20 พ.ค. 2020 เวลา 00:02 • ท่องเที่ยว
"วังเวียงครั้งเดียวไม่เคยพอ"
สำหรับสายแบ็คแพ็คเกอร์แทบทุกคนต้องเคยมาเยือนวังเวียงแน่นอน เพราะการมาเที่ยวต่างประเทศครั้งไหนก็ไม่อุ่นใจเหมือนมาเที่ยวลาว เพราะเหมือนเราเที่ยวอยู่ในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นทั้งภาษา อาหาร วัฒนธรรม ที่นี่แทบจะเหมือนไทยเกือบทุกๆอย่าง
คนที่ไปมาวังเวียงส่วนจะต้องกลับมาซ้ำอีกแน่นอน เพราะที่นี่แต่ละฤดูจะสวยไปคนละแบบ แต่ครั้งนี้เรามาช่วงปลายปี ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เราคิดว่าน่ามาท่องเที่ยวที่สุด เนื่องจากมีอากาศค่อนข้างเย็นในตอนกลางคืน ส่วนกลางวันร้อนสุดๆเหมือนที่กรุงเทพเลย และน้ำในแม่น้ำซอง ยังใสอีกด้วย ถ้ามาช่วงหน้าฝนนะน้ำในแม่น้ำจะเหมือนน้ำป่าค่อนข้างน่ากลัวนิด
ยอดผาหนามไซ จุดที่ทุกคนมาเที่ยววังเวียงต้องควรมาเช็คอินครับ
บรรยากาศแม่น้ำซองยามเช้า อากาศดีมากๆ เย็นสบาย
เวียงธาราวิลล่า ที่พักที่นี่อาจจะจองยากนิดนึง แต่รับประกันคุ้มค่าแน่นอน ยิ่งช่วงปลายปีข้าวกำลังออกรวงสวยเลยครับ
ช่วงเช้าริมแม่น้ำซอง จะมีนักท่องเที่ยวไป one day trip กันเยอะมากๆ ส่วนมากนักทอ่งเที่ยวที่นี่จะเป็นชาวเกาหลีใต้ร้อยละ80เลยที่เดียว
จุดแรกที่เรามาเยือนคือ ผาหนามไซ การเดินทางขึ้นมาถึงยอดเขาใช้เวลาประมาณ 30 นาที แรกๆไม่เท่าไหร่ยิ่งเดินไปยิ่งชัน แต่พอมาถึงยอดเขาเห็นวิวแล้วหายเหนื่อยเลยจริงๆ
จุดเช็คอินสุดฮิต คือมาเที่ยววังเวียงต้องมาถ่ายจุดนี้จริงๆ เห็นในรูปแบบนี้ ของจริงๆน่ากลัวมากๆ ตอนขึ้นไปถ่ายไปสั่นไปจริงๆ พลาดล่วงไปที พูดเลยไม่เหลือซาก
ลงมาจากเขาเหนื่อยๆต้องมาโดน้ำที่นี่เลย บลูลากูน1 จุดนี้นักท่องเที่ยวเยอะสุดแล้วถ้าเทียบกับ บลูลากูน2และ3 ใครมาเที่ยววังเวียงทุกคนแทบจะต้องมาเยือนที่นี่แน่นอน
มาที่นี่เหมือนมาเที่ยวโซลเลยจริงๆ สาวๆเกาหลีเยอะมากๆ
รถบักกี้ (Buggy Dune) คนเกาหลีที่ไปเที่ยววังเวียงนิยมเช่าขับมาก อัตราค่าบริการ 500,000 กีบ หรือประมาณ 1,700 บาท ราคานี้ขับได้ประมาณ3ชั่วโมง
วิวสวยๆระหว่างทางจากบลูลากูน1ไปบลูลากูน3 ระยะทางไม่ไกลนะ แต่ใช้เวลาเกือบชั่วโมง เพราะถนนไม่ไหวจะเคลียร์เลยจริงๆ จะหลับก็หลับไม่ลงเลย ขับรถไปหัวกระแทงไปตลอดเวลา หลุมเยอะมากๆ
วังเวียง3 ที่นี่คนจะไม่ค่อยคึกคักเหมือนวังเวียง1 เอาตรงๆ ที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรมาก จุดเด่นก็จะเป็นที่โหนสลิงแล้วโดดลงน้ำและมีเรือให้พาย แค่นั้นเอง
ริมแม่น้ำซองยามเย็น จุดนี้ต้องมานั่งชิลแนะนำเลยจริงๆ
จุดริมน้ำซอง ใครจะออกท่องราตรีแนะนำอุ่นเครื่องกันก่อนเลยที่ ร้านแถวนี้จะเป็นร้านนั่งกินชิลๆ แต่เพลงไม่ค่อยจะชิลสักเท่าไหร่ เปิดมั่วๆลูกทุ่งสลับ EDM แต่อากาศดี แนะนำควรนั่งสักพักก่อนออกไปลุยที่ซากุระบาร์
ร้านนี้จะเป็นร้านหมูกะทะ อาหารโดยรวมไม่แย่ นั่งกินได้ราคาไม่แพง
จุดริมน้ำซอง นอกจากจะเป็นที่นั่งดื่มกิน ใครอยากจะลอยโคมที่นี่เค้าก็มีขายนะ สาธุ อย่าไปปล่อยลงบ้านใครเค้าแล้วกันนะ
ถนนคนเดินวังเวียง ของที่นี่จะคล้ายๆกันหมด ราคาไม่แพง จะเน้นพวกเสื้อผ้ากับร้านหมู่จุ่มหมูกะทะ
จุดนี้คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันนะครับ มาก่อน2ทุ่มฟรีบาร์จะแจกเหล้าฟรี แนะนำควรมาประมาณสามทุ่มขึ้นไป คนกำลังมาเที่ยวพอดี ร้านปิดเพลง23.30 ปิดร้านเที่ยงคืน เอาเป็น่วาใครไม่มาร้านนี้ เหมือนมาไม่ถึงวังเวียง
บรรยากาศยามเช้าริมน้ำซอง ตื่นมาแล้วอยากจะนอนต่อถึงเที่ยงกันไปเลย
ถ้ำจัง ใครสายเสี่ยงโชคแนะนำเลย ก่อนขึ้นบันได้จะมีศาลเจ้าไว้เซียมซี อยากให้ไปลอง แม่นขนาดไหนไม่รู้ เขย่าได้มา2เลข แค่ถูกหวยล่างบนแค่นั้นเอง แถมคนถูกต้องกลับมาแก้บนกันอีกรอบเลย ไม่อยากให้งมงายนะ แต่คราวหน้าขอสามตัวตรงนะ สองตัวมันถูกไม่สะใจเลย555
ด้านในถ้ำจัง ใครไม่อินนั่งรอข้างล่างได้เลย เดินขึ้นมาเมื่อยมากๆ
ปล.อยากรู้จริงๆใครตั้งชื่อถ้ำ ชื่อจะน่ารักไปไหน
สะพานส้ม ใครมาก็ต้องมาแวะถ่ายรูปจริงๆ
มาถึงนครหลวงเวียงจันท์ ต้องมาไหว้พระธาตุหลวงกันนะ
นักเรียนที่ลาวแต่งตัวน่ารักมากๆ การใส่ผ้าซิ่นของคนที่นี่ ทำให้ดูมีเสนห์ไปอีกแบบมากๆ
ช่วงที่เราไปบังเอิญมากๆน่าจะมีการเดินประกวดนางงาม เวลาน้องๆเค้าเดินผ่านมาทำไมใจเราสั่นยังไงก็ไม่รู้
จุดชมวิวจากด้านบนของประตูไซ
ทุกคนที่มาเยือนนครหลวงเวียงจันท์ต้องมาถ่ายรูปกับประตูไซ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่จริงๆ ยิ่งตอนกลางคืนที่นี่จะโดดเด่นมากๆ
ฝั่งริมน้ำโขงน้องจากมีถนนคนเดิน แล้วที่นี่ยังมีโซนใหม่จะเป็นร้านอาหารกับร้านขายของที่ระลึกต่างให้เดินเลือกช๊อปกันได้เลย
ช่วงเช้าก่อนกลับสนามบิน จุดที่ทุกคนจะแวะมาซื้อของฝากคือ ตลาดเช้า แต่พวกเรามานี่เป็นช่วงเวลาเที่ยงๆนะ แต่ของยังเยอะเหมือนปกติ ใครชอบพวกผ้าซิ่นที่นี่มีให้เลือกซื้อเยอะมากๆ มีหลายแบบหลายราคา ชอบแบบไหนเลือกซื้อกันได้เลย
ผ้าซิ่นที่นี่มีราคาให้เลือกเริ่มต้นตั้งแต่ 100,000 กีบ หรือ350บาท
หอพระแก้ว คือสถานที่เคยประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ตั้งอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ปัจจุบันเหลือเพียงพระแท่นที่ประดิษฐาน เพราะพระแก้วมรกตองค์ปัจจุบันได้รับการอัญเชิญลงมาประทับที่กรุงธนบุรีในสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ด้านในเค้าจะไม่ให้ถ่ายรูปครับ
วัดสีสะเกด เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเวียงจันทน์ ประวัติของ วัดสีสะเกด ในการสร้างวัดครั้งแรกเดิมวัดนี้มีชื่อว่า วัดสตสหัสสาราม แต่สำหรับชื่อ วัดสีสะเกด ได้มาจากทิศที่ตั้งของวัดหันหน้าไปทางพระราชวังที่เป็นทิศหัวนอนของเจ้าอนุวงศ์ สำหรับเจ้าอนุวงศ์กราบไหว้พระใน วัดสีสะเกด ได้ทุกเวลา
บรรยากาศภายในวัดเต็มไปด้วยความเงียบสงบ มีพระพุทธรูปที่เป็นสถาปัตยกรรมของลาว โดยวัดได้ทำการอนุรักษ์และรักษาไว้อย่างดี
สำหรับใครมีเวลาว่าง3-4วัน แนะนำทริปวังเวียงเวียงจันท์เลยครับ เชื่อว่าใครที่มาวังเวียงแล้วจะต้องกลับมาเยือนซ้ำอีกแน่นอน แม้จะเบื่อกับการนั่งรถจากเวียงจันท์มาก็ตาม นั่งเกือบ4ชั่วโมง หวังว่ามาคราวหน้าจะมีสนามบินสร้างที่วังเวียงสักทีเถอะครับ แต่การที่นั่งรถมาไกลพอถึงที่หมายแบบในภาพนี้ ผมว่ามันโคตรคุ้มเลยนะครับ เราสัญญากับตัวเองว่าจะกลับไปเที่ยวลาวทุกครั้ง ถ้ามีโอกาส อยากไปฟังเสียงที่พูดว่า ສະບາຍດີ
ติดตาม เที่ยวแหลก ทางเฟสบุ๊คได้ตามนี้นะครับ
โฆษณา