20 พ.ค. 2020 เวลา 10:57 • ความคิดเห็น
นานมาแล้ว แต่ภาพยังคงชัดเจน
บันทึกไดอารี่การทำงานไว้ แบ่งปันมุมมอง บางเรื่องอาจสะกิดให้ฉุกคิด หรือมองคนอื่นในอีกมุมมองหนึ่งการคิดของคนคนหนึ่ง ความอ่อนโยนต่อความทุกข์คนอื่น สัปดาห์ที่แล้ว มีเคสที่ฉันไม่ค่อยถนัด นั่นคือ เคสคดีความ เป็นเคสที่น่าเห็นใจและน่าสนใจ ผ่านตัวละครหลายมุมมอง
เคสจากศาลเยาวชนและครอบครัว เพื่อบำบัดรักษาและตรวจทางจิตวิทยาคลินิก
จะสรุปพฤติกรรมคดีแบบไม่ย่อ
คดีนี้จะเรียกว่าเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวหรือขี้หมูลาขี้หมาแห้ง
ตำรวจก็น่าจะปวดหัวเหมือนกันเวลารับแจ้งความปัญหาครอบครัว
ขายวัยสร้างเนื้อสร้างตัวใกล้เคียงกับดิฉันถูกแจ้งดำเนินคดีมาสองคดี
คดีแรกพ่อตาแจ้งทำร้ายร่างกายและบุกรุกเคหะสถาน
คดีสองทำร้ายร่างกายภรรยา
มีการร้องเรียนถึงมูลนิธิแห่งหนึ่ง ถึงศาลเด็กและครอบครัวส่งต่อมายังรพ เพื่อบำบัดรักษาผู้ป่วย ซึ่งเราตั้งข้อสังเกตว่าศาลอาจพบประเด็นบางอย่าง และต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากทีมจิตเวช การขึ้นศาลของสามีภรรยาอาจมีอะไรบ่งชี้ว่า การฟ้องกล่าวหาของโจทจ์อาจมีประเด็นอื่นร่วมด้วย
มันจะเป็นเรื่องก็ตรงสองคดีเกิดวันเดียวกัน และเป็นคนในครอบครัวเกี่ยวข้องหลายคน พ่อตา ภรรยา พี่สาว พี่เขยภรรยา
สิ่งที่ไม่ละเลยประเด็นความสัมพันธ์พ่อตาลูกเขย ไม่ถูกกัน ลักษณะนิสัยของพ่อตา ของลูกเขย ความสัมพันธ์แบบไทยๆดราม่า จบแบบไม่ยุติธรรมเสมอ พ่อตาตีลูกเขยทุกครั้ง ที่ลูกเขยและลูกสาวทะเลาะกัน และลูกเขยต้องกราบขอโทษพ่อทุกครั้งเพราะผิดถูกพ่อตาถูกเสมอเพราะเป็นพ่อตาต้องเคารพ ลูกเขยคนต่างบ้านและจากครอบครัวยากจนผู้มาอาศัยในบ้านภรรยา เกือบสามสิบปี ขยันทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว สู้งานมาก ไม่ว่าไปไต้หวัน อิสราเอล เป็นผู้ใช้แรงงาน จนสร้างบ้าน
ส่วนพี่สาวภรรยาพี่เขย มีปัญหาการเมือง ท้องถิ่น และต้องการให้คนไข้ทิ้งคะแนนให้ในการเลือกตั้ง ไม่รับเงินหัวคะแนนคนอื่น ซึ่งขัดแย้งรุนแรง ถึงขั้นแช่งให้พ่ายแพ้คะแนนเดียวเลยทีเดียว
ด้วยนิสัยโผงผางของคนไข้ ไม่ชอบคนบังคับ ปกป้องตัวเองสูง เข้าขั้นยอมคดไม่ยอมงอ แต่กับพ่อตายอมตลอด เพราะรักเมีย
