18 พ.ค. 2020 เวลา 00:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
S1. EP 1. Alpha stock : The top 10%
ลุงทุนอย่างไรให้ชนะตลาด???
มินิซีรีย์ "Seeking Alpha : ตามล่าหาสุดยอดไอเดียการลงทุน"
การลงทุนในปีนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากที่ตลาดหุ้นถูกถล่มด้วยวิกฤติ โควิท-19 โดยตั้งแต่ต้นปี ดัชนี SET ปรับตัวลดลงไปแล้วมากถึง -18.9% (ณ วันที่ 15 พ.ค. 2563)
นักลงทุนส่วนใหญ่ มักจะวัดผลงานของตัวเองเทียบกับดัชนีของตลาด ว่าเราสามารถเอาชนะตลาดได้หรือไม่ หากเราสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ ก็จะถือได้ว่าเราเดินมาได้ถูกทาง
ผมเองเชื่อว่าอย่างน้อย ในทุกๆ ไตรมาส เราควรมานั่งทบทวน ซักครั้งหนึ่งว่าการลงทุนที่ผ่านมา การตัดสินใจของเรานั้นเป็นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่งบการเงินรายไตรมาส ได้ประกาศออกมา แบบช่วงเวลานี้
โดยเราควรทำการตรวจสอบบริษัทในพอร์ตการลงทุนของเรา ว่ามีผลการดำเนินงานเป็นไปตามที่เราคาดหรือไม่ บริษัทสามารถสร้างกิจการให้เติบโตขึ้นได้หรือไม่ อนาคตต่อไปน่าจะดำเนินไปอย่างไร
แต่แค่นั้นอาจจะยังไม่พอ อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ ผมคิดว่าเราควรทบทวนดูด้วยว่าที่ผ่านมา เราพลาด เรามองข้าม อะไรไปหรือไม่ เช่นกัน
วิธีการหนึ่งที่ผมชอบใช้ นั้นคือการเอา ราคาหุ้นในตลาดทุกตัว ตั้งแต่ต้นปี มาเปรียบเทียบ กับราคาหุ้นในปัจจุบัน แล้วนำมาเรียงกันตามลำดับผลตอบแทนของราคาหุ้นจากสูงไปต่ำ ออกมาเป็น Histogram Chart ดังรูปนี้
การเปลี่ยนแปลงราคา ของหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทย
ซึ่งพอทำแบบนี้แล้วจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ต้นปีนี้ 85% ของหุ้นที่ trade ในตลาดมีราคาหุ้นลดลง โดยแท่งที่มีจำนวนหุ้นมากที่สุดนั้น มีผลตอบแทนระหว่าง -15% ถึง -10% ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะหุ้นที่เราเลือกมาแล้ว มีโอกาสที่จะพลาด มากกว่า โอกาสที่จะได้
แต่อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มหุ้นที่อยู่โซนขวาสุดโดยเฉพาะที่เป็น Top 10% แรกนั้น ยังมีผลตอบแทนราคาหุ้นเป็นบวกอยู่ ผมขอเรียกกลุ่มนี้ว่า "กลุ่ม Alpha" เป็นกลุ่มที่ outperform ตลาดได้อย่างดีเยี่ยม นักลงทุนอยากจะให้หุ้นที่เค้าเลือกเอาไว้มาปรากฏอยู่ในกลุ่มนี้ เพราะจะเป็นตัวที่ช่วย ดึงผลงานของพอร์ตการลงทุน ให้ชนะตลาดได้
1
ทีนี้เราลองมาดูกันว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี มีหุ้นตัวไหนบ้างที่วิ่งเข้ามาอยู่ในบริเวณที่เป็น Top10% (ขอยกตัวอย่าง บางบริษัท ที่มีมูลค่า Market capitalization > 8,000 ล้านบาทขึ้นไป) ซึ่งมีรายชื่อบริษัทตามรูปนี้
Some examples of The top 10%
หากเราเอาผลประกอบการณ์ไตรมาสที่ 1 ของบริษัทที่อยู่ในโซน Top10% เหล่านี้มาดู จะเห็นได้ว่า หลายๆบริษัท มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าปีที่แล้วมาก รวมทั้งยังมีสินค้าและบริการที่ ตอบโจทย์ในช่วงสถานการณ์ โควิท-19 อาทิ เช่น
STA (+77%) สามารถขาย ผลิตภัณฑ์ถุงมือยางที่มีอัตรากำไรที่ดี ได้มากขึ้น (บริษัทมี รายได้เติบโต 18% yoy กำไรสุทธิพลิกเป็นบวก ที่ 927 ล้านบาท)
MEGA (+17%) จากการขายผลิตภัณฑ์ยา อาหารเสริม วิตามินได้มากขึ้น (บริษัทมี รายได้เติบโต 19% yoy กำไรเติบโต 26% yoy)
TQM (+16%) มีการปรับตัวเพิ่มการขายประกันโควิทผ่านช่องทาง Digital (บริษัทมี รายได้เติบโต 24% yoy กำไรเติบโต 68% yoy)
และ MAKRO, ICHI, CBG, TFMAMA, RBF ได้ประโยชน์จากขายของบริโภคที่จำเป็น สามารถสร้างผลกำไรได้เพิ่มขึ้น เป็นต้น
เป็นที่น่าสนใจว่า ราคาหุ้นบริษัทเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้นกว่าตอนต้นปี ทั้งๆที่มีสถานการณ์โควิท -19 เกิดขึ้น
ประเด็นสำคัญที่เราสามารถเรียนรู้ จาก Chart นี้คือ
1. ในสภาวะที่ตลาดย่ำแย่ ไม่ใช่ราคาของหุ้นทุกตัวในตลาดจะลดลง แต่จะมีหุ้นกลุ่มหนึ่งที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ เพียงแต่ว่าเราจะมองมันออกได้ก่อนหรือไม่
2. หากเราไม่มีหุ้นในกลุ่มนี้ เราควรถามตัวเองว่า ในตอนนั้น เราเคยมีมุมมองอย่างไร ทำไมเราถึงไม่ได้สนใจซื้อ แล้วเหตุผลของเราในตอนนั้นคืออะไร
(เลือกเฉพาะตัวที่ราคาขึ้นมาด้วยเหตุผลที่ถูกต้องเท่านั้น คือ Right for the right reason เช่น ราคาที่เพิ่มขึ้นเกิดจากผลดำเนินงานที่ดีขึ้น)
3. หากหุ้นที่เราเลือกมักอยู่ในโซนด้านซ้ายของ chart อย่างสม่ำเสมอ เราควรจะทบทวนวิธีการตัดสินใจเลือกหุ้นของเราว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่
วิธีการนี้เป็น วิธีการหนึ่งที่ช่วยให้เราฝึกฝนพัฒนา มุมมองการลงทุนของเรา ให้เรามองให้ครบรอบด้านมากขึ้น หลายๆครั้งเราอาจจะพลาดการลงทุนที่ดีไป เพราะเหตุผลจากตัวเราเอง
ส่วนวิธีการหาหุ้นกลุ่ม Top10% "กลุ่ม Alpha" ในอนาคตที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนของเรานั้นชนะตลาดได้อย่างต่อเนื่องนั้น เป็นอะไรที่ยากมาก แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนที่มุ่งมั่นต่างไม่ยอมแพ้ เฟ้นหาแนวทางหลักการลงทุน และพยายามเพื่อทำให้สำเร็จ แล้วเราจะหาหุ้นเหล่านี้ได้อย่างไร?
ในมินิซีรีย์ชุดนี้ "Seeking Alpha : ตามล่าหาสุดยอดไอเดียการลงทุน" ผมจะขอแชร์หลักการแนวคิด กรอบการลงทุน จนถึงวิธีการปฏิบัติ สำหรับนักลงทุนที่มุ่งมั่นที่อยากจะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
บทความนี้เป็นบทความแรก หวังว่าจะทำประโยชน์ให้กับผู้อ่านได้ ไม่มากก็น้อย เอาไว้ติดตามกันต่อครับ
ขอให้สนุกและมีความสุขในการลงทุน
ขอบคุณครับ
ALPHA Investing
18/05/2020
หมายเหตุ :
1.การทำ chart ในบทความนี้ไม่ใช้วิธีการเลือกหุ้น หุ้นที่อยู่ในโซน Top10% ตอนนี้เป็นเรื่องในอดีต และไม่ได้การันตีว่าในอนาคต มันจะยัง perform ได้ดีอยู่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา นะครับ
2.การที่ผลประกอบการณ์ดีขึ้นใน 1 ไตรมาส นี้ก็ไม่ได้หมายความว่าหุ้นจะต้องเป็นบวกเสมอไปในทันทีทุกบริษัท โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สั้นๆ แต่ในระยะยาวแล้วผลประกอบการณ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจะทำให้มูลค่ากิจการเพิ่มขึ้นได้
3.เราสามารถปรับ Time frame ให้เหมาะสมกับตัวเรา เช่น หากเรามองการลงทุนในระยะ 3 ปี เราก็ track ไปปีละครั้งดูว่าบริษัทที่เราลงทุนนั้น อยู่ตำแหน่งไหนในลีกเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นตัวอื่นๆ ที่เราไม่ได้เลือก ทำไปจนครบ 3 ปี เป็นต้น
Reference:
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, set.or.th, รายงานผลประกอบการณ์ไตรมาสที่1 ปี2563, ข้อมูลราคาหุ้น ณ 15 พ.ค. 2563 เปรียบเทียบสิ้นปี 2562.

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา