“ให้ RMF ช่วยเติมเต็ม PVD ของคุณ”
เมื่อเราเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สิ่งแรกๆ ที่เราต้องจำขึ้นใจ คือ
“เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง และไม่เกิน 500,000 บาท”
ซึ่งในกลุ่มก้อน 500,000 นั้น ยังมี กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ Retirement Mutual Fund หรือ RMF เข้าร่วมแจมอีกด้วย
ต้องเกริ่นก่อนว่า....
กองทุนรวม RMF กำเนิดเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2544 หลัง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2526
แต่วัตถุประสงค์ ก็เพื่อสนับสนุนให้คนไทยเก็บออมระยะยาวเพื่อเอาไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณอายุเหมือนกัน
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถออมใน RMF ได้เองโดยไม่ต้องผ่านนายจ้างเหมือนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เหตุผลส่วนหนึ่ง การจัดตั้ง RMF ก็เพื่อช่วยเติมเต็มให้คนที่ไม่สามารถเข้าถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จัดตั้งมาก่อนหน้านั้นได้นั่นเอง
อย่างเช่น บางคนทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่ไม่มีเงินลงทุนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพราะบริษัทไม่มีสวัสดิการตรงนี้ให้ หรือคนที่มีอาชีพอิสระ ไม่มีนายจ้าง ก็ย่อมไม่สามารถเข้าถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้อยู่แล้ว เป็นต้น
โดยผู้ลงทุนใน RMF ก็ยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้เหมือน PVD เช่นกัน
อย่างที่เล่าไปก่อนหน้าว่า สิทธิลดหย่อนภาษีก็อยู่ในวงเงินเดียวกัน คือ 500,000 บาท
ดังนั้น พวกเราเหล่าสมาชิกกองทุนฯ ก็สามารถลงทุนเพิ่มเติมใน RMF ได้ แต่รวมแล้วอย่าให้เกินเงื่อนไขที่กำหนดไว้เท่านั้นเอง
ในที่นี้ผู้เขียน จะยังไม่กล่าวถึงกองทุนหรือการลงทุนในรูปแบบอื่นที่อยู่ในวงเงินเดียวกันกับ PVD และ RMF อย่าง กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.),ประกันชีวิตแบบบำนาญ หรือแม้แต่กองทุนรวมเพื่อการออม SSF (Super Saving Fund) นะคะ
เนื่องจาก จุดประสงค์ของบทความนี้ ผู้เขียนอยากจะแชร์ไอเดียว่า RMF ช่วยเติมเติม PVD ได้อย่างไร
ปะ เข้าเรื่อง........
“RMF กองไหน เหมาะกับเรา”
ไม่ยาก ลองกลับไปดูว่า PVD ของคุณ ลงนโยบายแบบไหนอยู่
🔹เช่น ถ้านโยบาย PVD ของคุณเป็นนโยบายผสม คือ มีสัดส่วนการลงทุน ทั้งหุ้น และตราสารหนี้อยู่แล้ว เมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่คุณรับได้ คุณยังพอใจกับการลงทุนในนโยบายนี้อยู่
ในส่วน RMF คุณก็สามารถนำเงินมาลงทุนนโยบายผสมที่ใกล้เคียงกับ PVD เดิมได้
ตัวอย่าง RMF นโยบายผสมที่ให้ผลตอบแทนเด่น ณ วันที่ 17/05/2020
ที่มา : WealthMagik
🔸หรือ PVD ของเราที่ลงทุนอยู่ เป็นนโยบายตราสารหนี้ระยะสั้น หรือตราสารหนี้ภาคเอกชน ซึ่งเป็นนโยบายที่มีระดับความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง
แต่เมื่อเทียบความเสี่ยงที่เรารับได้แล้ว เรายังสามารถรับความเสี่ยงได้สูงกว่านั้น
เราอาจเลือกลงทุนในนโยบายอื่นที่เสี่ยงขึ้น เพื่อเพิ่มผลตอบแทนระยะยาวให้สูงกว่าได้ โดยอาจจะเพิ่มการลงทุนในตราสารทุน หรือหุ้น ใน RMF ได้
RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น มีให้เลือกมากมาย ทั้งหุ้นไทย และต่างประเทศ หรือ RMF ที่ลงทุนหุ้นเป็นรายอุตสาหกรรม เช่น เน้นลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เน้นลงทุนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เน้นลงทุนหุ้นกลุ่มเพื่อสุขภาพ เป็นต้น
ตัวอย่าง RMF นโยบายตราสารทุน ที่ให้ผลตอบแทนเด่น ณ วันที่ 17/05/2020
ที่มา : WealthMagik
🔸อีกมุมมองหนึ่ง ที่อยากแชร์ คือ สำหรับบางคน อาจจะรับความเสี่ยงได้สูง แต่เค้าอาจมีการลงทุนในหุ้นเองโดยตรงอยู่แล้ว เงินที่อยู่ใน PVD จึงไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากหุ้นอีก ก็สามารถเลือกลง RMF ในตราสารหนี้ได้เช่นเดิม แต่อาจจะกระจายไปลงทุนในนโยบายตราสารหนี้ต่างประเทศ ก็ได้
ตัวอย่าง RMF นโยบายตราสารหนี้ ที่ให้ผลตอบแทนเด่น ณ วันที่ 17/05/2020
ที่มา : WealthMagik
🔹สุดท้าย หากใครสนใจลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก ที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน ก็สามารถลงทุนเพิ่มเติมจากนโยบายเดิมที่ลง PVD อยู่ได้ โดยแนะนำให้ลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 20% ของ PVD
เนื่องจาก การลงทุนสินทรัพย์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น ทอง น้ำมัน มูลค่าสินทรัพย์จะขึ้นอยู่กับราคา อุปสงค์ อุปทาน เป็นหลัก เพราะสินทรัพย์เหล่านี้ไม่มีผลตอบแทนในตัวมันเอง กล่าวคือ ทองคำ น้ำมัน นั้น ไม่มีดอกเบี้ยเหมือนตราสารหนี้ และไม่มีเงินปันผลเหมือนหุ้น ทำให้มูลค่าทรัพย์สิน หรือ NAV ของกองทุนขึ้น ลง ตามความต้องการของตลาดเป็นหลักนั่นเอง
ตัวอย่าง RMF นโยบายอื่น ที่ให้ผลตอบแทนเด่น ณ วันที่ 17/05/2020
ที่มา : WealthMagik
หวังว่า เพื่อนๆ คงพอได้ไอเดียไปต่อยอดในการลงทุนเพื่อเกษียณสุขของเรานะคะ
เราสามารถใช้ RMF มาเติมเต็มส่วนที่ขาดของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเราได้ เพียงแค่เราใส่ใจเพิ่มสักนิด ทำความเข้าใจอีกสักหน่อย เกษียณสุขอย่างมั่งคั่งอยู่ไม่ไกลตัวเราแน่นอนค่ะ
วันนี้ได้ไอเดียการลงทุนแล้ว ไว้จะมาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขต่าง ๆ นะคะ ไม่ยุ่งยากทุกคนปฏิบัติตามได้แน่นอนค่ะ
อย่าลืมติดตามนะคะ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
