20 พ.ค. 2020 เวลา 01:08 • ความคิดเห็น
005 : มีขนรักแร้ได้ ไม่ต้องรอเดินขบวนเฟมินิสต์
การมีอิสระบนร่างกายของตนเอง เป็นความสุขทางกายและใจขั้นพื้นฐานของคนทุกคน
ลองจินตนาการว่าถ้าเราต้องมีทรงผมแบบที่ใครสักคนเลือกให้ตลอดไป หรือต้องสวมชุดที่มีคนบอกว่า ‘ใส่เถอะ มันดูดีกว่า’ อยู่เสมอ หรือการถูกห้ามสักหรือเจาะร่างกายเพราะคนที่บ้านไม่ชอบ เราอาจทำตามได้ เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ แต่การถูกสั่งห้ามเป็นการปิดกั้นอิสรภาพที่เราควรมี ไม่มีเหตุผลไหนที่ดีพอจะไม่ให้เราแสดงออกอย่างที่เราอยากจะเป็น
แม้ว่าการหักห้ามนั้นมาจากตัวเราเองก็ตาม
เราอาจเคยต้องห้ามใจตนเอง เวลาที่อยากจะทดลองทำอะไรบางอย่าง แต่พ่อแม่ ครู และสังคมรอบข้างบอกเราว่าอย่าทำ ... ถ้าสิ่งนั้นเป็นเรื่องผิดกฏหมาย เป็นการสร้างความเดือดร้อน เป็นอันตราย อย่างการทำร้ายคนอื่น การรังแกคนที่อ่อนแอกว่า หรือแกล้งโทรไปแจ้งความเท็จ แน่นอนว่าเราไม่ควรทำ
แต่ถ้าสิ่งที่เราอยากทำ เป็นสิ่งที่ตัดสินใจโดยเราเองบนเนื้อตัวของเราเองด้วยความมีสติรู้ตัวเราควรรู้สึกอิสระที่จะทำมันนะคะ ไม่ว่าจะเป็นความ อยากสัก อยากไว้ผมสั้น อยากใช้ลิปสติกสีที่ไม่เคยใช้ อยากใส่ชุดที่รู้สึกชอบ อยากไว้ขนหน้าแข้ง อยากปล่อยให้ขนรักแร้ยาว เรื่องเหล่านี้ไม่ได้มีผลกับใคร คนที่จะชอบใจหรือไม่ชอบใจและจะตัดสินใจต่ออย่างไร คนนั้นต้องเป็นตัวเรา ดังนั้นเราจะต้องได้ทำมันค่ะ
ช่วงเวลาดีๆ ของใครหลายคนคือการได้ชูแขนให้รักแร้เย็นสบาย
เราสามารถปล่อยให้ขนรักแร้ยาวได้โดยไม่ต้องรอเดินขบวนเฟมินิสต์ - เราเขียนประโยคนี้ด้วยความหมายที่ว่า การตัดสินใจบนเนื้อตัวร่างกายของเรานั้นเป็นสิทธิที่อยู่กับตัวเราแต่แรก ไม่เคยมีใครพรากมันไปได้ เราจึงไม่ต้องรอการเรียกร้องให้ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพที่เสมอภาคเพื่อที่จะปล่อยให้ขน (ใดๆ ก็ตาม) ของเรายาว
ก็เป็นไปได้ที่เราอาจถูกตั้งคำถามว่า เรากำลังสื่อสารแนวคิดเฟมินิสต์ด้วยการเปิดเผยสุดโต่งผ่านร่างกายของเราหรือเปล่า ซึ่งเราคงไม่จำเป็นต้องตอบ เราจะเลือกสื่อสารแบบที่ว่าก็ได้ แต่มันสำคัญด้วยหรือ? มันสำคัญกว่าอีกนะที่เราจะตระหนักรู้ถึงสิทธิที่จะแสดงออกใดๆ ตามความปรารถนาที่เป็นธรรมชาติของเราเองด้วยความรู้สึกเป็นอิสระ
เพราะว่ารักแร้นี้เป็นของเรา เราดูแล เราฟอกสบู่เองเนอะ
เรื่องหนึ่งที่อาจทำให้เราไม่มั่นใจพอที่จะปล่อยให้ขนรักแร้ยาว หรือไม่มั่นใจพอที่จะให้ใครได้เห็นใต้วงแขน เพราะเราอาจรู้สึกว่ารักแร้เราไม่ขาวเนียนใสเหมือนอย่างของพรีเซนเตอร์ในโฆษณา เรากังวลว่าเราจะไม่สวย ไม่น่าปรารถนาแบบนางเอกในหนังในละคร - เราขอยืนยันกับทุกคนนะคะ ว่าเราเคยได้เห็นวงแขนสีคล้ำของเพื่อนผู้หญิงมาไม่น้อย เราเคยอยู่โรงเรียนประจำ หรือตอนเรียนมหาวิทยาลัยเราก็คบแต่กับเพื่อนผู้หญิง มันจะมีทั้งคนที่วงแขนขาวเนียนไร้ขน ไปจนถึงคนที่มีวงแขนสีคล้ำและมีขนจั๊กกะแร้ สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับนิสัยส่วนตัวและบุคลิกภาพ และเรายังจำได้ว่าทุกคนน่ารักไม่แตกต่างกัน
เราเองก็มีรักแร้สีคล้ำเช่นกัน เรารู้ว่าเป็นเพราะผิวหนังใต้วงแขนของเราถูกเสียดสี เราถอนขนรักแร้บ้างบางที ทำให้มีส่วนของผิวหนังที่เหมือนหนังไก่ - ซึ่งไม่แปลก บางครั้งก็แว็กซ์ บางคราวก็โกน แต่ส่วนใหญ่เราก็ปล่อยๆ ไป ไม่ได้คอยนึกถึงมัน
มีบ้างที่เราก็อยากกำจัดขนรักแร้ค่ะ เช่น ช่วงที่ร้อนมากๆ หรือวันที่อยากลูบใต้วงแขนแล้วรู้สึกเกลี้ยงๆ เราก็ถอนหรือโกนมันได้ง่ายๆ แหละนะ ก็มันเป็นความต้องการของเราเองนี่นา
เรามีประสบการณ์ถูกเพื่อนผู้ชายทักว่า “ฉันเห็นเธอมีขนจักกะแร้ยาว” ตามด้วยเสียงหัวเราะ ตอนอยู่ชั้น ม.2 ด้วยล่ะนะ
เนื่องจากเราคิดว่า นี่มันไม่เห็นเกี่ยวกับใครสักหน่อย และก็มีแต่คนนิสัยแย่ๆ เท่านั้นแหละที่จะแอบมองใต้แขนเสื้อเพื่อนผู้หญิง เราจึงไม่ค่อยสนใจความคิดเห็นนั้น
เราไม่ตอบสนอง เราไม่โกน ไม่ถอน
ในวันที่มีเรียนพละ นักเรียนทุกคนใส่กางเกงวอร์มกับเสื้อกีฬาแขนสั้น เราจงใจยกแขนทำกิจกรรมไปมา ในใจนึกอยากให้เพื่อนคนที่ทักได้เห็น ว่านี่คือการยืนยันในการตัดสินใจต่อรักแร้ของเราเอง เราไม่มีคำอธิบายต่อสิ่งที่เกิดขึ้นมากนักในตอนนั้น เรารู้แค่ว่าเราพอใจที่จะไม่เปลี่ยนสิ่งที่อยู่บนตัวของเราเพื่อตอบสนองความคิดเห็นของใคร - น่าภูมิใจชะมัด
อย่าลืมนะ เราควรจะได้แสดงออกใดๆ ตามความปรารถนาที่เป็นธรรมชาติของเราด้วยความรู้สึกเป็นอิสระ
รักแร้ของเราก็ต้องการอิสรภาพนั้นด้วยค่ะ 💚
โฆษณา