The American Civil War สงครามกลางเมืองอเมริกา
..... สงครามกลางเมืองอเมริกา (The American Civil War) เป็นสงครามที่เกิดจากความขัดแย้ง ระหว่างรัฐเกษตรกรรมทางใต้ของสหรัฐอเมริกา ที่มีการทำไร่ขนาดใหญ่ใช้แรงงานทาสชาวผิวดำ กับรัฐอุตสาหกรรมทางเหนือระหว่าง ค.ศ. 1861-1865 (พ.ศ. 2404 - 2408) ในสมัยรัชกาลที่ 4 ของไทย
สืบเนื่องจากข้อโต้แย้งยืดเยื้อเกี่ยวกับการถือครองทาส ระหว่างฝ่ายหนึ่งเป็นกลุ่มชาตินิยมสหภาพ ซึ่งประกาศความภักดีต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐ กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนสมาพันธรัฐ ซึ่งสนับสนุนสิทธิของมลรัฐในการคงไว้ซึ่งสถาบันทาสอีกฝ่ายหนึ่ง
The American Civil War 1861 - 1865
..... ในบรรดา 34 รัฐของสหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์ 1861 เจ็ดรัฐทาสในภาคใต้ประกาศแยกตัวออกจากสหรัฐ เพื่อตั้งเป็นสมาพันธรัฐอเมริกา (the Confederate States of America) หรือ "ฝ่ายใต้" สมาพันธรัฐเติบโตจนมี 11 รัฐทาส รัฐบาลสหรัฐไม่เคยรับรองทางการทูตซึ่งสมาพันธรัฐ เช่นเดียวกับประเทศอื่นทุกประเทศ (แม้สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสจะให้สถานภาพคู่สงครามแก่สมาพันธรัฐ) ส่วนมลรัฐที่ยังภักดีต่อสหรัฐ (รวมทั้งรัฐชายแดนซึ่งทาสชอบด้วยกฎหมาย) เรียกว่า "สหภาพ" หรือ "ฝ่ายเหนือ"
== มูลเหตุของการเกิดสงครามกลางเมือง ==
..... ปัญหาเรื่องทาสเป็นสาเหตุให้เกิดสงครามกลางเมือง ทำความเสียหายมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตพลเมือง และทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก สงครามกลางเมืองครั้งนี้มีสาเหตุของสงครามกลางเมือง 2 ประการ ดังต่อไปนี้
2
@ ประการแรก ... เกิดความขัดแย้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ของฝ่ายมลรัฐทางภาคเหนือ และฝ่ายมลรัฐทางภาคใต้ ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน คือเศรษฐกิจของฝ่ายทางภาคใต้ขึ้นอยู่กับเกษตรกรรมเป็นหลัก ที่สำคัญได้แก่ ยาสูบ ฝ้าย ข้าวและน้ำตาล ผลผลิตเหล่านี้ต้องส่งไปขายยังต่างประเทศ ส่วนเศรษฐกิจของฝ่ายมลรัฐทางภาคเหนือมีการทำเกษตรกรรมบ้าง และมีอุตสาหกรรมทั้งหนักและเบา ซึ่งแรงงานที่ใช้เป็นพวกกรรมกร ผลผลิตทางอุตสาหกรรมของมลรัฐภาคเหนือ จึงต้องการตลาดภายในประเทศ ทำให้มลรัฐภาคใต้เสียผลประโยชน์ การซื้อขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ทางภาคใต้ต้องเผชิญกำแพงภาษีของต่างประเทศทำให้ได้รับผลกระทบ 2 ด้าน
1
@ ประการที่สอง ... มลรัฐภาคใต้ใช้แรงงานจากทาสเป็นสำคัญซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชาวภาคใต้ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และความเป็นหน้าเป็นตาทางสังคม มลรัฐทางภาคเหนือโจมตีการใช้แรงงานทาสว่าเป็นเรื่องผิดศีลธรรม
อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐ (1861–1865)
