18 พ.ค. 2020 เวลา 11:14 • ท่องเที่ยว
ช่วงหลายๆวันมานี้ มีแต่เรื่องเล่าน่าวิตกของสายการบินระดับชาติ
ไม่ว่าจะชาตินี้รึชาตินั้น ยังดีที่ไม่มีชาติหน้า
แหะๆ มุกค่ะมุก
เค้าล้อเล่งงงง... 😊💗🤩
ได้เวลาพักจากงานซะที งั้นวันนี้เล่าเรื่องทริปไต้หวันสะท้านใจดีกว่าค่ะ
เป็นเหตุการณ์๒ปีกว่าที่แล้ว แต่ความสนุกอยุ่ตรงที่ ไฟลท์ดีเลย์กันจนใจสั่นสุดๆไปเลย
🛩💓⏱
ที่เราจองกันไว้ เริ่มที่ไฟลท์ปลายทาง ที่จะออกจาก กทม. บินสู่ ไทเป
เวลาบอร์ดคือ น่าจะสัก ตี๑ครึ่งถ้าจำมิผิด
พวกเราเลยเลือกไฟลท์จากหาดใหญ่ที่เวลาtake off คือทุ่มเศษๆ ก็โออยู่นะเออ 🕓🛫
กะว่าถึงจะดีเลย์แค่ไหน อย่างมากก็แลนด์ไม่เกิน ๔ทุ่ม แถมดอนเมืองก็ออกจะเล็กแค่เนี้ยะ
ลากเป๋าข้ามเทอร์มินอลพอเหนื่อยกรุบกริบ เดี๋ยวก็ถึงเคาท์เตอร์ให้แบ้กดร้อปกันสวยๆ ทันแหง๋ม ชัวร์ปึ้ก!!!
ค่ำนั้นนัดกันหน้าเคาท์เตอร์ พอเช้คอินจัดการเช้คเป๋าเสร็จ เข้ามานั่งสุมกันที่เกท
เริ่มมีประกาศไฟลท์ดีเลย์ เลื่อนไป๒ทุ่ม อืมมม์ ก็โอเค้ !!ทันอยู่ สบ๊ายยย..
👍🕓 🤩
สักพักประกาศดีเลย์อีกรอบ ไปที่๓ทุ่ม ซีทที่เรานั่งหน้าเกท ชักจะเหมือนมีไฟลน
เลยเจรจาขอออกนอกเกท ไปคุยที่เคาท์เตอร์แอร์ไลน์ต้นทาง
เพราะมันต่างแอร์ไลน์กับที่ดอนเมือง น้องพนง.ยิ้มหวานยืนยันเสียงแจ๋ว ว่าทันแน่นอนค่ะ แลนด์ไม่เกิน ๔ทุ่มครึ่งหรอกค่าาา..
เอาว้ะ!! ทันก็ทันฟร้ะ!!! กลับมานั่งกระสับกระส่ายสักพักใหญ่เพื่อจะได้รับรู้ว่า ดีเลย์ออกไปในเวลา๕ทุ่ม โอ๊ยยย... แทบกรี๊ดดดดดส์...กลางโถงหน้าเกท
ยัยบัดดี้คู่ใจกดสมาร์ทโฟนมือเป็นระวิง หาวิธีติดต่อรึพยายามเช้คอินกะสายการบินปลายทางที่ดอนเมือง
นั่งกันไม่ติดทั้งกรุ๊ปอันมี ๙ชีวิต คือ ๒บ้านกะ ๓โสด
( น่ารักมั้ย..? แก๊งค์เที่ยวไต้หวันเค้า คริๆ ) 🥰💕🤟
สถานีเมือง๑ที่ลืมชื่อ จำได้แค่เป็นเมืองออนเซน แห่งไต้หวัน
๕ทุ่มเศษได้เวลาเรียกบอร์ด พวกเรานั่งไม่ติดมาเป็นชั่วโมงแระ รอคิวขึ้นเครื่องด้วยใจเต้นระส่ำ
ในหัวก็คำนวณเวลาเครื่องลงเริ่มวางแผนกันไปถึงworst case scenarioกับน้องบั๊ดดี้ผู้จัดทริป
เวลาเครื่องtake off จากหาดใหญ่น่าจะประมาณ๕ทุ่มเกือบครึ่ง คำนวณเวลาเครื่องขึ้นทางโน้น คือ ตี๒เศษ
เท่ากับไล่ๆ เวลาบอร์ดกันประมาณ ครึ่งชม.กว่า เอาล่ะฟร้ะ...!! เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน !!!
ตอนนั้นบั๊ดดี้ดิชั้นง่วนกับการคำนวณค่าเสียหาย ถ้าเราพลาดไฟลท์นี้ว่าจะต้องแพลนอย่างไรต่อ เสียเท่าไหนจ่ายเพิ่มเท่าไร
ส่วนทางดิชั้นใช้แผนรุกฆาต บอกสมาชิกให้แบ่งทีมเป็น๒ และทีมแรกจะนำทีมโดยดิชั้นเอง
ดิชั้นบอกกะทุกคน จะขอเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน วิ่งพุ่งไปสะกัดที่เคาท์เตอร์พร้อมด้วยพาสปอร์ตของทุกๆคน
ส่วนทีม๒คือ หน่วยไปรอและลำเลียงเป๋าประดามี ที่ต้องลากมาสมทบ
ตกลงเรื่องลักษณะเป๋าเดินทางของแต่ละรายในทีม๑ ให้ทีม๒ จนมั่นใจว่าคงไม่ลากมาผิดเป๋าผิดตัวแน่ๆ
เป็นอันพร้อม! พอเครื่องแลนด์ ทันทีที่ไฟให้รัดเข็มขัดดับ
ดิชั้นพรวดจากซีท ปากก็พร่ำขอโทษทุกๆคนที่อยู่ด้านหน้า พร้อมกับแทรกตัวออกสู่ประตูเครื่องยังกะจะไปตามควายที่ไหน 😊💗🐮
ทะลุออกประตูมาได้ ก็ใส่เกียร์หมาเดินหน้าเต็มที่ เร่งสุดฝีเท้าเลย วิ่งกวดข้ามเข้ามาอีกเทอร์มินอล๑ โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
ตอนที่เห็นเคาท์เตอร์อยู่ตรงหน้าในระยะ๒ร้อย ม.นั้น คือ เหลือ ผดส.ในแถวเพียงคนเดียว
และพนง.เริ่มเก็บของเก็บป้ายพรัอมจะทำการปิดเคาท์เตอร์
หอบแฮ่กไปทันเกาะหน้าเคาท์เตอร์ ก็พอดีกับเวลา๕นาทีสุดท้ายที่ได้เวลาปิดพอดี
หันกลับไปก็เห็นทีม๑คนอื่นๆที่เหลือวิ่งตามมา สภาพแต่ละคน ๕๕๕
ดีนะที่พวกนี้เป็นรุ่นเด็กๆ เลยไม่ออกอาการเท่ากะ ป๊าและม้าของบ้านเด็กๆ
มีรุ่นน้องผู้ชายที่มากับลูกๆ ฮีถึงขั้นลมใส่ควักยาดมมาอัดฟื้ดๆ ทำเอายัยป้าอย่างดิชั้นที่เป็นหน่วยทะลวงฟัน แทบทรุดลงไปขำกลิ้ง
ทีม๒ลำเลียงเป๋าเดินทางมาถึง พอดีกับแมเนเจอร์รึหัวอะไรสักอย่างในหน่วยงาน เดินหน้าเคร่งเข้าถามเสียงดัง
'ทำไมยังไม่ปิดเคาท์เตอร์กันอีก..?!?'
แหมๆ .. ต้องห้ามปากห้ามสายตาแทบตาย ที่จะไม่ส่งสายตาพิฆาตออกไป เอ็งช่วยประเมินสภาพพวกตรูสักหน่อยได้ม้ายยยยย?!?
ในที่สุดก็แฮปปี้เอนดิ้งค่ะ พนง.บอก.. วิ่งไปเกทเลยค่ะ ห้ามแวะไหนเลยนะคะ 🕓💓🛫
ได้สิคะน้องขาาา ... พี่ไม่เหลือแรงจะเดินดิวตี้ฟรีแระค่าา... ๕๕๕
ที่ขำคือ พอจะถึงเกท น้องบั๊ดดี้ผู้จัดทริปหันมาบอก ขอแวะซื้อกาแฟหน่อยนะพี่ ต่ะกี้บนเครื่องหนูลุ้นจนเครียดตอนนี้ไมเกรนกินหนักเลย
โถถถ.. น่าเอ็นดูววว์ อิอิ 😘☕🤣
สรุปว่า รอดขึ้นเครื่องอย่างเฉียดฉิวในสภาพสะบักสะบอม
ทำให้ทุกครั้งที่ดิชั้นไปทริป ต้องเหน็บรองเท้าวิ่งใส่เป้ไปด้วย เผื่อฉุกเฉินแบบนี้น่ะค่ะ อิอิ ✌⏱🤣
สำหรับวันนี้
สวัสดีนะคะทุกๆท่าน 🥰💕🧸

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา