15 พ.ค. 2020 เวลา 20:16 • ท่องเที่ยว
แสงสุดท้ายที่ใครๆก็หลงไหล
ภาพจาก เที่ยวที่แล้ว
เที่ยวที่แล้ว ได้มีโอกาสได้ลาพักร้อนยาวๆซึ่งตรงกับ
ช่วงเดือนธันวาคมพอดีค่ะ
นานมากค่ะรอบนี้ กว่าจะได้หยุดพักกันสักที
เพราะดันติดลูกค้าที่เลื่อนการรับของออก
ไปหลายรอบด้วยกันค่ะ
ภาพจาก เที่ยวที่แล้ว
พอทำงานไม่ได้หยุดพักเลย ความเบื่อหน่ายมัน
ก็เริ่มกลับมา ความเหนื่อยล้าก็เริ่มครอบงำ
ในใจตอนนั้นอยากออกไปหา passion ในการ
ทำงานแล้วค่ะ
หลังเลิกงานวันนั้น6โมงเย็นไม่รอช้าค่ะ อาบน้ำ
เสร็จก็รีบเก็บเสื้อผ้าสัมภาระต่างๆ
ใส่เป้40ลิตรและก่อนออกจากบ้านก็ไม่ลืมที่จะ
หยิบตั๋วโดยสารที่ใช้พี่วินไปจองให้
ที่สถานีขนส่งเอกมัย ขึ้นรถตรงไปเกาะช้างที่
เดิมอีกเช่นเคยค่ะ
[ ถึงตรงนี้ ] อยากเล่าถึงความรู้สึกส่วนตัวของ
เราถึงการได้ออกเดินทางสักหน่อยค่ะ
ถึงแม้ว่าการเดินทางไปที่ไหนสักแห่งเรามักจะ
ไปแต่ที่เดิมๆมุมเดิมๆ
แต่มุมมองต่างรวมถึงประสบการณ์ข้างทางที่
เราได้รับนั้นจะแตกต่างกันออกไปทุกครั้งและ
ไม่เคยเบื่อเลยจริงๆค่ะ
ฉะนั้นการได้ออกเดินทางมันทำให้เรารู้สึก
เหมือนได้รับอิสระภาพจากพันธนาการต่าง
อย่างแท้จริงเลยละค่ะ
ท่าเรือเฟอร์รี่
หลังจากที่ลงจากเรือโดยสารเฟอรี่ เราก็ต่อ
โดยสารสาธารณะ ชื่อว่า2 แถวค่ะ ด้วยค่ารถ
คนละ80บาทค่ะ เพราะบนรถมีหลายคนก็ร่วมก
กันหารค่าโดยสารค่ะว่าด้วยของการเดินทางโดยรถ
โดยสารสาธารณะแบบนี้มันมีข้อดีอีกด้านก็คือ มัน
สามารถเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางของคุณที่
แตกต่างไปจากเดิมกว่าทุกครั้งค่ะ
[โดยเฉพาะรถไฟค่ะ เดี่ยวรอบหน้ามาเล่าให้ฟังกันนะคะ]
วิว2ข้างทาง : ภาพจากเที่ยวที่แล้ว
การเดินทางด้วยรถ 2 แถวที่ว่านี่นะคะ คุณจะ
ได้รับประสบการณ์ที่ต่างจากการเดินทางด้วย
รถส่วนตัวไปอย่างสิ้นเชิงเลยละค่ะ นั่นก็คือการชม
ทัศนียภาพบรรยากาศต่างๆจาก 2 ข้างทาง
และยังได้เจอเพื่อนร่วมเดินทางใหม่ๆเพื่อแลก
เปลี่ยนประสบการณ์ที่ดีต่อกันอีกด้วยละค่ะ
หลังจากที่เราร่วมกันเดินทางนั่ง 2 แถวผ่าน
หนทางอันคดเคี้ยวลาดชันสุดๆ มาสักพักก็มาถึงที่
หมายของเรากันแล้วค่ะ[ เรียกได้ว่า ร้องOh My
God! กันตลอดทางเลยทีเดียวค่ะ😂😬]
ภาพจาก เที่ยวที่แ
เรานั่งรอเช็คอินเข้าห้องสักพักที่หน้าฟร้อนท์
พร้อมกับดื่ม Well come drink เย็นๆ
ที่ทำมาจากน้ำตะใคร้หอมๆ ช่วยให้เราสดชื่น
จากความเหนื่อยล้าหลังจากการเดินทาง
มาทั้งคืน ช่วง11โมงกว่าๆเราก็ได้เข้าที่พักค่ะ
พอตื่นจากที่เอนหลังหลับไปสักพัก ราวๆ5โมง
เย็นก็ลุกออกมาเดินรับลมชมวิวพื้นที่แถว
รีสอร์ตรอบๆเพื่อแวะอะไรทานสักหน่อยค่ะ
บรรยากาศที่นี่นั้นเงียบสงบมากๆค่ะ สายลมเย็นๆ
พัดมาเอื่อยๆปะทะที่ใบหน้า เสียงนกร้อง
บวกกับเสียงคลื่นทะเลที่ซัดฝั่งเบาๆเป็นระรอก
มองตามพื้นหญ้าสีเขียวมีผีเสื้อตระกูลสีน้ำเงิน
ตัวเล็กๆขนาดลำตัวประมาณ1 เซ็นติเมตร บิน
ตอมดอกหญ้าไปมาอย่างเริงร่าราวกับว่าตัวมัน
เองกำลังเต้นเริงระบำ การมองพื้นที่สีเขียนานๆ
ก็ช่วยให้ผ่อนคลายสบายตาไม่น้อยเลยละค่ะ

ถัดจากมุมสนามหญ้านั้นก็จะเป็นส่วนของร้าน
อาหารของที่นี่ค่ะ ลักษณะเป็นแบบเปิดค่ะ
มีมุมน่านั่งเป็นบาร์เล็กๆติดกับชายหาดเลยค่ะ
นั่งรับกลิ่นไอของทะเลสายลมพัดเย็นสบาย
รอบนี้เรากะว่าจะมานั่งดูบรรยากาศพระอาทิตย์
ทิตย์ริมหาดกันหน่อยค่ะ
 
ได้ยินมาว่าช่วงปลายปีนั้นคลื่นลมจะดูสงบแล้ว
ท้องฟ้าจะสวยงามเป็นพิเศษค่ะ
หลังจากเลือกที่นั่งสักพัก เราก็เริ่มสั่งอาหารเย็น
กันค่ะ
ภาพจาก เที่ยวที่แล้ว
แหมมาทะเลทั้งทีเราก็ไม่พลาดที่จะสั่งอาหาร
ทะเลกันละค่ะซึ่งเมนูที่นั้น ก็จะเหมือนกับร้านอา
หารอื่นๆทั่วไปค่ะ จะแตกต่างกันไปอาหารทะเล
กันละค่ะ
หลังจากที่เราดื่มด่ำไปกับอาหารทะเลที่รักไปสักระยะ
ราวๆ 17:40. ก็มาถึงช่วงไฮไลต์ของเราวันนี้ค่ะ
ทางด้านขวามือที่นั่งของเราซึ่งก็คือชายหาด
ในขณะนั้นทุกคนต่างก็มองไปในทิศทางเดียวกัน
ราวกับว่ามีพลังงานบางอย่างดึงดูดสายตาเรา
นั่นคือแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ที่เลื่อนต่ำลงทำมุม
ขนานกับพื้นโลกจนกระทบกับท้องทะเลภูเขาและสิ่ง
ต่างๆจนเกิดแสงเงาที่สวยงามอย่างที่เห็นนี่ละค่ะ
แสงเย็น ภาพจาก เที่ยวที่แล้ว
มีหลายคนมองว่า นี่นับเป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ดู
อ่อนโยนมากที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ
เพราะโลกจะได้เย็นตัวลง แล้วเข้าสู่ช่วงราตรีที่
ยาวนานเช่นเดียวกับช่วงกลางวัน
ให้เราได้พักผ่อน เพื่อพร้อมที่จะเริ่มต้นวันใหม่
ในวันที่สดใสค่ะ
☕️ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายค่ะ
ลาทุกท่านไปด้วยภาพบรรยากาศฟ้ายามเย็น
แล้วพบกันใหม่ตอนหน้านะคะ....
✍🏼ฝากติชมติดตามเรื่องเล่าจาก เพจเที่ยวที่แล้ว ด้วยนะคะ
โฆษณา