การศึกษาออนไลน์ เหมาะสมหรือไม่ และถ้าเหมาะสม เหมาะสมกับใคร
ภาพเด็กคนหนึ่งกำลังซื้อโทรศัพท์ด้วยเงินเก็บเพื่อเรียนออนไลน์ ภาพจาก เฟซบุ๊ก เสาวลักษณ์ จันทกนก ใน https://hilight.kapook.com/view/202317
ถ้าใครได้ดูข่าวในปัจจุบัน เราจะพบว่านับตั้งแต่มีโควิดระบาดขึ้น ทั่วโลกก็เริ่มที่จะปรับตัวกันในหลาย ๆ ด้าน จนกลายเป็นคำว่า ชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal และหนึ่งในรูปแบบการศึกษาแนวใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น คือ การศึกษาออนไลน์ (Online - Education)
การศึกษาออนไลน์ จริงๆ แล้วไม่ใช่รูปแบบใหม่แต่อย่างใด เนื่องจากเมื่อทั่วโลกเริ่มมีอินเตอร์เน็ต คนทุกคนก็เริ่มที่จะทำเว็บไซต์เกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ รวมไปถึงข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเป็นการกระจายข่าวสารไป สำหรับบางคนเห็นว่ารูปแบบการใช้อินเตอร์เน็ตนี้ จะช่วยให้การเรียนรู้สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว จึงได้จัดการเรียนรู้ในแบบออนไลน์ขึ้น และการศึกษาแบบออนไลน์นี้ก็ได้มีการขยายไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับประเทศไทยแล้ว เมื่อย้อนกลับไปดูการศึกษารูปแบบออนไลน์แล้วจะพบว่าได้มีมหาวิทยาลัยหนึ่งที่เริ่มจัดทำระบบการศึกษาทางไกลขึ้น คือ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงมหาวิทยาลัยได้มีโอกาสเรียนรู้เพิ่มเติม ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ใช้วิธีการเรียนการสอนแบบออนแอร์ผ่านช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ในช่วงเวลาเช้า และผ่านวิทยุคลื่น AM. ภายหลังมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชได้เพิ่มเว็บไซต์เข้ามาและได้เพิ่มคลิปเสียงเข้าไปในเว็บไซต์ในห้อง Audio on Demand ทำให้รูปแบบการเรียนออนไลน์จึงเริ่มขึ้น และมีการพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ภาพอุปกรณ์ต่างๆ ของสำนักเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ภาพจาก https://oet.stou.ac.th/
นอกเหนือจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชแล้ว ประเทศไทยมีการศึกษาระบบทางไกลวังไกลกังวล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงจัดการศึกษาขึ้น เพื่อให้คนที่ห่างไกลจากโรงเรียน ได้มีโอกาสเรียนหนังสือผ่านโทรทัศน์หรือครูตู้ มาสอนนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้เข้าถึงการศึกษา โดยในช่วงเวลานั้นจะให้นักเรียนที่ไม่มีโอกาสได้มาที่โรงเรียนหรือสถานที่กลางที่สามารถจัดได้ มาเรียนรวมกันทำให้การศึกษาเข้าถึงคนทุกกลุ่มได้มากขึ้น
ภาพ การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ภาพจาก https://www.brighttv.co.th/รัชกาลที่-9/ครูตู้-ครูพระราชทาน-การศ
อีกกลุ่มหนึ่ง คือ ทรูปลูกปัญญา ได้ทำระบบออนไลน์เพื่อให้คนที่สนใจด้านการศึกษา หรือนักเรียนได้มาเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อเสริมความรู้จากโรงเรียน รวมไปถึงยังเข้าถึงการศึกษาได้มากขึ้นอีกด้วย
ภาพ ทรูปลูกปัญญา ภาพจากhttps://siamrath.co.th/n/62367
ที่ผ่านมาการศึกษาออนไลน์ เป็นการศึกษาแบบทางเลือก ซึ่งนักเรียนหรือครูที่สนใจด้านการศึกษา จะเข้าไปตามเว็บไซต์ หรือแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลที่จะนำไปช่วยสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนให้มากขึ้น
เมื่อเข้าสู่ยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงโควิด กระทรวงศึกษาธิการได้สั่งปิดโรงเรียน เนื่องจากเกรงว่าเชื้อโรคจะระบาดเข้าโรงเรียน ดังนั้นจึงพยายามมุ่งเน้นให้ผู้เรียนเข้าสู่การเรียนรู้ในช่วงเวลาที่หยุดเรียน โดยมีคำกล่าวว่า "โรงเรียนหยุดได้ แต่การศึกษาจะหยุดไม่ได้" คำกล่าวนี้เป็นคำกล่าวที่ถูกต้อง แต่บางครั้งก็ต้องมองถึงความพร้อมในหลาย ๆ อย่าง ซึ่งหลาย ๆ คนเกรงว่าจะเรียนไม่ทัน รวมไปถึงหลาย ๆ คน อยากที่จะเรียน อยากที่จะรู้ ส่วนครูก็กลัวว่าถ้าไม่ทำตามที่กระทรวงศึกษาธิการกล่าวไว้ อาจมีผลเสียต่ออาชีพ จึงพยายามทำให้นักเรียนเข้าถึงให้ได้ ถ้าดูกันตรงนี้จะพบว่าคนที่พร้อมจริง ๆ มักจะเป็นคนที่มีฐานะ รวมถึงส่วนใหญ่เป็นนักเรียนในเมือง ส่วนชนบทบางคนประสบปัญหาเหล่านี้ ดังนั้นแล้วจึงกลายเป็นเหมือนกับภาพข่าวในตอนต้น
ทีนี้ว่าแล้วการศึกษาออนไลน์เหมาะสมกับใคร การศึกษาออนไลน์เหมาะสมกับ 1. คนที่ไม่สะดวกจะไปโรงเรียน ในที่นี้ขอกล่าวว่าเป็นกลุ่มคนที่ไม่สบายและต้องหยุดอยู่กับบ้านเป็นเวลานาน รวมถึงนักกีฬาที่ต้องแข่งขันระดับประเทศ และช่วงที่แข่งขันเสร็จก็เอาช่วงเวลานี้มาเรียนรู้
2. คนที่ต้องการเรียนในบ้านอย่างแท้จริง (Learn From Home) รูปแบบนี้จะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ต้องการจะไปโรงเรียน หรือ ครอบครัวสามารถที่จะดูแลเด็กได้อย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากมองว่าโรงเรียนไม่ดีพอสำหรับคนกลุ่มนี้ ฉะนั้นแล้ว จึงต้องใช้การศึกษาออนไลน์
3. คนที่ต้องการเพิ่มเติมจากการเรียนรู้ในห้องเรียน เนื่องจากปัจจุบันมีครูที่เก่ง มีความรู้ มีความสามารถมากมาย และครูเหล่านี้ได้ออกมาทำคลิปวีดีโอความรู้เผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ ทำให้นักเรียนสามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้ ดังนั้นแล้วการเรียนออนไลน์จึงเหมาะสมกับพวกเขา
ส่วนที่ไม่เหมาะ คือ คนที่ไม่พร้อมในกำลังทรัพย์ เนื่องจากประเทศไทยยังมีอีกหลาย ๆ คนที่มีปัญหาเรื่องฐานะการเงิน รวมไปถึงเครือข่ายต่าง ๆ แม้ว่าจะเข้าถึงแล้ว แต่ก็อาจจะไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะใช้ได้ ฉะนั้นแล้ว คนเหล่านี้ควรได้รับการช่วยเหลือ เพื่อให้พวกเขาเข้าถึงการศึกษาได้โดยใช้อุปกรณ์รวมทั้งหมด
โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าการศึกษาทางไหนมันก็ดีหมดทุกอย่าง แต่ขึ้นอยู่กับว่าความพร้อมของคน ของอุปกรณ์ ถ้าทุกอย่างพร้อมแล้ว ทุกคนก็อยากให้การศึกษาออนไลน์เกิดขึ้นอย่างเต็มรูป เพื่อให้นักเรียนทุกคนสามารถที่จะเข้าถึงการศึกษาและพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่องตามที่ได้วางไว้นั่นเอง
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
