21 พ.ค. 2020 เวลา 10:02 • สุขภาพ
มีคำกล่าวว่า When things get tough, the tough get tea เมื่อเจอสิ่งยากๆ ให้รับมือด้วยชา นับว่าเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่สหประชาชาติจะประกาศวัน International Tea Day ในช่วงเวลาแห่งความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษอย่างห้วงเวลานี้
ปัจจุบันนี้ ผู้คนตกอยู่ในอาการบาดเจ็บหรืออยู่ในสถานการณ์ที่หวาดกลัว ชาจึงมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นที่นิยมในหลายประเทศทั่วโลก
องค์การสหประชาชาติจึงได้ประกาศให้วันที่ 21 พฤษภาคม เป็นวันชานานาชาติ เพื่อสนับสนุนการผลิตและการบริโภคชาอย่างยั่งยืน และสร้างความตระหนักถึงการต่อสู้กับความหิวโหยและความยากจน ในขณะที่ประเทศผู้ผลิตชารายใหญ่อย่างศรีลังกาและเนปาล มีวันชงชาอยู่แล้ว คือ วันที่ 15 ธันวาคม และสหราชอาณาจักรก็มีการเฉลิมฉลองวันชงชาแห่งชาติ ในวันที่ 21 เมษายน แต่คราวนี้จะเป็นเหตุการณ์แรกของสหประชาชาติ
ชาทำหน้าที่ช่วยให้ผู้คนผ่านช่วงวิกฤตของโลกมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ในอดีต เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กองกำลังพันธมิตรได้รับชาจากการปันส่วนของพวกเขา ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่มีค่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อน้ำสะอาดขาดตลาด หลังจากนั้น มีสถานการณ์ของการระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปน และผู้คนก็ได้รับชาเยียวยาใจ
ถ้าคุณคุณคิดถึงปัญหาสุขภาพจิตที่ทุกประเทศจะต้องเผชิญในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า เราจะดูแลสุขภาพจิตกันยังไงดี ...ง่ายที่สุด คือการทำชาสักถ้วยแล้วนั่งคุยกับใครสักคน ... เพราะการชงชานั้นเรียบง่าย
ในทางเคมีแล้วนั้น ชาจะรักษาเอ็นโดรฟินในเชิงบวกเป็นเวลานาน (ไม่เกินสองชั่วโมง) ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการฟื้นตัว
ถ้าคุณมีชาสักถ้วยคุณจะรู้สึกผ่อนคลาย แน่นอนว่าชานั้นมีสองแง่มุม ทั้งทำให้คุณสดชื่นในขณะเดียวกันก็ทำให้คุณรู้สึกสงบ
จากสถิติของบริษัท Statista ซึ่งเป็นบริษัทสถิติของเยอรมัน คาดว่าแต่ละคนจะดื่มชาประมาณ 85 ลิตรต่อปี ทำให้มันเป็น "เครื่องดื่มร้อนที่นิยมบริโภคกันมากที่สุดในโลก”
วันนี้ คุณดื่มชาหรือยัง
เรียบเรียงจาก brisbanetimes.com
รูปภาพจาก freepik.com
โฆษณา