17 พ.ค. 2020 เวลา 06:18 • ครอบครัว & เด็ก
มาต่อกันที่ ep.2 นะคะ ❤❤❤
ขอบคุณภาพจาก : https://pixabay.com
น้องตกลงยอมจะกลับบ้านแต่โดยดี แต่มีข้อแม้ว่า...ฉันต้องเป็นคนลงไปส่งน้องให้กับคุณตา เพราะน้องอยากอยู่กับฉันต่ออีกหน่อย และแน่นอน ฉันตามใจความไร้เดียงสาชองเธออีกเช่นเคยด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง 😊
เราเดินจับมือกันจนถึงรถคุณตา และโบกมืออำลากันด้วยหน้าตาอันยิ้มแย้ม สร้างความตะลึงต่อใครหลายๆคน ซึ่งแน่นอนคำถามที่ฉันโดนถามต่อมาคือ..ทำไมน้องยอมคุยกับฉัน ทำไมลงมาช้า เพราะเหตุใดน้องจึงไม่อยากกลับบ้าน
แต่ฉันกลับตอบคำถามเหล่านั้นไม่ได้ เพราะไม่ทราบว่าจะตอบอย่างไร ฉันทำมุกอย่างตามปกติ แต่เป็นตัวน้องเองที่กลับตอบสนองต่อฉันดีซะเหลือเกินจนมีแรงสอนวิชาต่อไป
สัปดาห์ต่อมา ฉันเพิ่งทราบว่าน้องไปขอเจ้าของสถาบันว่าให้ฉันเป็นผู้สอนน้องถาวรได้หรือไม่ พระเจ้าา !! น้องงงงง 55555 ไปรวบรวมความกล้ามาจากไหน และแล้วสืบเสาะก็พบความจริงอีกอย่างว่า ฉันให้น้องดูการ์ตูน 😂😂 โดนตำหนินิดหน่อยแต่พี่เจ้าของใจดีมาก เขาถามเหตุผลทุกครั้ง และฉันจึงเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้สึกน้องให้พี่เข้าฟัง
ฉันจึงทิ้งท้ายด้วยคำถามที่ว่า....พี่คิดว่าน้องพร้อมแล้วจริงหรือคะ ที่จะมาเรียนพิเศษที่อัดแน่นวิชาการขนาดนี้ ด้วยอายุเพียงเท่านี้
และแน่นอน ฉันไม่หวังที่จะได้คำตอบ เพราะคนที่ควรตอบคำถามนี้ไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นคุณแม่ของน้องต่างหาก
สัปดาห์ต่อไปหลังจากนั้น ฉันยังคงเจอประโยคเดิมๆจากเด็กน้อยคนนี้ที่ลงจากรถคุณแม่ และเปิดประตูวิ่งเข้ามาถามฉันว่า .... วันนี้พี่จะสอนหนูรึปล่าว และคำตอบที่ฉันตอบทุกครั้งคือ วันนี้พี่ไม่ได้สอนค่ะ เด็กน้อยจับมือฉันไม่ยอมปล่อย และอิดออดที่จะเข้าเรียนกับครูประจำ
บทเรียนจากเด็กน้อยผมเปียคนนี้ ทำให้ฉันได้ข้อคิดในหลายๆเรื่อง...
1) เด็กวัยนี้เหมาะจะเรียนพิเศษอัดวิชาการแน่นขนัดแล้ว จริงๆหรือ ???
ฉันเข้่าใจในความห่วงใยของผู้ใหญ่ ที่กลัวว่าถ้าไม่เรียนพิเศษ เด็กจะเรียนไม่ทันเพื่อน จึงให้เรียนจนไม่มีเวลาพัก จ.-ศ.ต้องเรียนที่โรงเรียน ส.-อา.ต้องเรียนพิเศษวิชาการ
ฉันไม่ได้ต่อต้านหรืออะไรทั้งนั้นในความคิดนี้ แต่ฉันเพียงคิดว่า เด็กควรได้เรียนตามความสมัครใจในความสนใจของตัวเองด้วย ซึ่งส่วนนี้คงมีความสำคัญไม่น้อยกว่าตำราวิชาการ อย่างน้อยก็มาในรูปแบบของความสุข
ฉันเชื่อว่าศาสตร์ทุกแขนงล้วนมีความสำคัญพอๆกัน ไม่ด้อยไปกว่ากันเลยค่ะ แล้วศาสตร์แขนงไหนล่ะ ที่สามารถสร้างรอยยิ้ม บาลานซ์ระหว่างความเครียดทางวิชาการ และ ความสุขของเด็กๆได้ 💜🤗
2) เด็กวัยนี้ ถึงเวลาแล้วหรือคะ ที่จะส่งไม้ต่อให้สถาบันกวดวิชา ทั้งที่แม่ก็ช่วยสอนได้ และลูกก็อยากให้แม่สอนมากกว่าครู 🐥
นั้นเป็นเพราะพวกเขาใช้ชีวิตอยู่กับครูอย่างเต็มที่แล้ว 5 วัน/สัปดาห์ เขาจึงอยากเล่น อยากอยู่กับครอบครัวบ้าง แล้วเขาจะรู้สึกอย่างไรที่โดนผลักให้ไปอยู่กับแม่คนที่ 2 ครบทั้ง 7 วัน
3) กิจกรรมของเด็กวัยนี้ จริงๆแล้วคืออะไรกันแน่ ??
