20 พ.ค. 2020 เวลา 13:07 • ธุรกิจ
การสอบ CPA
หรือผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (Certified Public Accountant: CPA)
เป็นหนึ่งในอาชีพที่มีผู้สนใจจำนวนมาก ซึ่งการจะก้าวไปเป็นผู้สอบบัญชี
รับอนุญาตได้นั้น จะต้องผ่านทั้งเงื่อนไขการฝึกหัดงานตรวจสอบบัญชีและ
การทดสอบตามที่สภาวิชาชีพฯ กำหนด ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมและการวางแผนในทุกกระบวนการ รวมถึงการเลือกวิชาสอบ CPA ก่อนหลังให้
เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ที่เตรียมตัวสอบมีโอกาสที่จะสอบ
ผ่านมากขึ้น
การทดสอบของผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีนั้น โดยปกติแล้ว
หลังจากที่ยื่นขอแจ้งการฝึกงานก็จะสามารถขอทดสอบได้เลย
ไม่จำเป็นต้องเก็บชั่วโมงการฝึกหัดงานให้ครบก่อน
ยกเว้นวิชาการสอบบัญชี1 การสอบบัญชี2 ที่จะต้องฝึกหัดงานเป็นเวลา
ไม่น้อยกว่าหนึ่งปีและเก็บชั่วโมงการฝึกหัดงานให้ได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งพัน
ชั่วโมง จึงจะสามารถขอเข้าทดสอบได้ (เนื่องจากทั้งวิชาสอบบัญชี 1 และ 2 ประสบการณ์การทำงานจะมีส่วนช่วยในการสอบได้มาก) โดยปกติแล้วการ
ทดสอบจะจัดขึ้นอย่างน้อยปีละสองครั้ง ทั้งนี้ผู้รับการทดสอบจะสมัครสอบ
ทุกวิชาหรือสมัครสอบบางวิชาก็ได้ และเกณฑ์การสอบผ่านคือต้องทำ
คะแนนในแต่ละวิชาไม่น้อยกว่าร้อยละ 60% จึงจะถือว่าผ่านและต้อง
ได้รับการฝึกหัดงานต่อเนื่องจนครบ 3 ปี ไม่น้อยกว่า 3,000 ชั่วโมง โดยผู้รับการทดสอบจะสามารถสะสมผลการทดสอบของแต่ละวิชาที่สอบผ่านแล้ว
ได้ไม่เกินสี่ปีนับจากวันที่ผ่านการทดสอบแต่ละวิชา
การสอบ CPA นั้น สภาวิชาชีพบัญชีได้กำหนดวิชาที่จะต้องสอบไว้ทั้งหมด
6 วิชา ได้แก่
วิชาการบัญชี 1
วิชาการบัญชี 2
วิชาการสอบบัญชี 1
วิชาการสอบบัญชี 2
วิชากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี 1
วิชากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี 2
สามารถสมัครสอบได้ที่ : http://www.tfac.or.th/
การเลือกวิชาสอบ CPA นั้นคนส่วนใหญ่จะแนะนำให้เลือกสอบวิชาที่ยากที่
สุดหรือวิชาที่ไม่ถนัดที่สุดก่อน เพราะหากสอบไม่ผ่าน เราจะได้มีเวลาเหลือสำหรับการท่องแม่บท ข้อบังคับ และมาตรฐานของวิชานั้นให้แม่น
เพื่อเตรียมสอบใหม่อีกครั้ง (สมัยผมเริ่มสอบเมื่อปี 2547 ผมเลือกลงวิชายากสุดก่อน สำหรับผมตอนนั้นคือวิชาคอมพิวเตอร์สำหรับการสอบบัญชี ซึ่งตอนนั้นคิดว่า พอสอบผ่านวิชายากสามารถเก็บไว้ได้ 3 ปี จึงเลือกสอบวิชา
ยากก่อนดีกว่า ซึ่งตอนนั้นสอบครั้งแรก ผ่านเลย และสอบครบ 5 วิชาภายในปี 2549) แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนแนะนำว่าควรเลือกสอบวิชาที่ง่าย
ที่สุดก่อน เพราะหากสอบผ่านเลย ก็จะมีกำลังใจในการอ่านหนังสือสอบครั้งต่อไปยิ่งๆ ขึ้น (สมัยผมจะเลือกสอบวิชาง่ายในช่วงหน้างานที่มีเวลา
อ่านหนังสือน้อยเพราะไม่ต้องเตรียมตัวเยอะและมีโอกาสสอบผ่านได้
คือทุกครั้งที่ลงสอบผมจะคิดเสมอว่าต้องผ่านไม่เคยลงสอบเพื่อไปลองดูข้อสอบเลยสักครั้ง) ทั้งนี้วิชาที่ยากที่สุด และวิชาที่ง่ายที่สุดของแต่ละคนนั้นก็มีความแตกต่างกัน ดังนั้นให้ยึดความถนัดและความพร้อมของเวลาในการ
อ่านหนังสือของผู้สอบเองเป็นหลัก ไม่ควรเลือกวิชาสอบ CPA ตามเพื่อน
แต่สำหรับผู้ที่เพิ่งจบ หรือกำลังเรียนเพิ่มเติมอยู่ อาจใช้เทคนิคในการเลือก
วิชาสอบ CPA ที่มีเนื้อหา โครงสร้าง หรือขอบข่ายวิชาใกล้เคียงกับวิชาที่
เรียนในช่วงนั้นๆ เพราะจะได้สามารถอ่านหนังสือเตรียมสอบ และเรียนรู้ทำ
ความเข้าใจบทเรียนไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลา และทำให้มีความเข้าใจในเนื้อหาลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม วิชาการสอบบัญชี 1 และ 2
ต้องรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการสอบบัญชีทั้งหมดจึงต้องรอสอบหลังจากผ่านการฝึกงานครบ 1 ปีนะครับ
การเลือกวิชาสอบ CPA นั้น ไม่ว่าจะเลือกสอบวิชาใดก่อน หรือหลัง
แต่สุดท้ายก็ยังต้องสอบจนครบทุกวิชาอยู่ดี ดังนั้นหากผู้สอบมีความมุ่งมั่นที่จะสอบเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตให้ได้ มีความตั้งใจ และความพยายาม
ในการพัฒนาความรู้ตลอดเวลา ก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้แน่นอน
ความลับของกฎแห่งแรงดึงดูด(The Secret) กับการสอบ CPA
1. ต้องชัดเจนว่าอยากได้ CPA (คือถ้าเป้าหมายเราชัดเจน ผมว่าโอกาสได้ CPA เกิน 50% แล้ว) "ข้อ1 เรียกว่า การร้องขอ (Ask)"
2. ต้องเชื่อว่าเราจะได้ CPA (เพราะถ้าไม่เชื่อ คุณจะไม่ Focus ที่เป้าหมายแต่ คุณจะไป Focus กับปัญหาและเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้คุณสอบไม่ได้) "ข้อ2 เรียกว่า ความเชื่อ (Believie)"
3. ต้องลงมือทำตามทาง สู่การเป็น CPA (ถ้าคุณมีข้อ 1 และข้อ 2 และ
หนทางสู่การเป็น CPA จะมาเอง ผมเรียกว่าการรับ คือการเตรียมตัวหรือ
ทำตัวให้สมกับ CPA) "ข้อ3 การรับ(Receive)" ส่วนตัวผมคิดว่าข้อ 3 นั้นยากสุดเพราะมันเป็นความรู้สึกระดับที่ว่าเรามีสิ่งนั้นอยู่แล้วเช่น ถ้าคุณมี CPA
แล้วความรู้สึกอยากได้ CPA คุณจะเป็นแบบไหนลองจินตนาการดูครับ
อ้างอิงจาก The secret ของกระบวนการสร้างสรรค์ (Creative Process)
3 ขั้นตอนคือ
1. การร้องขอ (Ask)
2. ความเชื่อ(Believe) และ
3. การรับ(Receive)
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โฆษณา