Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชีวิตนักเรียนนายร้อย ณ ดินแดนกระทิงดุ ¡ Viva España !
•
ติดตาม
17 พ.ค. 2020 เวลา 02:12 • ไลฟ์สไตล์
ตอนที่ 2 ก่อนก้าวเท้าเข้ารั้วโรงเรียนเตรียมทหาร
ขณะนั้นผมเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ณ โรงเรียนประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง ปีนั้นเป็นปีที่มีสิทธิสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร
นักเรียนส่วนใหญ่ที่นี่มีความมุ่งมั่นจะสอบเข้ามหาลัยในคณะแพทย์ วิศวะ เภสัช น้อยคนนักที่จะเลือกรับราชการอย่างผม อาจเป็นเพราะครอบครัวส่วนใหญ่มีอาชีพนั้นๆ ก็เป็นได้
ผมหาข้อมูลมาแล้วพบว่าตั้งแต่รุ่น 1-24 ซึ่งเป็นรุ่นผมมีคนสอบเข้าเป็นทหาร-ตำรวจ ไม่ถึง 10 คน ข้อมูลในแผนกแนะแนวโรงเรียนก็เลยมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับการสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ผมจึงไปขอให้อาจารย์ช่วยหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับเนื้อหาวิชาที่ต้องสอบ ขั้นตอน และวันเวลาในการสอบปีนั้น มันไม่ง่ายเหมือนปัจจุบันที่สามารถหาข้อมูลอะไรก็ได้ในกูเกิ้ล แค่พิมพ์สิ่งที่ต้องการลงไป ก็จะได้รับรายละเอียดต่างๆมาทันที
เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว ทั้งเนื้อหาวิชาที่จะสอบ ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคม ผมจึงเริ่มต้นเตรียมตัวทันที โดยการไปร้านหนังสือเพื่อซื้อข้อสอบเก่าๆมาลองทำ ซึ่งจำได้ว่าเนื้อหาในบางวิชายังไม่เคยได้เรียนในโรงเรียน จึงต้องซื้อหนังสือเสริมมาอ่านเพิ่มเติมในวิชานั้นๆ
ระยะเวลาเตรียมตัวประมาณ 6 เดือน ผมยอมไม่ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนเหมือนอย่างที่เคยทำ กลับมานั่งอ่านหนังสือ ทำข้อสอบ และเตรียมร่างกายเพื่อเดินตามความฝัน
หลังเลิกเรียนในวันธรรมดากลับมาบ้านรีบอาบน้ำ กินข้าว เพื่อได้มีเวลาทบทวนหนังสือของโรงเรียน และเพื่อสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารพร้อมกัน จนดึกทุกวัน ในวันหยุดต้องตื่นมาออกกำลังกายในตอนเช้า อ่านหนังสือ ทำข้อสอบซ้ำๆ วนไปมา
ถ้าถามว่าเหนื่อยหรือไม่ ตอบได้เต็มปากว่า ไม่เคยเหนื่อยเท่านี้มาก่อนในชีวิต ต้องนอนดึก ตื่นเช้าทุกวัน ทำสิ่งเดิมซ้ำๆ
แต่ถือว่าเป็นเป้าหมายของชีวิตผมครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ก็เลยลองเต็มที่กับมันดู
เวลาผ่านไป 5 เดือน เหลือ 1 เดือนสุดท้ายก่อนถึงวันสอบภาควิชาการ ณ ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอม เดือน มี.ค.46
ผมขอคุณพ่อเข้าเมืองหลวงเพื่อไปติวกับค่ายติวแห่งหนึ่ง 1 เดือนเต็ม
ชีวิตในค่ายติวนั้น เหมือนเป็นชีวิตจำลองในโรงเรียนเตรียมทหาร มี รปจ. คือระเบียบปฏิบัติประจำ(สิ่งที่ต้องทำทุกวัน) เหมือนในโรงเรียนเตรียมทหาร ตื่นนอนตอนเช้ามาออกกำลังกาย เข้าห้องเรียน กินข้าว อ่านหนังสือ จนถึงสวดมนต์ก่อนนอน
อีกทั้งมีรุ่นพี่นักเรียนเตรียมทหารที่ปิดเทอม เข้ามาอยู่คอยดูแลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
มีข้อดีอีกหลายๆข้อ ได้แก่
1. เมื่อเราได้สัมผัสความเป็นอยู่แบบนี้ ทำให้เรารู้ว่าเหมือนสิ่งที่เราคิดไว้หรือไม่ ชอบหรือไม่ชอบ ใช่หรือไม่ใช่ชีวิตที่เราอยากจะเป็น และเลือกเดิน
2. ทำให้รู้จักระบบรับผิดชอบร่วมกัน ถ้ามีคนใดคนหนึ่งไม่ทำตามกฎที่ค่ายติวตั้งไว้ ก็ต้องรับผิดชอบเป็นส่วนรวม เป็นการสอนให้รู้จักตักเตือนเพื่อนเมื่อเพื่อนจะทำความผิด
3. ในวันสอบภาควิชาการ ทางค่ายติวจะพาไปสถานที่สอบนั้นๆ อำนวยความสะดวกให้ ไม่ต้องเดินทางด้วยตนเอง
4. ทำให้รู้ระดับความรู้ทางวิชาการ และความสามารถทางร่างกายในหมู่คนที่จะไปสอบ ค่ายติวจัดสอบวิชาการทุกวิชา และทดสอบร่างกายหลายครั้ง เพื่อเรียงลำดับคะแนนให้เราดู
เสียงนาฬิกาปลุกดัง ทุกคนตื่นขึ้นทำภารกิจส่วนตัว แต่งตัวชุดนักเรียนของตัวเอง และแล้ววันสอบภาควิชาการวันแรกก็มาถึง
ผมเดินทางไปพร้อมกับทุกคน
เพื่อนใหม่มากมายจากค่ายติวนี้ ได้ให้กำลังใจกันและกัน การสอบดำเนินการตั้งแต่เช้าจรดเย็น ติดกัน 3 วันสำหรับผมที่เลือกสอบ เหล่าทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ เมื่อสอบเสร็จทั้งสามวันแล้ว ผมจึงเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดทันที รอลุ้นผลสอบผ่านทางเวบไซต์ของโรงเรียน
ในที่สุดวันประกาศผลสอบมาถึง ความตื่นเต้นที่มีมาตั้งแต่วันสอบเสร็จจนถึงวันนี้ วันนี้มีมากที่สุด ลุ้นจนเหงื่อตก เปิดเวบไซต์ทั้ง 3 เวบโรงเรียนพร้อมกัน และค่อยๆดูรายชื่อ
หารายชื่อตัวเองไม่เจอทั้งผลสอบสามโรงเรียน ความผิดหวัง ความรู้สึกหนักๆเหมือนมากดทับที่หน้าอกเกิดขึ้น น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว เสียใจที่สุดในชีวิต คิดว่าทุ่มเทเวลาให้ขนาดนี้ ทำไมยังไม่สำเร็จ ผมสอบไม่ผ่านรอบแรก นี่คือความจริงที่ไม่อาจจะหนีได้
ผมจะทำอย่างไรต่อ โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
ก่อนเข้ารั้วโรงเรียนเตรียมทหาร เขาเป็นแค่เด็กนักเรียนมัธยมตัวเล็กๆคนนึง
บันทึก
1
2
1
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย