16 พ.ค. 2020 เวลา 14:41 • สุขภาพ
ชวนคุยเรื่อง ต้นอ่อนทานตะวัน
มาทำความรู้จักกับต้นอ่อนทานตะวันก่อนค่ะ
ได้มาจากไหน??
คือต้นอ่อนของเมล็ดทานตะวันที่มีอายุการเพาะ
7 - 11 วัน
ใช้เวลาเพียงสั้นๆเองนะคะ เพื่อนๆทำเองไว้ทานที่บ้านได้เลยค่ะ
แล้วสรรพคุณของเค้าล่ะ?
ในต้นอ่อนทานตะวันมีสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย เช่น ไฟเบอร์ โปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม สังกะสีโพแทสเซียม ไขมัน
ต้นอ่อนทานตะวันจัดเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก
เพราะมีสารชนิดหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า GABA (gamma aminobotyric acid)กรดแกมมาอะมิโนบิวทีริก
ซึ่งเจ้าสารชนิดนี้มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันโรคมากมายหลายชนิด เช่น
- โรคมะเร็ง
- โรคเบาหวาน
- ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
- บำรุงเซลล์สมอง
- ป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ สายตา ชะลอความแก่ชรา
- นอกจากนี้ก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 บี 6 วิตามินอี วิตามินซี และเซเลเนียม กรดไขมันโอเมก้า 3, 6, 9 มีโฟเลทสูง
แล้วเหมาะกับใครบ้างล่ะ ที่รับประทานได้??
เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลยนะคะ
และดีเป็นพิเศษสำหรับหญิงตั้งครรภ์
นอกจากนี้ยังขจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ในปอด
โดยในศาสตร์ของแพทย์แผนอายุรเวทโบราณนั้น บอกไว้ว่า
ต้นอ่อนทานตะวันสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้อีกด้วย
จากข้อมูลการวิจัยของ Medical Center, University of Maryland สหรัฐ เมื่อปี 2553
ระบุว่า ต้นอ่อนทานตะวัน (Sunflower Sprouts) มีกรด Linoleic ในปริมาณมาก ช่วยในการบำรุงสมองและกระดูกให้แข็งแรง
ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินอี และโฟเลต ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
ป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง และช่วยให้ระบบขับถ่ายดีด้วย
นอกจากนี้ ข้อมูลการวิจัยของ International Sprout Growers Association เมื่อปี 2554
ระบุว่ามีธาตุเหล็กสูง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ อีกด้วย
ต้นอ่อนทานตะวันมีโปรตีนมากกว่าผักกาดเขียวถึง 2 เท่า วิตามิน A, B2, E, D, K
และยังมีวิตามิน A สูงกว่าน้ำมันเมล็ดข้าวโพดและเมล็ดถั่วเหลืองกว่า 3 เท่าเลยทีเดียว
ซึ่งจากข้อมูลต่างๆสรุปได้ว่า
เมื่อนำเมล็ดทานตะวันมาเพาะเป็นต้นอ่อนทานตะวัน คุณค่าทางอาหารจะเพิ่มมากขึ้น
เช่น มีโปรตีนสูงกว่าถั่วเหลือง มีวิตามินA สูง ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ และชะลอความแก่
ไม่ธรรมดาเลยใช่มั้ยคะ??
อยากให้เพื่อนลองเข้าไปศึกษาวิธีการเพาะต้นอ่อนทานตะวันกันนะคะ มันง่ายมากๆ
นอกจากจะปลูกผักกินเองเป็นแล้ว เรายังได้ผักที่ปลอดสารพิษ มารับประทานกันอีกนะคะ
นำมาทำอาหารได้หลากหายเมนูค่ะ ทั้งทานสดเป็นผักเคียง หรือทานสุก ในเมนูผัดต่างๆ
(ทานกับส้มตำแสนอร่อยเลยล่ะเพื่อนๆ)
อยากให้เพื่อนๆทุกคนทานอาหารให้เป็นยา ดีกว่าทานยาเป็นอาหารนะคะ
ร่างกายจะมีสุขภาพดีเริ่มจากอาหารดีๆมีประโยชน์
โฆษณา