18 พ.ค. 2020 เวลา 01:01 • ข่าว
“นโยบายประชารัฐ” เอื้อทุนใหญ่ รวยอู้ฟู่ 76-251% เหลื่อมล้ำพุ่งจ่ออันดับ 1 โลก
ความเหลื่อมล้ำไทย ช่อง3 ข่าวเศรษฐกิจ 6 ธ.ค. 2018
ตัวเลขคนตกงาน หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น
ความเหลื่อมล้ำพุ่งขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน 5 ของโลก
ประเทศไทยมีช่องว่างระหว่างคนมีรายได้สูงที่สุดกับรายได้ต่ำที่สุดถึง 10.3 เท่า
- ความไม่เสมอภาค ติดอันดับที่ 25 ของโลก
- ความเหลื่อมล้ำในมิติความมั่งคั่ง ติดอันดับ 10 ของโลก (2018)
ความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งของไทย ช่วง 6 ปีที่ผ่านมา
(2013-2019) “เพิ่มขึ้น” ร้อยละ 2.5
หรืออาจหมายความว่า คนรวยในประเทศไทยมีทรัพย์สินสะสมสูงกว่าคนจนมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ข้อมูลจาก World Economic Forum (2018) ระบุว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งสูง เป็นอันดับที่ 10 ของโลก จากทั้งหมด 107 ประเทศ
ข้อมูลทรัพย์สินของ5เจ้าสัว โดยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 25 กพ.2563
ความเหลื่อมล้ำพุ่ง เนื่องจากการใช้อำนาจรัฐหรือนโยบาย เอื้อประโยชน์ และสร้างระบบผูกขาด จนสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับบรรดา ‘เจ้าสัวใหญ่’ อย่างมหาศาล
มีการอ้างข้อมูลนิตยสารชื่อดังต่างประเทศว่า 6 ปี ภายใต้การบริหารของพล.อ.ประยุทธ์นั้น 'เจ้าสัว 5 ตระกูลใหญ่' มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นชนิดที่เรียกว่า ‘รวยแบบก้าวกระโดด’
บางตระกูลทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจาก 3.74 แสนล้านบาท เป็น 9.41 แสนล้านบาท หรือรวยขึ้น 251% บางตระกูลทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจาก 4.13 แสนล้านบาท เป็น 6.7 แสนล้านบาท หรือรวยขึ้น 234% เทียบกับเศรษฐกิจไทยในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา (2557-62) ที่เพิ่มขึ้น 26.1%
แต่ทว่าความมั่งคั่งร่ำรวยของบรรดาเจ้าสัวทั้งหลาย กลับ ‘สวนทาง’ กับหนี้สินครัวเรือนไทยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน จนระดับหนี้สินพุ่งแตะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา
และเมื่อพิจารณาจากเงินฝากในบัญชีของคนไทยที่มีทั้งหมด 80.2 ล้านบัญชี คิดเป็นเงินฝาก 12 ล้านล้านบาท แต่พบว่ามีคนไทยที่มีเงินติดบัญชีน้อยกว่า 3,142 บาทคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 56% ของบัญชีทั้งหมด และน้อยกว่า 500 บาท คิดเป็นสัดส่วน 32.8% สะท้อนได้ว่าคนไทยเกือบ 90% มีเงินฝากในบัญชีน้อยกว่า 3,100 บาท
สะท้อนถึงช่องว่างรายได้และการถือครองทรัพย์สินระหว่าง ‘คนรวย-คนจน’ ที่อยู่ในระดับสูง และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของไทยพุ่งขึ้นไปอยู่ในลำดับต้นๆของโลกในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ออก 3 รายงานที่เกี่ยวข้องกับความเหลื่อมล้ำของไทย
เพื่ออธิบายในหลายมิติ โดยรายงานภาพรวมความเหลื่อมล้ำของไทยในศตวรรษที่ 21 จะเน้นเป็น 3 มิติ ได้แก่
ด้านรายได้
ไทยมีความเหลื่อมล้ำอยู่ในระดับสูง โดยปี 2015 อยู่ที่ 38% แม้จะปรับตัวดีขึ้นจากปี 1991 ที่อยู่ระดับ 46% แต่ความแตกต่างของรายได้กลุ่มที่มีรายได้สูงที่สุดกับกลุ่มที่มีรายได้ต่ำที่สุดอยู่ที่ 10.3 เท่า ซึ่งกลุ่มรายได้สูงสุดมีรายได้รวมกันเกิน 50% ของประชากรไทย
ทั้งนี้ในมิติจำนวนคนจนพบว่า 50% คนจนทั้งประเทศอยู่ที่ภาคเกษตร และยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะรายได้เกษตรเติบโตต่ำ มีผลมาจากตลาดโลกที่ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มลดลง
ล่าสุดรายงานของ World Economic Forum (2018) ชี้ว่าความไม่เสมอภาคของไทยอยู่อันดับที่ 25 จาก 107 ประเทศทั่วโลก ในขณะที่ประเทศเวียดนามอยู่ที่อันดับ 29 สิงค์โปร์อยู่อันดับที่ 36 ญี่ปุ่นอันดับที่ 87
ด้านความมั่งคั่ง
สะท้อนจากข้อมูลในรายงาน World Economic Forum (2018) พบว่า ในระยะ 5 ปี 2013-2018 ความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งในไทยเพิ่มขึ้น 2.5% และมีความเหลื่อมล้ำด้านนี้สูงที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก
ด้านโอกาสและคุณภาพชีวิต
มีความเหลื่อมล้ำในระดับสูง เห็นได้จากโอกาสการศึกษาในเชิงพื้นที่ เมื่อดูระดับคะแนน PISA ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาแยกตามภูมิภาค พบว่าคะแนนของนักเรียนจากพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล สูงกว่าพื้นที่อื่นๆ เช่น ภาคเหนือตอนบน ภาคใต้ ภาคตะวันตก และภาคอีสานตอนล่างอย่างมีนัยสำคัญในทุกสาขาวิชา ซึ่งจะส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำด้านรายได้มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในอนาคต
จากรายงานสรุปว่า นโยบายในการแก้ไขความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของครัวเรือน ไม่สามารถใช้นโยบายใดนโยบายหนึ่ง
ในการแก้ปัญหา แต่ภาครัฐต้องออกนโยบายที่เกี่ยวเนื่องและสนับสนุนกัน
สุดท้ายแล้วความเหลื่อมล้ำอาจไม่ใช่ปัญหาหลักของไทย แต่เป็น ‘อาการ’ ว่าไทยเรามีปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยังไม่เคยได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องมาก่อน เมื่อไรภาครัฐจะเริ่มแก้ปัญหานี้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่องกัน?
นอกจากนี้ยังเป็นรัฐบาลแรกที่ออกใบอนุญาตให้มีอาชีพใหม่ขึ้น คือ วณิพก หรือ ขอทาน
และทำให้เศรษฐี 5 ตระกูลมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 ล้านล้านบาท หรือสูงขึ้นถึง 1.5 ล้านล้านบาท
เกือบเท่าเงินงบประมาณของประเทศ หรือรวยขึ้นกว่าครึ่งหนึ่งของงบประมาณของแผ่นดิน ไม่เกิดการกระจายรายได้
ทำให้ประเทศไทยได้แชมป์สูงที่สุดในโลกความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน
โฆษณา