16 พ.ค. 2020 เวลา 20:25 • ข่าว
อนาคตการบินไทย ใครได้ - ใครเสีย
ปัจจุบัน การบินไทยได้ให้บริการการบินไปยังท่าอากาศยานทั้งหมด 62 แห่ง ใน 32 ประเทศ (ไม่รวมประเทศไทย) แบ่งเป็นต่างประเทศ 59 สนามบิน ในประเทศไทย 3 สนามบิน
(ไม่รวมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) ครอบคลุม 3 ทวีปทั่วโลก จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยฝูงบินกว่า 81 ลำ
สหกรณ์ออมทรัพย์ 73 แห่ง ลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย คิดเป็นมูลค่าราคาทุนรวมแล้ว 36,181.24 ล้านบาท
และมีมูลค่ายุติธรรมในปัจจุบันอยู่ที่ 37,621.13 ล้านบาท
มีสหกรณ์ออมทรัพย์ 4 แห่ง ที่มีการลงทุนซื้อหุ้นสามัญของบริษัท การบินไทย มูลค่าราคาทุนรวม 273.93 ล้านบาท
โดยราคายุติธรรมปัจจุบันอยู่ที่ 97.45 ล้านบาท หรือขาดทุน 176.47 ล้านบาท
ผลประกอบการ
ในปี พ.ศ. 2556 ถึง พ.ศ. 2562 การบินไทยมีผลประกอบการขาดทุน
การบินไทยมีผลประกอบการ "กำไร" ล่าสุดใน ปี พ.ศ. 2559
โดยมีกำไรสุทธิ 15.14 ล้านบาท
การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 19 พฤษภาคม จะเป็นการชี้ชะตาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า จะแปรสภาพจากรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทเอกชนอย่างเต็มตัวหรือไม่
ถ้า ครม.มีมติให้การบินไทยยื่นต่อศาลล้มละลายเพื่อขอฟื้นฟูกิจการตามข้อเสนอของที่ประชุมร่วมระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ,นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นั่นหมายความว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้การบินไทยคงการเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังไม่ต้องมีภาระในการค้ำปกระกันเงินกู้ให้ของการบินไทยกว่า 50,000 ล้านบาท และเพิ่มทุนอีกประมาณ 80,000 ล้านบาทตามมติคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ก่อนหน้านี้
อนาคตของการบินไทยจะเป็นอย่างไร ถ้ามีการยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลาย ต้องดูรายละเอียดและขั้นตอนตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ.2483 ดังนี้
การยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายฉบับนี้ เป็นไปตามมาตรา มาตรา 90/2 ที่ระบุว่า เจ้าหนี้หรือลูกหนี้หรือหน่วยงานของรัฐตามมาตรา 90/4 (เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯลฯ) อาจร้องขอให้มีการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ได้ตามบทบัญญัติแห่งหมวดนี้ ไม่ว่า ลูกหนี้จะถูกฟ้องให้ล้มละลายแล้วหรือไม่
ในกรณีนี้ การบินไทย ในฐานะลูกหนี้สามารถยื่นขอฟื้นฟูกิจการเองได้
1
ในการยื่น เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ จะต้องมีข้อมูลประกอบด้วย
1. ความมีหนี้สินล้นพ้นตัวของลูกหนี้หรือไม่สามารถที่จะชำระหนี้ตามกำหนดได้
2. รายชื่อและที่อยู่ของเจ้าหนี้คนเดียวหรือหลายคนที่ลูกหนี้เป็นหนี้อยู่รวมกันเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท
3. เหตุอันสมควรและช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการ
4. ชื่อและคุณสมบัติของผู้ทำแผน
5. หนังสือยินยอมของผู้ทำแผน ซึ่งผู้ทำแผนอาจเป็นบุคคลธรรมดา นิติบุคคล คณะบุคคล เจ้าหนี้หรือผู้บริหารของลูกหนี้ก็ได้
นอกจากนั้นการบินไทยจะต้องแนบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดที่มีอยู่ รายชื่อและที่อยู่โดยชัดแจ้งของเจ้าหนี้ทั้งหลายมาพร้อมคำร้องขอ
เมื่อศาลล้มละลายมีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว การบินไทยจะได้รับการคุ้มครอง หลายเรื่อง (มาตรา 90/12) เช่น ห้ามมิให้ฟ้องหรือร้องขอให้ศาลพิพากษาหรือสั่งให้เลิกนิติบุคคลที่เป็นลูกหนี้ ถ้ามีการฟ้องหรือร้องขอคดีดังกล่าวไว้ก่อนแล้ว ให้ศาลงดการพิจารณาคดีนั้นไว้
-ห้ามมิให้นายทะเบียนมีคำสั่งให้เลิกหรือจดทะเบียนเลิกนิติบุคคลที่เป็นลูกหนี้และห้ามมิให้นิติบุคคลนั้นเลิกกันโดยประการอื่น
-ห้ามมิให้ฟ้องเป็นคดีแพ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้หรือเสนอข้อพิพาทที่ลูกหนี้อาจต้องรับผิดหรือได้รับความเสียหาย
-ห้ามมิให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ ถ้ามูลแห่งหนี้ตามคำพิพากษานั้นเกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน ในกรณีที่ได้ดำเนินการบังคับคดีไว้ก่อนแล้วให้ศาลงดการบังคับคดีนั้นไว้
-ห้ามมิให้เจ้าหนี้ซึ่งบังคับชำระหนี้ได้เองตามกฎหมาย ยึดทรัพย์สินหรือขายทรัพย์สินของลูกหนี้
