• พาไปดูการตรวจครรภ์แบบโบราณ จะท้องทั้งทีต้องหาวิธีรู้เพศลูกแบบไม่ต้องรอถึง 9 เดือน
สวัสดีชาว Blockdit ทุกท่านครับ
เนื่องจากเป็นบทความแรกของ CrocoHistory+
จึงจะถือเอาวันนี้เป็นวันเกิดของน้องเข้เลยก็แล้วกัน
เมื่อวันนี้ถือเป็นวันเกิด 🎂
น้องเข้จะขอเล่าประวัติศาสตร์ว่าด้วย "การตรวจครรภ์"
จะพาย้อนไปดูกันเลยว่า ก่อนจะมาเป็นชุดตรวจครรภ์แบบแท่ง ๆ ที่คุณผู้หญิงใช้กันทุกวันนี้ สมัยก่อนคนโบราณเขาตรวจครรภ์กันอย่างไร
กระดาษปาปิรุส (Papyrus) บันทึกวิธีตรวจครรภ์
เริ่มกันที่ "อารยธรรมอียิปต์" กระดาษปาปิรุส (Papyrus) อันเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการศึกษาเรื่องราวของอียิปต์ ได้บันทึกวิธีการตรวจครรภ์ของผู้หญิงยุคนั้นเอาไว้ด้วยนะครับ และไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ใช้เพียง 'เมล็ดข้าว' กับ 'ฉี่'
หญิงอียิปต์ที่มีอาการต้องสงสัยว่ากำลังตั้งท้อง ให้ปัสสาวะใส่เมล็ดข้าว 2 ชนิด คือ ข้าวสาลี (Wheat) กับ ข้าวบาร์เลย์ (Barley) แล้วรอเวลาสักพักให้เมล็ดข้าวทั้งสองทำปฏิกิริยากับปัสสาวะ คราวนี้ก็มาฟังผลกันว่า หญิงคนนั้นท้องจริงหรือแค่อ้วนลงพุงกันแน่
การปลูกข้าวในอารยธรรมอียิปต์
วิธีการตรวจครรภ์ง่าย ๆ ของชาวอียิปต์ คือการดูว่าเมล็ดข้าวที่หญิงคนนั้นฉี่รดลงไป เมล็ดใดจะงอกต้นอ่อนออกมา
หากเมล็ดข้าวบาร์เลย์งอกต้นอ่อน แปลว่าได้ลูกชาย
หากข้าวสาลีงอกต้นอ่อน ยินดีด้วยคุณได้ลูกสาว
แต่หากไม่มีเมล็ดใดงอกเลย นั่นแปลว่าหญิงผู้นั้นไม่ได้ท้อง ต้องหาเวลาไปเล่นจ้ำจี้แล้วมาตรวจใหม่อีกครั้ง
อย่าดูถูกภูมิปัญญาของชาวอียิปต์นะครับ เพราะถึงแม้จะเป็นการตรวจครรภ์ที่ดูจะแปลกไปหน่อย แต่คุณหมอในยุคเรานำวิธีฉี่รดเมล็ดข้าวมาทดสอบแล้ว พบว่าได้ผลถึง 70% กันเลยทีเดียว เพราะปัสสาวะของผู้หญิง มีฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในปริมาณสูงพอที่จะทำให้เมล็ดข้าวงอกต้นอ่อนได้จริง ๆ
อาชีพนักตรวจฉี่ (Piss Prophet)
คราวนี้น้องเข้จะว่ายน้ำขามวันข้ามคืน ไปดูการตรวจครรภ์ในยุคกลาง (Middle Age) กันบ้าง ยุคนี้คนเริ่มมีความรู้ทางการแพทย์กันบ้างแล้ว การตรวจครรภ์จึงทำโดยผู้เชี่ยวชาญ นั่นคือนักตรวจฉี่ (Piss Prophet)
หญิงยุคกลางเวลาสงสัยว่าตัวเองจะท้อง ก็จะนำฉี่ของตัวเองไปให้นักตรวจฉี่ การวินิจฉัยมีอยู่ว่า ปัสสาวะของหญิงตั้งครรภ์จะมีสีเหลืองจาง ๆ เหมือนผิวเลมอน และมีก้อนขุ่น ๆ คล้ายก้อนเมฆปกคลุมอยู่
ซึ่งก็เป็นคำวินิจฉัยที่สอดคล้องกับการพิสูจน์ของคุณหมอและนักวิทยาศาสตร์ในสมัยนี้นะครับ เพราะมีรายงานทางวิชาการบอกไว้ว่า ปัสสาวะของหญิงตั้งครรภ์จะมีผลึกชนิดพิเศษ จากการส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์นั่นเองครับ
Timeline แสดงพัฒนาการของการตรวจครรภ์
ยังไม่จบเพียงเท่านี้นะครับ พอกาลเวลาล่วงเลยมา เทคโนโลยีทางการแพทย์เริ่มทันสมัย ช่วงศตวรรษที่ 20 ก็มีการตรวจครรภ์โดยเอาปัสสาวะฉีดเข้าไปในตัวสัตว์ ทั้งหนู กระต่าย และกบ
อย่างการฉีดปัสสาวะเข้าไปในตัวหนู จะคัดเอาหนูเด็กที่ยังไม่ถึงวัยผสมพันธุ์ แต่ถ้าปัสสาวะที่ฉีดเข้าไปเป็นของคนท้อง ฮอร์โมนในปัสสาวะจะทำหนูเด็กตัวนั้นก็อยากจะผสมพันธุ์ขึ้นมาทันที
หรือการฉีดปัสสาวะเข้าไปในตัวกระต่าย ถ้าฉีดไปแล้วกระต่ายตัวนั้นตาย ก็สันนิษฐานว่าหญิงคนนั้นท้องแล้วจริง ๆ
ชุดตรวจครรภ์แบบตรวจด้วยตัวเองยุคแรกเริ่ม
แต่อย่าเพิ่งรีบร้อนไปใช้ชุดตรวจครรภ์แบบแท่งพลาสติก ประเภทแสดงผล 1 ขีด 2 ขีดนั้นเป็นเรื่องทันสมัยเกินไป แม้จะไม่ต้องไปจับสัตว์มาฉีดฉี่ให้พวกมันทรมานแล้ว แต่ชุดตรวจครรภ์แบบที่ผู้หญิงสามารถซื้อไปตรวจเองได้ที่บ้าน ระยะแรกยังดูเป็นอุปกรณ์ในห้องแล็บ มีราคาอยู่ที่ประมาณชุดละ 10 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ กันเลยล่ะครับ
ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ในปัจจุบัน
แล้วก็มาถึงที่ตรวจครรภ์แบบปัจจุบัน สังเกตกันหรือไหมว่า ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ตาม การที่ผู้หญิงจะรู้ได้ว่าตัวเองท้องจริงหรือจกตา ก็ต้องใช้สารตั้งต้นมาจากปัสสาวะด้วยกันทั้งนั้น
แต่ก็ทำให้เราเห็นถึงความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการแพทย์ น้องเข้คิดว่าโชคดีแล้วที่ทุกวันนี้เรามีชุดตรวจครรภ์ที่ทำได้ง่าย ไม่งั้นคงต้องลำบากเอาเมล็ดข้าวมาทำนาย ต้องจับสัตว์มาทดลองอีกไม่รู้กี่ตัว ดีนะที่ไม่ฉีดฉี่ใส่จระเข้ด้วย ไม่งั้นน้องเข้คงแย่เลย 😂
ครั้งหน้าน้องจะหาเรื่องสนุก ๆ ในประวัติศาสตร์มาเล่าให้ฟังกันอีก ฝากติดตามและแชร์เรื่องนี้ออกไปให้รู้โดยทั่วกันด้วยนะฮะ ขอบคุณล่วงหน้าครับ 🙏
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
