21 พ.ค. 2020 เวลา 01:27 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ดาวอังคารในภาพถ่ายน่าทึ่งจากโครงการสำรวจอวกาศ
ย้อนหลังไปเมื่อปี 1997 ยานมาร์สพาทไฟน์เดอร์ (Mars Pathfinder) ลงจอดบนดาวอังคารและสำรวจพื้นผิวอยู่นานสามเดือน โดยวิเคราะห์บรรยากาศของดาวอังคารและสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนประเมินองค์ประกอบของหินและดินนับตั้งแต่ยานพาทไฟน์เดอร์เป็นต้นมา มียานหรือรถสำรวจของนาซาอีก 8 คัน/ลำ ได้สำรวจดาวอังคารรถสำรวจสปิริตและออปพอร์ทูนิตีลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารเมื่อปี 2004 โดยมีภารกิจเสาะหาหลักฐานของน้ำ รถสำรวจทั้งสองถ่ายภาพหลายพันภาพของพื้นผิวหินของดาวอังคารและรวบรวมข้อมูลที่ทำให้นักวิจัยเชื่อว่า ครั้งหนึ่งดาวอังคารเคยเป็นดาวเคราะห์ชุ่มชื้น นับจากนั้น รถสำรวจสปิริตก็หยุดทำงาน ขณะที่รถสำรวจออปพอร์ทูนิตียังทำงานต่อไปรถสำรวจคิวริออซิตีซึ่งเป็นรถสำรวจขนาดใหญ่ที่สุดและก้าวหน้าที่สุดที่ส่งขึ้นไปยังดาวอังคารลงจอดเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2012 รถติดตั้งกล้องถ่ายภาพ 17 ตัว เครื่องยิงเลเซอร์ และหัวเจาะที่สามารถเก็บตัวอย่างฝุ่นหิน โดยหวังว่าจะพบหินที่ก่อตัวในน้ำ เมื่อไม่นานมานี้ คิวริออซิตีได้ส่งรายละเอียดใหม่ๆ กลับมายังนาซาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทะเลสาบโบราณในบริเวณหุบอุกกาบาตเกล (Gale Crater) ของดาวอังคารในฤดูใบไม้ผลิปี 2018 นาซามีกำหนดส่งภารกิจอินไซต์ (Insight Mission) ขึ้นไปศึกษาพื้นที่ชั้นในของดาวอังคารและวางแผนจะส่งรถสำรวจอีกคันในปี 2020 เพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมที่ครั้งหนึ่งอาจมีสภาพเอื้อต่อชีวิตขนาดเล็กจิ๋ว
ภาพถ่ายตัวเองของรถสำรวจคิวริออซิตี
ทุ่งเนินทรายแห่งนี้ตั้งอยู่บนก้นหุบอุกกาบาตเก่าแห่งหนึ่งใน Noachis Terra ซึ่งเป็นบริเวณที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งบนดาวอังคาร
จุดตกกระทบของเกราะป้องกันความร้อนจากภารกิจ Mars Exploration Rover Opportunity
เนินทรายเป็นภูมิลักษณ์ที่พบมากบนดาวอังคาร บริเวณเหล่านี้ให้เบาะแสเกี่ยวกับประวัติการสะสมของตะกอนในพื้นที่รอบๆ
กล้องปริทัศน์บน Mars Exploration Rover Opportunity เก็บภาพนี้บริเวณขอบด้านตะวันตกของหุบอุกกาบาต เอนเดฟเวอร์ในช่วงฤดูร้อนปี 2017
เนินทรายกระจัดกระจายอยู่บนพื้นของ Aram Chaos หุบอุกกาบาตผุกร่อนทางตะวันออกของ Valles Marineris
รถสำรวจออปพอร์ทูนิตีใช้เวลาสี่เดือนบนเนินลาดแห่งนี้ทางเหนือของ Greely Haven และถ่ายภาพภูมิทัศน์โดยรอบไว้มากกว่า 800 ภาพ
เนินทรายของหุบอุกกาบาต Russell เป็นเป้าหมายที่ชื่นชอบของกล้องไฮไรส์ (HiRISE) บนยานโคจรรอบ Mars Reconnaissance Orbiter ไม่ใช่เพียงเพราะความสวยงามน่าทึ่ง แต่ยังรวมถึงการตรวจวัดการสะสมของน้ำค้างแข็งใน ฤดูใบไม้ร่วง และการอันตรธานไปในฤดูใบไม้ผลิ
รถสำรวจคิวริออซิตีของนาซาถ่ายภาพปริทัศน์หรือภาพพาโนรามา 360 องศาภาพนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระยะยาวในการบันทึกรายละเอียดทางธรณีวิทยาและภูมิลักษณ์ตามเส้นทางปฏิบัติภารกิจองรถคิวริออซิตีนับตั้งแต่ลงจอดเมื่อปี 2012
บอุกกาบาตวิกตอเรียมีขอบรูปทรงแปลกตาซึ่งเกิดจากการสึกกร่อนและการไหลบ่าของเศษวัสดุตามแนวผนังหุบอุกกาบาต
ฝุ่นที่เกาะสะสมอยู่บนแผงเซลล์สุริยะของรถสำรวจทำให้กำลังไฟฟ้าลดลง และการเคลื่อนที่เพื่อปฏิบัติภารกิจของรถสำรวจอยู่ในวงจำกัด กระทั่งฤดูหนาวผ่านพ้นไปหรือจนกว่ากระแสลมจะพัดพาและช่วยทำความสะอาดแผงเหล่านี้
หุบอุกกาบาตที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 30 เมตร และล้อมรอบไปด้วยวงรัศมีขนาดใหญ่ที่เกิดจาก แรงระเบิดของการตกกระทบ
หุบอุกกาบาตใกล้กับ Sirenum Fossae แห่งนี้มีผนังด้านในที่ลาดชันจากการกัดเซาะของร่องน้ำ
ภูมิประเทศจำนวนมากของดาวอังคารมีลักษณะคล้ายที่พบบนโลก เช่น หุบเขาแม่น้ำ หน้าผา ธารน้ำแข็ง และภูเขาไฟ
ทีมงานที่รับผิดชอบรถสำรวจคิวริออซิตีทำการประเมินวัตถุขนาดเล็กที่อยู่เยื้องลงมาทางขวาของภาพนี้ว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนจากยานอวกาศ
เนินทราย High Dune ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Bagnold Dunes เป็นเนินทรายแห่งแรกบนดาวอังคารที่เราศึกษาในระยะใกล้ เนินทรายเหล่านี้ยังเคลื่อนที่ด้วยอัตราราวหนึ่งเมตรต่อปี
ธรณีสัณฐานเรียกว่า ร่องน้ำเซาะ (gully) ซึ่งพบตามเนินทรายขนาดใหญ่บนดาวอังคารประกอบด้วยภูมิลักษณ์ เช่น ซุ้มผา ร่องน้ำ และที่ลาดเชิงเขา
นาซาวางแผนส่งรถสำรวจไปยังดาวอังคารอีกครั้งในปี 2018 และ 2020 ที่จะถึงนี้
เเหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา