18 พ.ค. 2020 เวลา 09:30 • ประวัติศาสตร์
เรื่องจริงในประเทศรัสเซียกับบุคคลผู้ส่งผลให้โฉมหน้าประวัติศาสตร์เปลี่ยนไปตลอดกาล
จากสามัญชนสู่ผู้มีอิทธิพลในราชวงศ์โรมานอฟ "รัสปูติน" พ่อมดสายมืด
รัสปูติน เกิดในหมู่บ้าน Pokrovskoye เมืองกิวเวอร์เนีย แถบตะวันตกของประเทศรัสเซีย หมู่บ้านแห่งนี้เป็นแหล่งเกษตรกรรม ชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกข้าวโพด ข้าวบาร์เลย์และผักผลไม้
รัสปูตินใช้ชีวิตที่นี่และทำงานเกษตรกรรมตามแบบชาวบ้านทั่วไป ครอบครัวของเขาไม่ได้มีฐานะร่ำรวย ส่วนงานเกษตรกรรมทำให้เขาพออยู่พอกิน ไม่ได้มีชีวิตที่ลำบากอะไร
แต่แล้วในช่วงอายุ 15-16 ปี กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อผู้หญิงในหมู่บ้านจำนวนหลายคนรุมจับรัสปูตินข่มขืน เหตุเพราะอวัยวะเพศที่ใหญ่เกินเด็กทั่วไปของเขา
7
แต่ทำไปทำมาแทนที่รัสปูตินจะรู้สึกโกรธแค้นหรือเจ็บปวด เขากลับเกิดอารมณ์และกลายเป็นความชอบแทน จนเริ่มรู้ตัวเองว่าขนาดอวัยวะเพศที่ใหญ่เกินกว่าคนทั่วไปนี่แหละคือจุดเด่นของเขา
นั่นทำให้รัสปูตินชื่นชอบการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นชนิดไม่เลือกหน้า
หลังจากนั้น พอรัสปูตินอายุได้ราว 19 ปี ก็หันเหตัวเองเข้าสู่ลัทธิคลิสติ ลัทธินี้เชื่อว่ามนุษย์มีบาปติดตัว ต้องทำพิธีกรรมทรมานตัวเองหรือนำจิตเข้าสู่ภวังค์ถึงจะช่วยให้เข้าหาพระเจ้าได้
3
แต่สำหรับรัสปูตินเมื่อเข้าสู่ลัทธินี้ เขากลับมองว่าแค่พิธีกรรมดังกล่าวคงไม่อาจทำให้ผู้คนเข้าถึงพระเจ้าได้ หากอยากเข้าหาพระผู้เป็นจริง ต้องทำตัวเองให้อยู่ในสภาวะที่เรียกว่า "ไร้ซึ่งกิเลสตัณหา"
รัสปูตินเชื่อว่าวิธีการที่จะทำให้อยู่ในสภาวะดังกล่าว คือต้องร่วมเพศแบบต่อเนื่องจนกว่าจะหมดอารมณ์ไปเอง
2
เขานำความเชื่อนี้ไปเผยแพร่แก่ผู้คนและร่วมหลับนอนกับผู้หญิงไปทั่ว โดยว่ากันว่าหากหญิงใดได้มีสัมพันธ์สวาทกับรัสปูตินแล้ว ผู้นั้นจะสามารถหลุดพ้นจากบาปหรือหายจากโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างน่าอัศจรรย์
ผู้คนนำเรื่องราวของชายวิเศษไปบอกเล่าต่อกันทั่วเมือง จนรัสปูตินเริ่มมีชื่อเสียงกับพิธีกรรมประหลาดแบบนี้มากขึ้น
ว่ากันว่ารัสปูตินมีอำนาจในการสะกดจิต สามารถทำนายโชคชะตาและรักษาโรคได้ หรือใครตกทุกข์ได้ยากเมื่อเจอรัสปูตินทุกคนจะหายจากความทุกข์นั้นเป็นปลิดทิ้ง
นั่นทำให้ผู้คนเกิดความศรัทธาและกลายเป็นผู้วิเศษที่ทุกคนอยากพบเจอ เพราะเชื่อว่าแค่เพียงได้ลูบไล้หรือสัมผัสร่างกายของเขา ผู้นั้นก็จะสามารถหายจากโรคต่างๆ ได้ทันที
1
ในขณะที่รัสปูตินเริ่มมีชื่อเสียง ช่วงเวลานั้นเป็นเวลาที่เจ้าชายอเล็กซี พระราชโอรสองค์สุดท้องของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 และพระราชินีอเล็กซานดราป่วยเป็นโรคฮิโมฟิเลีย หรือโรคที่มีเลือดไหลไม่หยุดอย่างรุนแรง ซึ่งดูเหมือนว่าหมอจากวังจะไม่สามารถทำให้เจ้าชายหายเป็นปกติได้
พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 และพระราชินีอเล็กซานดรา ทรงเป็นห่วงเจ้าชายมาก เพราะทั้งสองพระองค์มีพระโอรสเพียงองค์เดียวและต้องการให้เจ้าชายได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อ
ดังนั้นพระองค์ไม่มีทางเลือก หากมีวิธีใดที่จะทำให้เจ้าชายหายได้ ทั้งสองพระองค์จะทำอย่างไม่ลังเล นั่นทำให้หมอหลายคนถูกเชิญเข้าวังในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเพื่อเข้ามารักษาเจ้าชาย
แต่จนแล้วจนรอดอาการของเจ้าชายอเล็กซีก็ยังไม่ดีขึ้น แถมกลับมีอาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนพระราชินีอเล็กซานดราต้องพึ่งหมอทางไสยเวทย์แทน
ซึ่งบุคคลทางไสยเวทย์ที่สามารถรักษาโรคร้ายให้หายได้และมีชื่อเสียงดังที่สุดในตอนนั้นไม่มีใครแล้วนอกจาก "รัสปูติน"
1
รัสปูตินถูกเชิญเข้าวังเพื่อรักษาอาการของเจ้าชายอเล็กซีในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยพระราชินีอเล็กซานดราทรงเข้ามาทอดพระเนตรวิธีการรักษาด้วยพระองค์เอง
เมื่อรัสปูตินเข้ามาในห้อง เขาเห็นเจ้าชายนอนอยู่บนเตียงในอาการที่ไม่ดีนัก เขาเดินไปที่เตียงเจ้าชายแล้วพูดคุยอะไรบางอย่างอยู่สักพัก ในขณะที่พระราชินีอเล็กซานดราทรงทอดพระเนตรอยู่ห่างๆ
รัสปูตินพูดคุยกับเจ้าชายไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ใช้ยาวิเศษใดๆ เลย แต่เขาใช้วิธีสะกดจิตและท่องคาถาอะไรบางอย่าง จนเจ้าชายค่อยๆ มีสีหน้าดีขึ้น และหายจากอาการเจ็บปวดได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดต่อหน้าพระราชินีอเล็กซานดรา พระองค์ทรงประทับใจวิธีการรักษาของรัสปูตินมาก เพราะไม่เคยมีหมอคนไหนทำให้เจ้าชายมีอาการดีขึ้นทันตาได้แบบนี้มาก่อน
ราชสำนักจึงเชิญตัวรัสปูตินเข้ามาอยู่ในวังทันที และคอยรักษาเจ้าชายอเล็กซีเมื่อมีอาการกำเริบ จนในที่สุดเขาก็กลายเป็นคนสนิทของคนในราชวงศ์โดยเฉพาะสัมพันธ์สวาทกับเหล่า"ผู้หญิงชั้นสูง"
รัสปูตินมีพิธีกรรมการร่วมเพศอันลือชื่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอเข้ามาอยู่ในวังเขาก็พาเหล่าคนชั้นสูงมาหลับนอนร่วมเพศ โดยที่ทุกคนล้วนเต็มใจและพร้อมเสนอตัวให้รัสปูตินชนิดที่ต้องแย่งกัน
รัสปูตินเป็นคนที่มีเสน่ห์เรื่องความสัมพันธ์ทางเพศมาก โดยเฉพาะอวัยวะเพศที่ยาวถึง 13 นิ้วของเขา!! มันยาวและใหญ่เกินกว่าชายทั่วไปในแบบที่หาไม่ได้
หญิงชั้นสูงหลายคนล้วนอยากมาลองเจ้าโลกของรัสปูติน เพราะการได้ร่วมเพศกับเขานอกจากจะได้อารมณ์ทางเพศแล้ว ทุกคนต่างเชื่อว่ามันจะช่วยให้หายจากโรคร้ายหรือบาปกรรมต่างๆ ได้ด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ รัสปูตินจึงใช้ชีวิตไปกับการดื่มเหล้า เต้นรำ และพัวพันกับผู้หญิงอย่างไม่เลือกหน้า ไม่เว้นแม้แต่เหล่าภรรยาของคนชั้นสูงก็เสร็จรัสปูตินเกือบทุกราย เขาใช้เสน่ห์หว่านล้อมพากันมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะแบบเดี่ยวหรือแบบหมู่ รัสปูตินทำมาหมดแล้ว
5
พฤติกรรมของรัสปูตินเริ่มร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมีข่าวว่าแม้แต่พระราชินียังหลงใหลในตัวรัสปูติน
มาถึงตอนนี้คนในราชวงศ์บางกลุ่มเริ่มไม่พอใจกับพฤติกรรมและข่าวอื้อฉาวของเขา โดยเฉพาะกลุ่มเจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟ แต่พระองค์ยังคงทำอะไรไม่ได้มาก เพราะรัสปูตินเป็นคนสำคัญของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 และพระราชินีอเล็กซานดรา พวกเขาจึงเฝ้าดูอย่างเงียบๆ และรอจังหวะกำจัดรัสปูตินต่อไป
รัสปูตินเองยังคงใช้ชีวิตเสเพลอยู่ในวังแบบนี้ไปเรื่อยๆ แม้จะถูกลอบสังหารมาหลายครั้ง แต่ก็ดูเหมือนว่ารัสปูตินยังคงใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
จนเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1915 พระเจ้าซาร์ทรงพาจักรวรรดิรัสเซียเข้าสู่สงครามและทรงออกไปบัญชาการการรบด้วยพระองค์เอง
นั่นทำให้พระเจ้าซาร์มอบหมายให้ซารินาอเล็กซานดรา ดูแลกิจการบ้านเมืองไปแทนก่อน แต่ด้วยความที่พระองค์เป็นห่วงอาการของเจ้าชายอเล็กซีมาก จึงทรงให้รัสปูตินคอยดูแลกิจการรัฐแทน
มาถึงตรงนี้ คนในราชวงศ์ชั้นสูงไม่พอใจเป็นอย่างมากที่รัสปูตินเข้ามามีอำนาจรัฐ
เพราะรัสปูตินใช้อำนาจอย่างมั่วซั่ว สั่งย้ายคนนู้นคนนี้เป็นว่าเล่น ใครอยากได้ตำแหน่งใหญ่ต้องมาเข้าหารัสปูติน จนดูเหมือนว่ารัสปูตินกลายเป็นผู้มีอำนาจและมีอิทธิพลมากกว่าคนชั้นสูงบางกลุ่มไปเสียแล้ว
เจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟ ที่เฝ้าดูรัสปูตินมานานจึงถือโอกาสนี้วางแผนสังหารรัสปูตินเสีย โดยพระองค์ร่วมมือกับกลุ่มผู้นำฝ่ายขวาของสภารัสเซียที่นำโดยนายวลาดิเมียร์ ปูริชเควิช
เจ้าชายเฟลิกซ์เองรู้ดีว่าที่ผ่านมา การลอบสังหารรัสปูตินไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จ แต่ครั้งนี้พระองค์จะใช้จุดอ่อนของรัสปูตินที่ชอบมั่วผู้หญิงและเมายาสังสรรค์ โดยการเชิญร่วมงานเลี้ยงที่พระองค์จะจัดเอง แล้วทำการวางยาพิษใส่อาหารหวังให้รัสปูตินกินและตายในงานนั้นทันที
1
แต่การเชิญให้รัสปูตินมางานเลี้ยงธรรมดาๆ คงไม่อาจเป็นแรงดึงดูดรัสปูตินได้มากพอ เจ้าชายเฟลิกซ์เลยหลอกล่อรัสปูตินว่า "เจ้าหญิงอิรินา อเล็กซานดรอฟนา คนที่รัสปูตินหลงใหลต้องการพบเขาที่งานนี้ด้วย"
1
30 ธันวาคม 1916 งานเลี้ยงในวังมอยก้า เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของเจ้าชายเฟลิกซ์ถูกจัดขึ้น รัสปูตินแขกคนเดียวของงานเข้ามานั่งในห้องที่เตรียมไว้
เจ้าชายเฟลิกซ์ ชวนเขาจิบชาและกินขนมเค้กที่ผสมยาพิษและไซยาไนด์ในปริมาณที่กินแล้วเสียชีวิต
รัสปูตินกินขนมเค้กเหล่านั้นไปเรื่อยๆ แต่กลับไม่เป็นอะไรเลย ยาพิษที่ผสมลงในอาหารไม่ทำให้รัสปูตินมีอาการผิดปกติใดๆ มิหนำซ้ำเขายังกินมันแบบไม่มีหยุดและคอยถามหาแต่เจ้าหญิงอิรินา อเล็กซานดรอฟนา
1
มาถึงตรงนี้ เจ้าชายเฟลิกซ์เริ่มหัวเสียกับรัสปูตินมาก พระองค์เดินขึ้นไปชั้นบนของห้องเพื่อปรึกษากลุ่มผู้ร่วมแผนการ ก่อนจะลงมาหารัสปูตินและพูดคุยกันไปเรื่อยๆ จนเจ้าชายเริ่มทนไม่ไหว พระองค์คิดว่าจะต้องกำจัดชายผู้นี้ในวันนี้ให้ได้
ในขณะที่รัสปูตินกำลังเผลอ เจ้าชายเฟลิกซ์ได้โอกาสพอดีจึงใช้ปืนยิงเข้าไปที่ตัวรัสปูติน แต่เขากลับไม่ตายเจ้าชายกระหน่ำยิงไปอีก เขาก็ยังไม่ตายอยู่ดี
รัสปูตินในขณะนั้นพยามต่อสู้กับเจ้าชาย ในขณะที่ผู้ร่วมแผนการวิ่งลงมาจากห้องชั้นบนและรุมยิงรัสปูตินแต่ก็ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้
2
ว่ากันว่ารัสปูตินสามารถวิ่งหนีทั้งๆ ที่โดนยิงไปหลายนัดราวกับปีศาจ จนกระสุนไปโดนที่ศรีษะและหลังอีก 4 นัด เขาจึงลงไปนอนแน่นิ่ง
2
หมอผู้ร่วมแผนการเข้ามาตรวจศพและบอกว่ารัสปูตินตายแล้ว ทั้งหมดจึงนำศพห่อและนำไปทิ้งไว้ที่แม่น้ำเนวาที่กำลังเย็นจัด
หลังจากนั้นผ่านไป มีผู้พบเห็นศพของรัสปูตินและนำมาชัณสูตรศพ ก่อนจะพบว่า "แท้จริงแล้วรัสปูตินยังไม่ตายจากการถูกยิงและไม่ได้ตายเพราะอากาศที่หนาวเย็นในแม่น้ำแต่เขาตายเพราะสำลักน้ำต่างหาก"
หลังจากการตายของรัสปูตินพวกเขาหารู้ไม่ ว่ารัสปูตินได้ฝากข้อความบางอย่างไว้กับพระราชินีอเล็กซานดราหรือพระเจ้าซาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งข้อความที่ว่านั้น คือคำสาปของรัสปูตินที่กล่าวไว้ว่า "กระหม่อมรู้ตัวว่าจะต้องตายในอีกไม่นาน แต่เมื่อใดก็ตามที่การตายของกระหม่อมเกิดจากคนในเชื้อพระวงศ์ ราชวงศ์นี้จะต้องสูญสิ้นด้วยน้ำมือประชาชนภายใน 2 ปี"
1
และเหตุการณ์หลังการตายของรัสปูตินก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เมื่อในปี 1918 กลุ่มพรรคปฏิวัติคอมมิวนิสต์เข้ามาโค่นล้มระบอบกษัตริย์และจับเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์มาสังหารหมู่จนราชวงศ์โรมานอฟล่มสลายในที่สุด
สุดท้ายนะครับ ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรแต่คำสาปของรัสปูตินมันก็เกิดขึ้นจริง ซึ่งเรื่องเหล่านี้คงจะถูกเล่าขานกันไปอีกนาน
ส่วนใครมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเลยนะครับ
ปล.อวัยวะเพศของปูตินที่ยาว 13 นิ้ว ปัจจุบันถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ สามารถพิมพ์หาดูในกูเกิ้ลได้เลย ทางสมองจ๋าขอนุญาตไม่นำมาลงรวมไปถึงรูปศพเพราะมีเด็กและเยาวชนเข้ามาอ่านเยอะนะครับ
โฆษณา