18 พ.ค. 2020 เวลา 12:10 • ไลฟ์สไตล์
ในฝัน....ฉันฆ่าตัวตายเป็นร้อยครั้ง
ประโยคเล็ก ๆ จาก สาวนิรนามคนหนึ่ง ในกลุ่มที่ผู้เขียนก็อยู่ร่วมด้วย
แค่เห็นประโยคสั้น ๆ ในมุมมองของคนปกติ จะคิดว่ายังไงบ้างนะ?
คงเป็นการตัดพ้อต่อชีวิตธรรมดา ๆ แต่ในมุมหนึ่งของจิตใจผู้ที่มีภาวะ หรือ
เป็นโรคซึมเศร้า แค่ประโยคนี้อ่านผ่าน ๆ ก็รู้สึกปวดใจแล้ว ในแต่ละวัน
เราพยายามทำตัวเป็นปกติ ทั้งที่ในใจร้องไห้แบบไร้เสียงเพราะรู้ดีว่า ร้องไห้
ไปเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครมองเห็น เราต้องเข้มแข็ง เราจะล้มไม่ได้ ต้องทำให้คนที่
รักเราภูมิใจ
ในทุก ๆ วัน ที่หลับได้สนิทเพราะมี ตัวช่วยเป็นยาทานก่อนนอน เพื่อให้
หลับสนิท การผวาตื่นกลางดึก เกิดขึ้นได้ในทุกคนเป็นคำที่หลายคนกล่าว แต่ว่า การผวาตื่นหลาย ๆ ครั้ง ในคืนเดียว มันเหนื่อยแทบขาดใจ ในขณะที่ร่างกายพยายามที่จะหลับ แต่สมองกลับไม่ทำตาม บางครั้งก็ต้องกินยานอนหลับ บางช่วงที่ดีขึ้นก็ลดยาลงได้ แต่ในภาวะที่เหมือนถูกกดปุ่มระเบิด เวลาที่เดินอยู่บนสะพานลอย เกือบทุกครั้งก็จินตนาการว่าถ้าเราทิ้งตัวลงไปทุก อย่างคงจบซินะ ไม่ต้องลืมตามาเพื่อเห็นแสงตะวัน ไม่รู้สึกถึงการมีตัวตน สำหรับหลาย ๆ คน ที่อ่านมาถึงตรงนี้คงรู้แล้วว่า ผู้เขียนมีอาการของโรค ซึมเศร้า ตั้งแต่เมื่อไหร่กันโลกที่เคยสดใส เหมือนมีฟิลเตอร์สีเทามากั้นไว้ ตลอดเวลา ครั้งแรกที่สัมผัสถึงรูโหว่ในใจ คือตอนที่ได้ข่าวการเสียชีวิตของ สมาชิกวงดนตรี วงหนึ่ง ที่ตัดสินใจจบความทรมานที่เจออยู่ด้วยการกระโดด ลงมาจากคอนโด ตอนที่รู้ข่าวมันเป็นความโหวงในรูปแบบของมนุษย์
จู่ ๆ การมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ที่คงจะทรมานเกินทน จึงเลือกที่จะจากไปเพื่อจบความทรมานเหล่านั้น เหมือนปุ่มเปิดอะไรซักอย่างได้ถูกกด ในใจ ของผู้เขียนวันนั้น หลังจากนั้นได้อ่านการ์ตูนเรื่องหนึ่ง ซึ่งตัวละครในนั้นเกิดภาวะซึมเศร้าหลังจากสูญเสีย แม่ไปและคอยโทษตัวเองซ้ำ ๆว่าเป็นต้นเหตุ
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ระหว่างที่อ่านไป น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด ในใจเกิดคำ ๆ หนึ่งผุดขึ้นมา " ไม่ไหวแล้ว ใครก็ได้ช่วยที " แต่ด้วยอยู่ต่าง ประเทศทำอะไรไม่ได้เก็บเอาไว้ แสร้งว่าฉันสบายดี ยิ้มได้ มีความสุขนะ แต่ระหว่างนั้นก็ได้ลองทำแบบทดสอบของโรงพยาบาลออนไลน์ อยากจะเรียกว่า โรคขี้โกหกเหลือเกิน ในการตอบคำถาม ฉันไม่ได้เป็นตัวฉันจริง ๆ
ฉันรู้สึกว่า ฉันไม่สามารถทำอะไรให้ใครภูมิใจได้ ไม่มีใครสามารถ รักฉันในแบบที่ฉันเป็นได้ ฉันไม่ประสบความสำเร็จในแบบที่พ่อหวังไว้ ฉัน พบว่า มีเงาของหมาดำ เดินตามอยู่เมื่อกลับมาประเทศไทยได้สักพัก แต่ฉันก็เลือกที่จะเก็บมันไว้ อย่างเงียบเชียบ จนถึงวันที่แม่พบว่า การพูดคุยกัน ฉัน ไม่ปกติ คำว่าให้อดทน น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก คำสอนที่ทำให้คอยเก็บ และ เก็บทุกอย่างลงไปในเบื้องลึกของสมอง ไม่เคยได้พูด ในสิ่งที่คิด สิ่งที่ ทำไม่ได้นำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้พ่อได้ไปพูดอวดเหมือนใครเขา
ซีรีส์ที่คิดว่าจนตอนนี้ให้นั่งดูคนเดียวคงทำไม่ได้
ในทุก ๆ วัน ฉันรู้สึกว่าที่นอน คือมิตรที่ดีที่สุดของฉัน ฉันสามารถนอนได้ นอนหลับ หรือแค่นอนลืมตามองไปรอบห้องเฉย ๆ ก่อนจะปิดตาลงด้วยความรู้สึกว่า " เหนื่อยเหลือเกิน " แต่ไม่ได้ซิ เวลาที่ออกไปข้างนอก ฉันต้องร่าเริง ฉันต้องเป็นคนสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ทำให้เพื่อนสบายใจ ถึงแม้มันจะหมายความว่าทุกวันที่ก้าวเท้าเข้าบ้านสิ่งที่ผุดขึ้นมาไม่ใช่ความสนุกที่ได้ออก ไปเจอเพื่อ แต่เป็นคำว่า " หมดไปอีกวันแล้วนะ ไม่เป็นไรแล้ว " แค่จะส่อง กระจกแล้วยิ้มให้เงาที่สะท้อนมา ยังรู้สึกได้ว่าแค่คิดจะยิ้มก็หมดแรงแล้ว
Blue บู
ครั้งแรกที่เข้าไปพบหมอ ฉันเหมือนคนบ้า พยายามจะยิ้มทั้งที่น้ำตาไหลไม่หยุด ไม่ว่าจะพูดถึงเรื่องอะไรก็ตาม ช่วงเวลานั้นฉันไม่ได้คิดถึงการฆ่าตัวตาย เพราะนั่นจะทำให้ฉันกลายเป็นตัวปัญหาถึงแม้จะจากไป ฉันภาวนาให้ทุกวัน เกิดอุบัติเหตุ หรือ อะไรก็ได้ช่วยลบตัวตนที่ช่างไร้ค่าของฉันออกไปทีเหมือน ปุ่มระเบิดถูกกดเป็นครั้งที่ 2 เมื่อได้รู้ข่าวนักร้องต่างประเทศ ที่เพลงจุดประ กายความฝันในการร้องเพลงให้วัยรุ่นมาเกือบ 2 ทศวรรษ ตัดสินใจจบ ความเจ็บปวดที่แบกไม่ไหวอีกต่อไปด้วยการฆ่าตัวตาย อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ ก่อนหน้านี้ เขายังมีตัวตน ยิ้มแย้ม และ หัวเราะ กับผู้คนรอบกาย หรือรอยยิ้มที่เกิดขึ้นได้เพราะ เขารู้สึกว่า ทั้งหมดที่มีนี้เพียงพอแล้ว กับชีวิตที่ใช้มา
ถ้าคุณได้นั่งลงดูซีรีส์เรื่องนี้กับเพื่อนที่อยู่ในภาวะนี้ มุมมองที่มีต่อเรื่องราวจะต่างออกไปทันที
ไม่มีใครอยากเป็น มันเป็นโลกที่มืดมน ทรมาน มีหลายอย่างที่ถ้า อธิบายไปคงไม่มีใครเข้าใจ ไม่ผิดที่จะพยายามบอกเขาเหล่านั้นว่า สู้ ๆ นะ ลองนั่งสมาธิดูไม๊ เชื่อเถอะค่ะว่า เราอยากที่จะหลุดออกไปจากวงโคจรเดียวดายนี้เหลือเกิน แต่สิ่งเดียวที่ยึดเราไว้คือ ตัวเราเอง เราอยากที่จะปล่อยวาง เราอยากที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกว่า คำพูดให้กำลังใจทั้งหลายของคุณ เรารับ ฟังนะ แต่ " ความสุข " ช่างดูเป็นคำที่ห่างไกล และ รู้สึกว่าเราไม่สมควร ได้ รับเลย ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด ดูแลตัวเองยังแทบไม่รอด ไม่น่าเชื่อว่า แสง สว่างจะมาในรูปแบบของเพื่อนสี่ขา ให้ย้อนเวลากลับไปวันนั้น ก็คงเลือกที่จะรับเขา เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอยู่ดี
วิสต้าร์
ก่อนที่จะมีเพื่อนสี่ขาเข้ามา ฉันใช้เวลาวัน ๆ นึง ไปอย่างไร้ประโยชน์ เพราะฉันไม่ต้องดูแลใคร ไม่มีอะไรต้องรับผิดชอบ ฉันมีหน้าที่แค่ตื่นมา ทำงานนิดหน่อย นอน แล้วค่อยตื่นมาเมื่อไหร่ก็ได้ หลังจากมีวิสต้าร์เข้ามา ฉันถึงได้ เข้าใจหนังสือเล่มโปรดของตัวเองทันที " A street Cat Named Bob " ฉัน จะนอนทั้งวันแบบที่ผ่านมาไม่ได้ ฉันต้องดูแลเพื่อนตัวเล็กของฉัน
ในช่วงที่มีสมาชิกเพิ่มเข้ามาในชีวิต ระเบิดลูกสุดท้ายที่ทำให้ฉันยังจำ บางประโยคในจดหมายของเขาได้ เขาเลือกจากไปอย่างเงียบ ๆ ส่งอีเมล์ บอกลาพี่สาว เขียนจดหมายไว้โดยคิดมาอย่างรอบคอบแล้ว เขาผู้ควรจะ ส่องสว่างกว่าใคร " ได้โปรดบอกผมทีว่า ผมทำดีที่สุดแล้ว..โปรดปล่อยให้ผมไป " ฉันนั่งหน้าจอLabtop อ่านคำแปลจดหมายของเขา ในที่สุด มนุษย์ ที่พยายาม พยายามเหลือเกินในแต่ละวันที่จะมีชีวิต ที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ได้เลือกที่จะลบการมีตัวตนของ ตนเองด้วยการจากโลกนี้ไป ไม่เพียงแค่บุคคลเหล่านั้นที่ฉันยกตัวอย่างขึ้นมาไม่นานมานี้เพื่อนสมัยมัธยมปลาย ของฉันได้จากไปด้วยวัยเพียง 34 ปี ไม่ใช่เพราะเลือกที่จะจากไป แต่เป็นเพราะการรักษา เพื่อให้หายจากโลกมืดมนนี้มาเป็นเวลากว่า 10 ปี ยารักษาก็เหมือนดาบสองคม ส่งผลให้ร่างกายไม่สบายและจากไป เพื่อน ของ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรอีกมากมาย เหลือหลายสิ่งที่อยากจะทำ
เพื่อนอีกคนได้กล่าวกับฉันว่า อาจจะดีแล้วที่จากไปในตอนนี้ เพราะ ชีวิตที่ผ่านมาไม่ได้มีความสุข ความทรงจำดี ๆ มากพอเลย นั่นคงเป็นเหตุผลที่ เพื่อนของฉันตกลงไปในโลกมืดมนที่มีแต่ความเศร้า
หลังจากเพื่อนของฉันได้จากไปไม่นาน ฉันฝัน เห็นเพื่อนของฉันภาพ ยังเหมือนเดิม เหมือนตอนที่เรายังอยู่มัธยมปลาย เพื่อนของฉันมีรอยยิ้มสดใส ดูเหมือนว่าจะสดใสยิ่งกว่าที่ฉันเคยจำได้
ที่เขียนถึงเรื่องราวเหล่านี้ เพียงแค่หวังว่าทุกคนจะไม่ลืมที่จะใส่ใจ คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็น เพื่อน คนในครอบครัว และอยากบอกว่า มันโอเค ที่เราจะไม่โอเค ร้องไห้ได้ไม่จำเป็นต้องซ่อนไว้ อย่าโหดร้ายกับตัวเองมากไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กอดตัวเองไว้ ถึงแม้สุดท้ายที่เหลืออยู่จะเป็นเพียงตัว คุณเอง ขอให้กอดตัวเองไว้ถ้าหากล้ม ก็ไม่เป็นไรใช้เวลาที่ล้มพักผ่อน ก่อน จะ ออกไปเผชิญกับ โลกใบนี้ที่มันอาจจะบิดเบี้ยวไปบ้าง แต่ในความมืดมิด ฉันเชื่อว่า เราก็จะเห็นดวงดาวได้ชัดเจนที่สุด
เมื่อมองไม่เห็นดาว ก็สร้างดาวของตัวเอง
กอดตัวเองไว้ให้แน่น ถ้ามีคนที่เข้าใจคุณจับมือเขาไว้ This Too Shall Pass...
โฆษณา