Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หมู่บ้านกลางป่าและเรื่องราวลี้ลับ
•
ติดตาม
20 พ.ค. 2020 เวลา 02:58 • ประวัติศาสตร์
ชีวิตพรานป่าน้อย ช่วงสงครามพม่ากับพระธุดงค์ไทย
มาอีกแล้วครับกับเครื่องหนึ่งเรื่องราว หมู่บ้านกลางป่าและเรื่องราวลี้ลับ หนุ่มอีสานมาอยู่บนดอยวันนี้ขอหยิบยกเรื่องของพ่อตาพ่อแฟนของผมมันก็มีเรื่องราวที่เป็นเรื่องจริง ของขวัญในวัยเด็ก ก่อนที่ท่านจะมาอยู่ประเทศไทยร่วมสมัยท่านที่ประเทศพม่าเรื่องราวของท่านน่าสนใจมากขอหยิบยกเอาเรื่องราวคนในครอบครัวมาเล่าให้ฟังก่อนละกันนะครับ เพราะมันเป็นทั้งพิสดารและ ความบังเอิญหรือว่าโชคชะตากำหนดเอาไว้แล้ว
พ่อแฟนของผมมีชื่อว่า อาชา ท่านอาศัยอยู่กับพ่อสองคนชื่อว่า ปู่จาง ขอเรียกอย่างนี้แล้วกัน เดิมทีท่านเหล่านั้นเป็นคนพม่า แล้วอพยพมาอยู่ไทยเพราะโดนสงคราม 2 สายของกลุ่มกะเหรี่ยงกับไทยใหญ่ เมื่อตอนวัยเด็กท่านอายุประมาณ 13 ถึง 14 ขวบท่านและพ่อมีอาชีพเป็นพรานป่าล่าสัตว์ ท่านจะออกล่าสัตว์ชนิดหนึ่งไปอยู่ 3 วันแล้วถึงเข้ามาหมู่บ้าน หมู่บ้านของท่านเป็นชนกลุ่มน้อยมีอยู่ประมาณ 20 กว่าหลังคาเรือนท่านบอกว่าท่านก็เป็นชนเผ่าเหมือนกัน คล้ายๆกับ ผีตองเหลือง ครบ 1 ปี 3 ปีก็จะย้ายไปเรื่อยๆแล้วแต่สถานการณ์ มีอยู่วันหนึ่งท่านก็เดินป่าตามเช่นเคยกับพ่อสองคนและได้พบพระธุดงค์ คนไทย1รูป อายุยังน้อยแต่พูดพม่าได้ ท่านบอกท่านจำชื่อไม่ได้ท่านลืมแล้ว ในความคิดของผมน่าจะเป็นที่กำลังโด่งดังเรื่องขุนน้ำนางนอนน่าจะพระรูปเดียวกัน เมื่อเห็นพระธุดงค์นั่ง ทำสมาธิท่านและพ่อของท่าน ก็เดินเข้าไปนมัสการและถวายกล้วยน้ําว้ากับน้ําดื่ม การสนทนาถามเรื่องราวของกันและกันจึงเริ่มขึ้น ท่านมองหน้าลูกชายของท่านหรือพ่อตาของผมท่านก็เรียกเข้าไปหาแล้วก็ให้ตะกรุดอันนึงมาห้อยคอท่านบอกว่าให้ติดตัวไว้ตลอด พระธุดงค์รูปนั้นบอกปู่จางว่า หมู่บ้านของท่านกำลังจะมีเคราะห์ให้ท่านและลูกชายและคนในหมู่บ้านย้ายออกจากหมู่บ้านนี้ซะ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เมื่อท่านเดินทางกลับไปถึงหมู่บ้านจึงเล่าเรื่องราวต่างๆให้พ่อบ้านหรือผู้ใหญ่บ้านฟัง แต่ชาวบ้านก็ยังไม่อยากย้ายออกเพราะได้ลงพืชผลการเกษตรไว้จำนวนเยอะทั้งข้าวและมัน เผือก การกำหนดย้ายออกจากหมู่บ้านนี้คือเมื่อเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแต่นี่ข้าวกำลังตั้งท้องถ้าเดินออกไปเวลานี้เราจะไม่มีข้าวกินเลย เมื่อตกลงกันว่าจะไม่ได้ย้ายออก ปู่จางจึงพาลูกชายเก็บข้าวของเหมือนกับจะย้ายบ้านเดินทางกันออกจากหมู่บ้านกันวันนั้นเลย เดินทางกันอยู่ 5-6 วันครึ่งก็มาถึงต้นกระบกและมีสายน้ำไหลผ่าน เหมาะแก่การสร้างที่พักอาศัย ท่านและ พ่อตาจึงลงมือสร้างบ้านไม้บนต้นกระบกนี้ใช้เวลาในการสร้างถึง 3 วัน และเตรียมการเพาะปลูกไว้อย่างดีถางป่าปลูกข้าวโพด มัน เผือก รวมๆแล้วเกือบ20วัน ท่านบอกว่าเราต้องรีบทำอีก 2-3 วันเราจะไปรับคนในหมู่บ้านมาอยู่ที่นี่กันหมด
พ่อของท่านก็เดินทางเข้าหมู่บ้านอีกครั้งเพื่อไปรับคนที่จะมาอยู่กับท่าน และเมื่อมาถึงหมู่บ้านท่านก็เห็นกลุ่มติดอาวุธ คือที่เขาเรียกกันว่ากะเหรี่ยง กลุ่มนี้มาผ่านมาขอแค่ข้าวกับน้ำกินเฉยๆ แล้วก็จะไป จึงมีการดื่มเหล้าสังสรรค์กันเกิดขึ้น ปู่จางได้โอกาส จึงเรียกลูกชายให้ไปพาคนและเพื่อนของลูกชายเดินทางออกจากหมู่บ้านเดียวนี้ไปตรงที่เรากำหนดไว้ ปู่จางสาละวนอยู่กับ การเรียกคนและเข้าไปเก็บข้าวของช่วยชาวบ้านไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้นดังสนั่นก้องท้องฟ้าคือมีทหารพม่าเข้ามาโจมตีแบบกะทันหัน ทหารพม่าก็นึกว่าชาวบ้านเป็นคนกลุ่มกะเหรี่ยงจึงยิงไม่เลือกหน้าทั้งเด็กและผู้ใหญ่พากันร้องไห้วิ่งหนีตายกันอลหม่าน หนึ่งในนั้นคือปู่จางเมื่อพ่อตาเห็นดังนั้นจึงเรียกพ่อ พ่อถึงบอกให้รีบวิ่งหนีไป ด้วยความตกใจ จึงจับมือเพื่อนได้ 2 คนผู้ชาย 1 หญิง 1 แล้ววิ่งออกจากหมู่บ้านแบบไม่คิดชีวิต เมื่อพม่าเห็นเด็ก 3 คนกำลังวิ่งจึงวิ่งไล่ยิงตาม พ่อตาผมโดนยิงไป 2 นัดแต่ยิงไม่เข้าเพราะมีตะกรุดห้อยคอแต่ด้วยแรงกระสุน ก็ทำให้กระเด็นไปข้างหน้าด้วยความตกใจจึงวิ่งกันต่อไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละทหารพม่าก็ไล่ตาม ด้วยความมืดทางที่กำหนดไว้คือทิศใต้ แต่ท่านกลับวิ่งไปทางทิศเหนือเห็นบอกว่าวิ่งกันยันสว่าง(ไก่ขัน) พอมาถึงริมธาร ทุกคนสลบไสลทันที
ระหว่างนั้นท่านพ่อตาของผมบอกว่าฝันหรือกึ่งหลับกึ่งตื่นๆปู่จาง เอากล้วยน้ำว้ามาวางตรงหน้าแล้วบอกกับท่านว่า ไม่ต้องกลับมาที่หมู่บ้านแล้วนะเพราะไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลยให้เดินทางไปทางทิศนี้แล้วจะเจอกับบ้านต้นไม้ที่พ่อทำไว้ ท่านก็ได้แต่รับปากแล้วก็หลับไปเลยรู้สึกตัวอีกทีตื่นมาของอีกวันนึง สิ่งแรกที่ท่านเห็นคือกล้วยน้ำว้าวางอยู่ตรงหน้าท่านจริงๆแต่มันกลับดำเหี่ยวหมดแล้ว เมื่อทุกคน รู้สึกตัวก็กินกล้วยน้ำว้านั่นแหละพอประทังชีวิตเพราะในละแวกนั้นไม่มีผลไม้ที่กินได้เลยเมื่อท่านพากันกินอิ่มแล้วจึงออกเดินทางตามแม่น้ำลำคลอง ที่ท่านฝันว่าคุณพ่อมาบอกให้ไปทางทิศนี้ในการเดินทางครั้งนี้ก็ใช้เวลามากพอสมควรเหมือนกัน 9วันครึ่ง ระหว่างทางก็เผือกขุดมันกินกันมาทั้งชีวิตจนมาถึงที่พักบ้านต้นไม้บนต้นกระบกใหญ่นี้ เห็นบอกว่า อาศัยอยู่ต้นกะบกนี้ถึง4ปีและย่างเข้าปีที่ 5 ก็มีกลุ่มอพยพอีกกลุ่มนึงเดินทางมา นับได้20คน...และหนึ่งในนั้นคือภรรยาของท่าน
ตะกรุดโทนตัวจริง
ภาพประกอบ
1 บันทึก
2
2
1
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย