20 พ.ค. 2020 เวลา 07:33 • ประวัติศาสตร์
#ประวัติศาสตร์จีนฉบับย่อ_3-1
อาณาจักรฮั่นตะวันตก
การสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจยุคต้น
รัชสมัยของจักรพรรดิฮั่นเก่าจูหรือหลิวปังเริ่มตั้งแต่ ปี ๒๐๖ ก่อนค.ศ.
(คือช่วงตั้งแต่ขึ้นมาเป็นเจ้าผู้ครองแผ่นดินใต้)
ในช่วงต้นของการบริหารอาณาจักรเป็นไปอย่างยากลำบาก
เพราะอาณาจักรเดิมถูกขุนนางของราชวงศ์ฉินกดขี่มาโดยตลอด
อีกทั้งยังมีปัญหาสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ประชาชนต้องหลบหนีเข้าไปอยู่ในป่า
การที่จะสร้างความเป็นปึกแผ่นให้เกิดขึ้นภายในอาณาจักรย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
ดังนั้นจักรพรรดิฮั่นเกาจูจึงมีความดำริที่จะหาหลักความรู้ของนักปราชญ์
เพื่อมาช่วยสนับสนุนระบอบการปกครอง
จึงมีรับสั่งให้เรียกนักปราชญ์ลิทธิต่าง ๆ มาเข้าพบ
ลัทธิขงจื๊อมีแนวคิดบางอย่างสอดคล้องกับระบอบการปกครองในอุดมคติขององค์จักรพรรดิ เพื่อความก้าวหน้าและโดดเด่นของลัทธิ
ต่งจงชู ปรมาจารย์ของลัทธิขงจื๊อในยุคนั้น ได้ทำการแก้ไขคำสอนดั้งเดิมของลัทธิ
โดยสร้างทฤษฎีใหม่ว่าด้วย “ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองกับผู้ถูกปกครอง”
ซึ่งกฎนี้เป็นที่พอพระทัยขององค์จักรพรรดิเป็นอย่างมาก
ครั้นเมื่อ วางโครงสร้างในการปกครองได้สำเร็จ จักรพรรดิเก่าจูได้ประกาศใช้
การปกครองแบบผสม แล้วเริ่มงานบริหารโดยบังคับให้พลเมืองทุกคน
ต้องศึกษาคำสอนของขงจื๊อ ส่งเสริมให้ชาวนาเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
โดยการยกเลิกการเก็บภาษีที่ดิน ๑๐ ปี
และให้มีการเกณฑ์แรงงานมาช่วยงานภายในราชสำนักเพียงปีละ ๓๐ วันเท่านั้น
เพื่อให้มีเวลาไปทำการเกษตรได้อย่างเต็มที่ ทำให้บ้านเมืองเริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติ
 
สำหรับการปกครองแบบผสมนั้น คือการรวมอำนาจและกระจายอำนาจ
การปกครองแบบรวมอำนาจจะใช้เฉพาะในเขตเมืองหลวง
ส่วนการปกครองในดินแดนที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง พระองค์ได้มอบอำนาจให้ขุนนางที่มีความดีความชอบไปเป็น หวาง มีอำนาจปกครองดินแดนนั้นแบบเบ็ดเสร็จ
ด้วยความสามารถขององค์จักรพรรดิทำให้ยุคต้นของราชวงศ์ฮั่น
ประชาชนอยู่ดีมีสุข บ้านเมืองสงบปราศจากสงคราม
มีเวลาว่างมากพอที่จะคิดประดิษฐ์อุปกรณ์เครื่องมือมาช่วยส่งเสริมการเกษตร
หรืออุปกรณ์เครื่องช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ถ้วย โถ โอ่ง ชาม เป็นต้น
แล้วยังเกิดวัฒนธรรมใหม่ ๆ ตามมาอย่างมากมาย
โฆษณา