..... ดังนั้น เมื่ออับราฮัม ลินคอร์น จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งต่อต้านการใช้แรงงานทาสอย่างรุนแรงได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี ค.ศ.1861 ได้ประกาศไม่รับรองการแยกตัวของมลรัฐทางภาคใต้ โดยให้เหตุผลว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และให้สัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับปัญหาเรื่องทาสในมลรัฐที่มีทาสอยู่แล้ว แต่มลรัฐทางภาคใต้มิได้ยอมรับฟังเหตุผล และได้เข้าโจมตีค่ายทหารของรัฐบาลกลางที่ประจำการอยู่ในมลรัฐทางภาคใต้ซึ่งนับว่าเป็นการจุดชนวนที่ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ.1861 ดังนั้น ประธานาธิบดีลินคอร์นจึงประกาศใช้กำลังเข้าปราบปรามมลรัฐทางภาคใต้ที่แยกตัวออกไป
..... Confederate States of America : สมาพันธรัฐอเมริกา
เป็นชื่อทางการของรัฐที่แยกตัวออกระหว่างสงครามกลางเมืองอเมริกัน ระหว่าง ค.ศ.1860-1861 ประกอบด้วยรัฐเวอร์จิเนีย, นอร์ท คาโรไลนา, เซาท์ คาโรไลนา, จอร์เจีย, ฟลอริดา, เทนเนสซี, อะลาบาม,า มิสซิสซิปปี, หลุยส์เซียนา, เท็กซัส และอาร์คันซอ มีประธานาธิบดีคือนายเจฟเฟอร์สัน เดวิส (Jefferson Davis) แห่งรัฐมิสซิสซิปปี ส่วนรัฐทาสอื่นๆ คือ เดลาแวร์, มารีแลนด์, เคนทักกี กับบางส่วนของรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งปัจจุบันคือเวสต์ เวอร์จิเนีย ไม่ได้แยกออกมาเป็นสมาพันธรัฐด้วย
แผนที่แสดงระหว่างฝ่ายเหนือ และฝ่ายใต้
Jefferson David ประธานาธิบดีแห่งสมาพันธรัฐ, ฝ่ายใต้
..... สงครามกลางเมืองอเมริกาเป็นสงครามอุตสาหกรรมที่แท้จริงครั้งแรก ๆ ของโลก มีการใช้ทางรถไฟ, โทรเลข, เรือกลไฟ, ปืนไรเฟิล, บอลลูนสังเกตุการณ์, เรือดำน้ำ และการใช้สนามเพลาะ พร้อมทั้งอาวุธซึ่งผลิตเป็นจำนวนมาก แบบของสงครามเบ็ดเสร็จ
1
..... สงครามนี้เกิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในทวีปยุโรป และสงครามครั้งนี้ยังเป็นสงครามที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ทหารเสียชีวิตกว่า 620,000 นาย และพลเรือนเสียชีวิตไม่ทราบจำนวน
นักประวัติศาสตร์ จอห์น ฮัดเดิลสตัน ประเมินยอดผู้เสียชีวิตว่า ชายรัฐฝ่ายเหนืออายุระหว่าง 20–45 ปีเสียชีวิตไป 10% และชายรัฐฝ่ายใต้อายุระหว่าง 18–40 ปีเสียชีวิตไป 30% ชัยชนะของฝ่ายเหนือ หมายถึงจุดจบของสมาพันธรัฐและทาสในสหรัฐ และเสริมอำนาจแก่รัฐบาลกลาง ปัญหาทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจและเชื้อชาติของสงครามมีอิทธิพลต่อยุคบูรณะ ซึ่งดำเนินไปจนถึงปี 1877
..... เมื่อเปรียบเทียบสมรรถนะของทั้งสองฝ่ายแล้วในด้านพื้นที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีพื้นที่หรือดินแดนที่ใกล้เคียงกัน แต่หากเปรียบเทียบด้านกำลังคน และทรัพยากรธรรมชาติตลอดจนเทคโนโลยีแล้ว มลรัฐทางภาคเหนือได้เปรียบกว่ามลรัฐทางภาคใต้เป็นอย่างมาก แต่มลรัฐทางภาคใต้มีผู้นำทางทหารที่มีความสามารถคือ นายพล โรเบิร์ต อี.ลี (Robert E. Lee) นอกจากนี้ทหารทางมลรัฐภาคใต้มีขวัญกำลังใจและมีความเด็ดเดี่ยวมากกว่าทหารของมลรัฐทางภาคเหนือ
..... ส่วนมลรัฐทางฝ่ายเหนือนั้น อับราฮัม ลินคอล์น ใช้เวลาอยู่หลายปีกว่าจะได้นายพลผู้เก่งกาจมาบัญญาชาการ ชื่อว่า นายพล ยูลิซิส เอส. แกร๊นท์ (Ulysses S. Grant) เป็นผู้บังคับบัญชาการทหารที่มีความสามารถเหนือกว่านายพลโรเบิร์ต อี.ลี. จึงสามารถพลิกสถานการณ์ความเสียเปรียบทางการทหารมาเป็นความได้เปรียบและทำให้มลรัฐทางภาคเหนือได้รับชัยชนะในการทำสงครามกลางเมืองในที่สุด
2
Ulysses S. Grant ผู้บังคับบัญชาการทหารฝ่ายเหนือ และ Robert E. Lee ผู้บังคับบัญชาการทหารของฝ่ายใต้
..... ฝ่ายสมาพันธรัฐยอมจำนน .....
นายพลโรเบิร์ต อี. ลี ได้รับสารจากนายพลแกรนต์ ขอให้ยอมจำนนเสีย ลียังพยายามสู้ต่อ และพยายามจะฝ่ากองกำลังของเชอริแดนที่ปิดถนนใกล้กับ แอพโพแมตท็อกซ์ คอร์ทเฮ้าส์ไว้ แต่เมื่อพบว่าทางเลือกเดียวที่เหลือคือต้องรบแบบกองโจรในป่า ลีจึงตัดสินใจยอมวางอาวุธ แล้วส่งสารถึงแกรนต์ว่ากองทัพเวอร์จิเนียเหนือขอยอมจำนน สงครามกลางเมืองอเมริกาเป็นอันสิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1865 ณ บ้านของ วิลเมอร์ แม็คลีน (McLean House) หรือแอพโพแมตทอก คอร์ทเฮาส์ (Appomattox Courthouse) ในรัฐเวอร์จีเนีย กองกำลังสมาพันธรัฐที่ยังไม่ยอมทิ้งอาวุธ ก็ทยอยกันยอมจำนนเมื่อข่าวการยอมแพ้ของนายพลลีทราบไปถึง
..... ประธานาธิบดีลินคอล์น ถูกลอบสังหาร .....
ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1865 ประธานาธิบดีลินคอล์น ถูกนาย จอห์นวิลค์ส บูธ นักแสดงที่ฝักใฝ่ฝ่ายสมาพันธรัฐลอบยิง (นายจอห์น วิลค์ส บูธชาวผิวขาวที่เคยสนับสนุนการเลิกทาส แต่เมื่ออับราฮัมต้องการให้คนผิวดำมีสิทธิการเลือกตั้งเท่าเทียมกับคนขาว เรื่องนี้ทำให้คนขาวหลายคนไม่พอใจ รวมทั้งมือสังหารคนนี้ด้วย) ลินคอล์นเสียชีวิตในรุ่งเช้าวันถัดไป และ แอนดรูว์ จอห์นสัน กลายเป็นประธานาธิบดีคนต่อมา
ประธานาธิบดีจอห์นสันออกแถลงการณ์ ประกาศจุดสิ้นสุดของการก่อความไม่สงบ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1865 ประธานาธิบดี เจฟเฟอร์สัน เดวิส ถูกจับกุมในวันถัดมา
การยอมจำนนที่แอพโพแมตทอก คอร์ทเฮาส์ (Appomattox Courthouse)
..... ผลลัพธ์ของสงครามกลางเมือง .....
จากการสู้รบของมลรัฐทางภาคเหนือ และมลรัฐทางภาคใต้ ทำให้เกิดความเสียหายทั้งในด้านทรัพยากรบุคคลและทรัพย์สินต่างๆ อย่างมากมายในที่สุดฝ่ายมลรัฐทางภาคเหนือเป็นฝ่ายชนะอย่างเด็ดขาด และสิ่งที่ตามมาของสงครามกลางเมืองคือ
1) ผลต่อรัฐธรรมนูญ
เนื่องจากสหรัฐอเมริกาได้รับชัยชนะในสงครามกลางเมืองจึงทำให้อำนาจของรัฐบาลกลางมีมากขึ้น และการแยกตัวออกจากสหรัฐอเมริกาของมลรัฐทางภาคใต้ได้ถูกยกเลิกไป ทำให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมอีก ได้แก่
- ให้เลิกทาสทั่วสหรัฐอเมริกา
- อนุญาติให้ชาวอเมริกันทุกคนมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งหากมีคุณสมบัติเพียงพอ
- อนุญาติให้ชาวอัฟริกันผิวดำที่เคยเป็นทาสมาก่อน มีสิทธิที่จะลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้
2) ผลทางการเมือง
ทำให้อำนาจทางการเมืองเปลี่ยนจากบรรดาเจ้าของไร่ขนาดใหญ่ทางมลรัฐทางภาคใต้ มาเป็นบรรดากลุ่มอุตสาหกรรม และธุรกิจทางมลรัฐจากทางภาคเหนือแทน
พรรครีพับลิกันกลายเป็นพรรคการเมืองที่มีบทบาทอย่างมากในทางการเมืองของสหรัฐอเมริกานับแต่นั้นเป็นต้นมา และผลของสงครามทำให้มลรัฐทางภาคใต้เกิดการรวมตัวทางการเมืองอย่างเหนียวแน่น โดยให้การสนับสนุนพรรคเดโมแครท เพียงพรรคเดียวเท่านั้น
3) ความเจริญรุ่งเรือง
มลรัฐทางภาคเหนือมีความเจริญรุ่งเรืองมาก แต่ในขณะเดียวกันมลรัฐทางภาคใต้กลับล้าหลังลง เนื่องจากทรัพย์สินและบ้านเรือนถูกทำลาย อย่างหนักเนื่องมาจากสงครามกลางเมือง
ขอบคุณทุกท่านที่มารับชมกันนะครับ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตาม
เพื่อเป็นกำลังใจ ที่แบ่งปันสาระเรื่องประวัติศาสตร์จากที่ต่างๆ ที่หลายคนยังไม่ทราบมาก่อนนะครับ :-)
References & Credit :
31 ถูกใจ
22 แชร์
12K รับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
  • 31
    โฆษณา