-ห้ามมิให้ผู้ประกอบการสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ งดให้บริการแก่ลูกหนี้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลที่รับคำร้อง
เมื่อศาลรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว จะมีคำสั่งเรียกประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ ถ้าเจ้าหนี้ไม่คัดค้านก็ให้ผู้ทำแผนนั้นทำแผนมาเสนอต่อที่ประชุมเจ้าหนี้
แต่ถ้าเจ้าหนี้ไม่เห็นชอบผู้ทำแผนที่การบินไทยเสนอ เจ้าหนี้ต้องมีมติไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนหนี้ทั้งหมดของเจ้าหนี้กำหนดให้บุคคลอื่นเป็นผู้ทำแผน ถ้าศาลเห็นชอบด้วย ให้ศาลตั้งบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ
ศาตราจารย์ ดร.สหธน รัตนไพจิตร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายล้มละลายและการฟื้นฟูกิจการให้ความเห็นว่า การที่การบินไทยสมควรจะยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายหรือไม่ ต้องดูว่า ว่า รัฐบาลหรือกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ตั้งธงว่า อย่างไร
“ถ้าตั้งธงว่า ต้องการให้การบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจต่อไป ก็ไม่ควรยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลาย แต่ควรฟื้นฟูกิจการหรือเจรจากับเจ้าหนี้นอกศาล ซึ่งทำให้รัฐบาลมีอำนาจต่อรองและเจรจากับเจ้าหนี้แต่ละรายได้ง่ายกว่า เมื่อทำแผนฟืนฟูกิจการแล้ว แม้ต่อมาขายทรัพย์สินหรือขายหุ้นก็จะได้ราคาดีกว่า แต่ก็ต้องผ่าตัดองค์กรอย่างจริงจังไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของฝ่ายใด” รศ.สหธนกล่าว
จากกระบวนการฟื้นฟูกิจการดังกล่าว เห็นได้ว่า การยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายเพื่อขอฟื้นฟูกิจการข้อดีคือ รัฐปลดภาระไม่ต้องอุ้มการบินไทยด้วยเงินนับแสนล้านบาทอีกต่อไปโดยไม่มีหลักประกันว่า การฟื้นฟูกิจการจะทำสำเร็จหรือไม่ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาพิสูจน์แล้ว รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยล้มเหลวในการกอบกู้องค์กรแห่งนี้โดยเฉพาะปัญหาการทุจริตที่เกาะกินการบินไทยมาอย่างยาวนานและเชื่อว่า เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้การบินไทยขาดทุน
อย่างไรก็ตาม การยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาล แน่นอนว่า กระทรวงการคลัง ต้องสูญเสียหุ้นที่ถืออยู่กว่าร้อยละ 50 ไปทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด แต่โอกาสที่จะฟื้นฟูกิจการสำเร็จมีมากกว่า เพราะเจ้าหนี้ที่เป็นเอกชนต้องพยายามรักษาผลประโยชน์ของตนเองในการ ‘ผ่าตัดองค์กร’ ให้เกิดความโปร่งใสโดยไม่คำนึงหรือการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจทางการเมือง
เป็นที่ยอมรับว่าการบินไทยมีการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจทางการเมืองโดยข้อเท็จจริงการบินไทยมีกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ 17 คน (นับถึงปี พ.ศ. 2559)
ในระยะเวลาตลอดที่ทำการบินตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 - พ.ศ. 2557 เมื่อเฉลี่ยแล้วกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทยอยู่ในตำแหน่งเพียง 3 ปี 5 เดือน การแทรกแซงอื่นที่ปรากฏ อาทิ การจัดซื้อเครื่องบิน การจัดเส้นทางบิน การปลดกรรมการผู้จัดการใหญ่ การโยกย้ายกรรมการบริษัท ซึ่งมักจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล
ขณะที่ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “หนี้การบินไทย 245,000 ล้านบาท สินทรัพย์ 257,000 ล้านบาท ขายทุกอย่างที่มีอาจไม่พอชำระหนี้...”
การตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะ 'อุ้ม' หรือ 'ไม่อุ้ม' บริษัท การบินไทยนั้น ไม่เพียงแต่จะมีผลกระทบต่อสายการบินแห่งนี้เท่านั้น แต่ยังกุมชะตากรรมของสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์นับแสนคน ที่เป็นเจ้าหนี้ของ บริษัท การบินไทยอีกด้วย
ขณะที่ประชาชนคนไทยตาดำๆ ที่เริ่มรู้สึกตะหงิดใจ ต่างออกมาตั้งคำถามว่า ในเมื่อประชาชนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียเวลาการบินไทยทำกำไร แล้วทำไมเวลาขาดทุน ต้องเอาภาษีของประชาชนไปหมุน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้การบินด้วย?
และ ณ ขณะนี้ คนไทยค่อนประเทศต่างมีคำถามต่อการบินไทยว่า “ตอนกำไรไม่เห็นได้ประโยชน์อะไรกับสายการบินนี้ ถ้าไม่มีเงินเหลือๆ ก็ไม่เคยได้ขึ้น แต่พอขาดทุนไปต่อไม่ไหว ทำไมคนไทยต้องเข้าไปอุ้ม!?”
โฆษณา