15 พ.ค. 2020 เวลา 22:17 • สุขภาพ
บรรยากาศที่หายไป ในชุมชนมุสลิมอัตตักวาเชียงใหมปีที่แล้ว ก่อนเกิดโควิด19 ไทม์ไลน์การเกิดของชุมชน
การละหมาดในวันศุกร์ การประชุมของชุมชนมุสลิม
#ชุมชนมุสลิมอัตตักวาเชียงใหม่บรรยากาศละศีลอด
ปลายสมัยรัชกาลที่ 4 ประมาณปี พ,ศ.2410 มีพี่น้องมุสลิมกลุ่มหนึ่งจากประเทศอินเดีย เข้ามาตั้งหลักแหล่ง ในย่านสันป่าข่อย บริเวณถนนบำรุงราษฏร์ซอย 3 ถือเป็นมุสลิมกลุ่มแรกที่มาตั้งหลักปักฐานในพื้นที่นี้ ต่อมาก็มีมุสลิมเชื้อสายจีน ทยอยเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่เช่นกัน ในยุคนั้นชายมุสลิมชาติพันธ์ต่างๆ ดังกล่าวก็ได้แต่งงานกับคนพื้นเมืองในพื้นที่ ลูกหลานที่เกิดมาจึงเป็นลูกครึ่งที่มีทั้งครึ่งอินเดีย ครึ่งจีน เกิดเป็นผลผลิตของมุสลิมในล้านนา
การค้าขายอาหารละศีลอดในเดือนรอมฎอนเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2562
ต่อมามุสลิมหลายครอบครัวจากหลายพื้นที่ ก็อพยพขยายฐานมาตั้งหลักแหล่งในย่านวัดเกต บริเวณหลังห้างฯใหญ่ค้าไม้สัญขาติอังกฤษ นามบริษัทหรือห้างบอร์เนียว ซึ่งตอนนั้นยังพื้นที่ของชุมชนส่วนใหญ่ยังเป็นทุ่งนา นอกจากนั้นยังมีคนงานมุสลิมอินเดียที่ติดตามนายชาวอังกฤษของห้างบอเนียวอีกส่วนหนึ่งที่เข้ามาอาศัยในพื้นที่ ส่วนกลางชุมชนมีพี่น้องชาวไทยพุทธซึ่งถือเป็นชนกลุ่มใหญ่ในขณะนั้นเช่าที่ดินของห้างบอร์เนียวเป็นที่อยู่อาศัยจำนวนหลายสิบครอบครัว ร่วมกับพี่น้องมุสลิมอย่างสันติสุข
การเลี้ยงอาหารละศีลอดของมัสยิดอัตตักวาเชียงใหม่
ต่อมาในปี 2510 มีแกนนำมุสลิมในพื้นที่นำโดย นายยง ฟูอนันต์ นายสมพงษ์ อยู่อย่างไทย(เจ๋าจิ้งฟง) นายสุจิต ตรงเพียรเลิศ และพรรคพวก ก็ได้ดำริที่จะสร้างมัสยิดขึ้นเนื่องจากมัสยิดบ้านฮ่อ ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการรวมตัวของมุสลิมในยุคนั้น อยู่ไกล ลูกหลานจะเรียนศาสนาต้องเดินทางไปเรียนกันที่นั้น ซึ่งเด็กเยาวชนมุสลิมหลายคนก็หมดโอกาสไปเรียนเนื่องจากระยะทางและการเดินทางไม่สะดวก
ปี2512 จึงสร้างมัสยิด ขึ้นมา ชื่อมัสยิดสันป่าข่อย เป้าหมายเพื่อเป็นศูนย์กลางในการทำอิบาดัตเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า และเป็นที่จัดการเรียนการสอนศาสนาให้กับเด็กเยาวชนในชุมชน โดยทำการเปิดมัสยิด ในปี 2513 มีจุฬาราชมนตรี ต่วน สุวรรณศาสตร์ .มาเป็นประธานในพิธีเปิด ตั้งแต่นั้นมา มัสยิดอัตตักวาชียงใหม่ ก็เจริญเติบโตขึ้นมาตามลำดับ มีพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ต่างๆ ย้าย เข้ามาซื้อที่ดิน เพื่ออยู่อาศัย จุดมุ่งหมายเพื่ออยู่ใกล้มัสยิดรักษาตนเองและครอบครัวให้อยู่ในศาสนา
ปี 2515 แกนนำจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนาชื่อโรงเรียนจิตต์ภักดี โดยทางมัสยิดขอซื้อที่ดินจำนวน 5 ไร่ จากคุณแอนด์ เบน ลูกหลานของนายห้างบอร์เนียว มัสยิดอัตตักวาจึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องมุสลิมในและนอกชุมชน และยังเป็นศูนย์กลางของการศึกษาศาสนาอิสลามในพื้นที่ภาคเหนือจวบจนวันนี้
ชุมชนแห่งนี้เรียกรวมๆ ว่าชุมชนบ้านวัดเกต ซึ่งเป็นชุมชนที่ มีผู้คน ที่มีความต่างด้านศาสนา อยู่ร่วมกันถึง 4 ศาสนา อาทิ พุทธ คริสต์ อิสลาม และซิกข์ ต่างอยู่ร่วมกันมาอย่างยาวนาน ด้วยความรัก ความสามัคคี และความสันติสุข จึงเป็นชุมชนตัวอย่าง ที่ผู้คนหลายพื้นที่เข้ามาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง และมัสยิดอัตตักวา เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเข้าใจในอิสลาม
การเลี้ยงละศีลอด จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยแต่ละวันจะมีผู้ใจบุญสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงอาหารละศีลอดตลอดทั้งเดือนรอมฎอนด้วยหวังความโปรดปรานและความพึงพอใจจากพระผู้เป็นเจ้า อีกทั้งยังเป็นการหลอมรวมพี่น้องในชุมชนได้มีโอกาสพูดคุย กินอาหารร่วมกันเกิดความรักความสามัคคีขึ้นในชุมชน
ชุมชนมุสลิมอัตตักวาเชียงใหม่จึงเป็นชุมชนหนึ่งที่น่ามาเยือน สัมผัสกับวิถี อันถือเป็นตัวอย่างในการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม
ปีนี้เงียบเหงา พี่น้องต้องอยู่บ้าน การช่วยเหลือกันคือกสรแจกจ่ายอาหารแลถุงยังชีพให้กับชาวบ้านแทน
ชุมพล ศรีสมบัติ
โฆษณา