มาที่พฤติกรรมภรรยา ก็ถือว่าเป็นภรรยาที่ดีพอสมควร ซื่อสัตย์ รักสามี ระหว่างสามีไปทำงานต่างถิ่นก็เลี้ยงลูกสามคนก็เติบโตท่ามกลางความใกล้ชิดกับพ่อแม่และพี่น้อง และจะกลัวสามีเวลาสามีเสียงดัง ฝ่ายสามีมีปัญหาหูตึงก็จะพูดเสียงดังบวกกับเป็นคนอารมณ์ร้อนโผงผาง พอทะเลาะกันทีภรรยาก็จะวิ่งไปกรี๊ดหน้าบ้านพ่อซึ่งอยู่ติดกัน พ่อได้ยินลูกสาวร้องไห้ก็จะวิ่งเข้ามาทำร้ายลูกเขยทุกรอบ เวลาทะเลาะกับสามีก็จะฟังพี่สาวและพ่อบอกให้เลิก พอเข้าบ้านก็จะฟังสามี ห่วงสามี รักสามี แต่ไม่เคยมีการทำร้ายร่างกายกันรุนแรง สามีทำท่าภรรยาก็จะวิ่งไปฟ้องพ่อทุกรอบไป
เรื่องที่ไม่น่าเกิดก็เกิดขึ้นจากความคิดของภรรยาว่าสามีอาจมีหญิงอื่นเพราะกลับบ้านค่ำ ช่วงเก็บเกี่ยวข้าวคนไข้เป็นคนขยัน ไปรับจ้างต่างบ้านเก็บเกี่ยวข้าว เสร็จแล้วก็ไปหาปลาต่อตามห้วยคลองประจำ ภรรยาสงสัยก็ตามไปดูที่บ้านที่สามีไปรับจ้าง ไม่เจอสามีแต่เจอเพื่อนสามียืนเย็บกระสอบข้าว ก็เลยถามหาสามี เพื่อนสามีก็โทรบอกคนไข้ให้มามีผู้สาวรออยู่ คนไข้ก็สงสัยว่าใครก็เลยกลับมา คนไข้มาถึงเห็นภรรยายืนอยู่แต่ภรรยาสะบัดหน้าใส่แล้วขี่มอไซค์ออกไป และไปยืนพูดด่าผู้หญิงที่ทั้งคนไข้และภรรยาก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ภรรยาด่าเสร็จก็ขี่มอไซค์กลับบ้าน ผู้หญิงคนดังกล่าวก็เลยมาต่อว่าคนไข้ว่าเป็นใคร มาด่าชั้น และแกเป็นใคร พอรู้ว่าคนไข้เป็นสามี ก็เลยจะเอาเรื่องคนไข้ที่ปล่อยให้ภรรยามาด่าตัวเองทั้งที่ไม่รู้จักกันเลย ให้ไปหาผู้ใหญ่บ้าน เพราะตนเองเสียหาย โต้เถึยงกันสุดท้ายคนไข้ก็บอกจะกลับบ้านไปตามภรรยาให้มาขอโทษ คนไข้มาถึงบ้านก็ต่อว่าภรรยาด้วยเสียงดังเพราะโกรธภรรยา ว่าไปด่าเค้าทำไม ฝ่ายภรรยาก็พูดว่าไม่ได้พูดอะไร สามีโมโหก็เลยตบปากภรรยาและบอกให้ไปขอโทษเค้าเดี๋ยวนี้ ภรรยาก็ร้องไห้และวิ่งไปหน้าบ้านตะโกนว่าไม่ไป ฝ่ายพ่อตาได้ยินเสียงก็เลยถือไม้มาตีลูกเขย ฝ่ายลูกเขยก็ป้องกันตัวเองใช้มือบังและผลักพ่อตาออก พ้อตาล้มใส่มอไซค์บาดเจ็บ ก็เลยโกรธ ไปแจ้งความ ตำรวจเห็นว่าเล็กน้อยก็ให้คุยกัน แต่พ่อตาไม่ยอมจะเอาลูกเขยติดคุกอย่างเดียว และเป็นที่มากการขายวัวไปจ่ายค่าทนายในการฟ้อง
ฝ่ายพี่สาวภรรยาไม่พอใจก็พาภรรยาไปฟ้องต่ออีกจะให้คนไข้และภรรยาเลิกกัน และไต่สวนไปมา ภรรยาก็ยอมรับไปด่าเค้าจริง และหึงหวงสามี และขณะเดียวกันก็ไปศาลไปรพ เคียงข้างสามีตลอด ที่ทำไปเพราะโกรธสามี แต่คิดได้ภายหลังกลัวสามีติดคุก กลัวไม่มีคนดูแลตัวเองและลูก
โอล่ะพ่อ เมียมโนเป็นเหตุ และภรรยาน่าจะต้องประเมินเพิ่มเติม
ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของความเตรียดอย่างท่วมท้นของคนไข้เพราะกลัวติดคุก และตัวเองไม่มีเงินจ้างทนายสู้กับพ่อตา
น่าสงสารคนไข้จริงๆ
ไปศาลสองศาล มารพ อีกสองคนผัวเมีย ลำบากเพราะใครน้อ
ภาคสอง
ภาคสอง:# อยากถ่ายทอด ความคิด อารมณ์ความรู้สึกของคนไข้เล่าเป็นบทกวีที่ไม่คล้องจอง
ในชีวิตของลูกผู้ชายคนแบบผม ผมต้องทนอย่างถึงที่สุด แม้เกิดมาไม่พร้อม เกิดเป็นคนก็ต้องสู้อย่างทรนง
บนหนทาง เส้นทางชีวิต ไม่ได้อะไรมาง่ายๆแต่ผมสู้อย่างสุจริต แม้ชีวิตจะเผชิญความเหน็บหนาว ความแห้งแล้ง การเดินทางในถิ่นที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอน แต่เพื่อลูกและเมีย สบาย ผมยอมสู้ด้วยอดทน มีเพียงภูมิใจเล็กๆที่ซ่อนอยู่ในใจผม ผมไม่รู้วันหนึ่ง เงินที่ผมดูแลลูก ไม่ได้ทำให้ลูกรักผม และเข้าใจผม กับภรรยา เธอเป็นคนที่ผมรัก ก็ไม่เคยเข้าใจ พูดอะไรเหมือนสมองเธอมันว่างเปล่า
ในวันที่ผมมีปัญหา ไร้ที่พึ่ง ไร้คนเข้าใจ โลกเหมือนถล่มทลายใส่ผม ไร้ความเมตตา แม้พยายามแค่ไหน ความปราณีก็ไม่มีให้ผม เดินท่ามกลางความมืดมนและมุ่งสู่ทางตันเข้าทุกที รู้ไหมหัวใจผมเรียกร้องใครสักคนที่เข้าใจผมบ้าง ผมอยากปรึกษา มันโหยหา มันตอกย้ำที่ผมไม่มีใครปรึกษา พ่อที่ผมคิดถึงได้แค่จินตนาการ
ผมยอมแล้ว ผมยอมทุกอย่าง แม้กระทั่งศักดิ์ศรี ที่ถูกบีบบังคับ หมดหนทางสู้ ไม่มีเงินมาให้ใคร ไม่มีใครหยิบยื่นให้ผมได้ มันคับข้องใจเหลือเกิน ไม่รู้ว่าชีวิตควรจะจบลงเลยดีไหม
สิ่งที่ผมหวัง ปรารถนา แค่คนเข้าใจ สิ่งที่ผมพลาด เค้าให้อภัย ผมหวาดกลัวแค่ไหน ใครเข้าใจผมบ้าง ภูเขาลูกนี้ใหญ่โตเหลือเกิน ผมจะข้ามไปได้อย่างไร ช่วยผมออกไปจากตรงนี้ที ...,,,ได้โปรด......,
ฉันเห็นความกลัวในแววตาของคุณ และมองเห็นความเป็นนักสู้ในสายตาคุณเช่นกัน
ปัญหาเหมือนก้อนดำที่อยู่ในใจ ก้อนดำจะสลายได้ เมื่อถึงเวลาคลี่คลาย ทั้งตัวปัญหา คดีที่สิ้นสุดและจิตใจที่ถูกปลดล็อค
ภรรยาที่ข้อจำกัดเชาวน์ปัญญาและการแก้ปัญหา จริงๆแล้วเป็นคนโชคดีมากที่มีสามีที่รักและทำหน้าที่สามีและหัวหน้าครอบครัวที่ดี ปัญหาจากครอบครัวตัวเองที่นำไปสู่ความขัดแย้ง
เมื่อพูดคุยให้ภรรยาเข้าใจสามี และให้กำลังใจฝ่ายสามี สอนการสื่อสารใหม่
คดีจบอย่างไร เราก็ไม่สามารถไปตามได้ ทำหน้าที่ส่งต่อและเปิดโอกาสให้เค้าทั้งสองเข้ามารับบริการได้ เมื่อต้องการความช่วยเหลือ
โฆษณา