ย้อนภาพฉันตอนเด็ก ฉันตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อมานั่งดูโมเดิร์นไนน์การ์ตูน / ดิชนีย์คลับตั้งแต่สมัยพี่นัด-พี่แนน และต่อด้วยแก้วหน้าม้า 5555
ตอนเที่ยงรอแม่ทำกับข้าวให้กิน และวาดรูปต่อ ตอนนั้นมันมีความสุขมากเลย ที่จะทำอะไรก็อยู่ท่ามกลางคนในครอบครัว และบางเวลากลับทำให้ฉันหยิบหนังสือเรียนมาหัดอ่านโดยไม่มีใครเตือน คำไหนอ่านไม่ออก ก็จะวิ่งไปถามแม่ให้อ่านให้ฟัง
จริงๆแล้ว การเรียนรู้มีทุกที่ถ้าเราหาเจอ แต่ความอบอุ่นจากครอบครัว กลับหาได้จากคนในครอบครัวเท่านั้น 👪
4) กิจกรรมภายในครอบครัว ความรักความอบอุ่นจากคนในครอบครัว คือสิ่งที่ลูกต้องการ เพียงแค่เขาอาจไม่กล้าเอ่ยปากขอเท่านั้น .....
จะดีกว่ามั้ย ถ้าพ่อและแม่จับมือกัน และเป็นคนที่หยิบยื่นโอกาสเหล่านี้ให้ลูกเอง คุณอาจจะเห็นรอยยิ้มของลูกที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้นะคะ ❤
5) ความเครียดสะสมที่มากเกินไปในใจเด็ก อาจจะเป็นรอยแผลเป็นเล็กๆในใจ รอผู้เป็นพ่อและแม่มาทายาให้เพื่อสมานแผลให้หล่านั้น พร้อมเล่านิทานให้ฟังสักเรื่อง กอดเขาสักหน่อย เพื่อให้แผลหายดีขึ้น ✌🐰
6) การอัดวิชาการที่แน่นเกินไป อาจทำให้เกิดความล้าในภายหลังได้
ทุกอย่างมีความพอดีในตัวเอง ฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยอ่านหนังสือทุกคืนในช่วง ม.ปลาย ไม่ดูละครทีวีเลย ทั้งที่ติดมากๆ เพราะกลัวเกรดจะหล่น นั้นเป็นเรื่องที่ดีนะคะ
แต่พอเข้ามหาวิทยาลัย ฉันกลับรู้สึกเหนื่อยล้ากับสิ่งเหล่านั้นเหลือเกิน เคยพยายามมาเยอะจนไม่อยากทำแบบเดิม แน่นอน..เกรดมหาลัยฉันไม่ได้สวยหรูเหมือนตอน ม.ปลาย จนเกิดคำถามจากเพื่อนหลายๆคน ว่า " ทำไมเกรดฉันเหลือแค่นี้แล้ว ไม่เหมือนตอน ม.ปลายเลย "
ฉันตอบไม่ได้และรู้สึกเหนื่อยล้าเต็มที 😢
แต่สำหรับเพื่อนบางคนนั้น เพิ่งมาฟิตตอนมหาลัย ก่อนหน้านั้นก็เรียนๆเล่นๆ แต่เชื่อมั้ย !! คนเหล่านี้พลังเต็มเปี่ยม จนเกรดขยับขึ้นและมากกว่าฉันซึ่งแค่เป็นคนที่เคยขยันในอดีตซะอีก
ฉันเคยถาม และได้คำตอบว่า พวกเขาไม่ค่อยอ่านหนังสือเลยที่ผ่านมา และตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกเข้าจะหิวกระหายการอ่านหนังสือขึ้นมาบ้าง พวกเขาจึงจัดไปอย่างเต็มสูบ !!!
ทุกอย่างล้วนมีเวลาในตัวมันเองค่ะ บางอย่างไม่จำเป็นต้องรีบร้อน พอถึงเวลาที่เหมาะสม มันจะเดินทางมาหาเราเอง เราแค่เตรียมอ้าแขนรับมันก็พอ ❤❤❤
โฆษณา