากับสังคม เกิดความเหงา ไม่อยากออกไปพบเจอผู้คน บางคนอาจจะก่อให้เกิดโรคซึมเศร้า โดย Culture Shock จะแบ่งระยะออกเป็น 4 ระยะ
1. Honey Stage : ช่วงที่ตื่นเต้นไปกับสิ่งใหม่ๆ สิ่งที่จะพบเจอในประเทศใหม่
2. Culture Shock : เริ่มรู้สึกถึงความแตกต่างรอบตัว เริ่มรู้สึกมีคำถามในใจว่าเรามาทำไม เกิดปัญหารุมเร้า มีความรู้สึกอยากกลับบ้าน เริ่มเก็บตัว และไม่อยากเจอผู้คน
3. Cultural Adjustment : พอถึงจุดนึง จะเริ่มปรับตัวได้ เริ่มเข้าใจสิ่งรอบๆตัวและ สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ยอมรับถึงความเป็นไปเป็นมาของรอบตัว
4. Adjustment : ระยะที่เราสามารถปรับตัวเข้ากับความแตกต่าง สามารถยอมรับและเข้ากับวิถีชีวิตใหม่ได้
ซึ่งแต่ละคนก็มีความปรับตัวและการรับมือต่อ Culture Shock แตกต่างกันออกไป บางคนปรับตัวได้ช้า เร็ว แล้วแต่ทัศนคติและความพยายามเปิดใจต่อสิ่งใหม่ๆ เรียนรู้ว่าแต่ละประเทศมีวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมแตกต่างกัน เมืองเราเปิดรับได้ ชีวิตก็ง่ายขึ้นค่ะ ทีนี้ทุกๆอย่างก็จะสนุกขึ้น
มาเรื่องของกิน อาหารขึ้นชื่อของโรมาเนียที่ต้องลอง นี้เลยคะ ซามาเล่ ( Sarmale ) เป็นกะหล่ำปลีห่อด้วยเนื้อข้างในกินคู่กับซาวครีม ( Sour cream ) และ สีเหลืองๆคือ มามาลิงก้า (mamalinga) เป็นแป้งข้าวโพดต้ม จนอืด พองเป็นก้อน รสชาติก็จืดๆ กินคู่กับซามาเล่ อร่อยอยู่ค่ะ จะอร่อยมากยิ่งขึ้นถ้าเป็นแบบโฮมเมด คนโรมาเนียนจะนิยมทำกินช่วงคริสต์มาสค่ะ อาหารยอดฮิตช่วงเทศกาล
เรื่องที่เจ๋งของโรมาเนียเรื่องนึงคือ ประเทศนี้ นักเรียนนักศึกษาสามารถนั่งรถไฟชั้นสามฟรีทุกเส้นทาง เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะสนับสนุนให้นักเรียนนักศึกษาในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เนื่องจากมีนักเรียนมากมายแต่เรียนอยู่ต่างจังหวัดและค่าเดินทางสูง รัฐบาลจึงได้ผ่านกฎหมายรถไฟฟรีสำหรับนักเรียน รวมถึงนักเรียนต่างชาติก็สามารถใช้ได้ค่ะ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวรอบๆโรมาเนีย เห็นเมืองเล็กๆ เมืองน่ารัก ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะได้ไป บอกเลยค่ะ ว่าโรมาเนีย วิวธรรมชาตินี้ สวยไม่แพ้ยุโรปตะวันตกเลย
อยากจะบอกน้องๆ ที่สนใจอยากศึกษาต่อต่างประเทศ แต่ไม่มีทุนทรัพทย์ หรือ ไม่กล้า กลัวว่าไปแล้วจะมีปัญหา กลัวสื่อสารไม่เข้าใจ กลัวต่างๆนาๆ จริงๆแล้ว ปัญหามันมีอยู่แล้วแต่ถ้าเรามองเป็นโอกาส ไม่มีปัญหา ปัญญาก็ไม่เกิด ตอนนี้ก็ปีสุดท้าย แล้วค่ะ ถ้าพี่ผ่านมันมาได้ น้องก็ต้องผ่านได้ค่ะ แถมได้รับโอกาสต่างๆมากมาย เช่น ได้ฝึกงานที่ City Hall ของเมืองคลูช ได้ไปแลกเปลี่ยนทุนอีรัสมุส( Erasmus ) หนึ่งภาคการศึกษาที่บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เราจะไม่ได้รับเลย ถ้าไม่ออกจาก Comfort Zone และถ้าเราไม่ตอบรับมาทุนโรมาเนีย ก็ไม่ได้เห็นว่าอีกซีกโลกหนึ่ง มีวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่แตกต่างกัน เปิดโลกของเรา มีเงินก็หาซื้อประสบการณ์วัยเรียนแบบนี้ไม่ได้อีกอีกครั้งในชีวิตค่ะ
"อย่ามัวให้โอกาสมาหาเรา เราต้องสร้างมันขึ้นมาค่ะ "
สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา