Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ง่ายๆเราทำได้
•
ติดตาม
21 พ.ค. 2020 เวลา 11:26 • การศึกษา
เช็คง่ายๆก่อนออกเดินทางเดือนละครั้ง🚗🚙🚚
วันนี้มีวิธีตรวจสอบระดับน้ำกรดในแบตเตอรี่รถยนต์มาฝากให้ทุกท่านตรวจสอบด้วยตัวท่านเองแบบง่ายๆเราทำได้ 🔧
ก่อนอื่นเรามาฟังเรื่องราวของแบตเตอรี่กันก่อนว่ามีไว้ทำอะไรในรถยนต์
แบตเตอรรี่ที่ใช้ในรถยนต์จะมีขนาด 12 v
ถ้าเป็นรถเก่งมีขนาด 12 โวล์ 40-45 แอมป์
ถ้าเป็นรถกระบะ 12 โวล์ 70-90 แอมป์
หมายเหตุ ถ้ารถยนต์ติดเครื่องเสียงหรืออุปกณ์เพิ่มเติมที่ใช้ไฟที่กินกระแสไฟมาก ก็ควรเพิ่ม
ปริมาณแอมปให้์เยอะขึ้น
แบตเตอรี่มีไว้เพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ไฟให้กับระบบเครื่องยนต์ โดยเฉพาะตอนสตาร์ทรถยนต์ต้องใช้ปริมาณไฟที่มากเพื่อไปขับมอเตอร์สตาร์ทรถยนต์ให้หมุน เพื่อทำให้เครื่องยนต์ติด🚖
การสตาร์ทแต่ละครั้งจะใช้ไฟเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณไฟในแบตเตอรี่ลดลง แต่ระบบเครื่องยนต์จะมีตัวชาร์ทไฟเข้าแบตเตอรี่ที่เรียกว่า ไดชาร์ท จะชาร์ทเข้าแบตเตอรี่ที่ 13.5-14.5 โวล์
ถ้าชาร์ทต่ำกว่า 12.5 โวล์จะถือว่าไม่ดี ชาร์ทเข้าช้าเกินไป หรือไม่ชาร์ทเลยแบตเตอรรี่จะหมดไฟเร็วมาก หรือชาร์ทเกิน 15 โวล์ขึ้นไปถือว่าไม่ดี แบตเตอรี่จะเดือนเร็วและร้อนเร็วจนบวม เกิดความเสียหายได้
ควรวิ่งรถยนต์ให้ได้วันละ 30 กิโลเมตร เป็นอย่างต่ำ จะทำให้แบตเตอรี่ของทุกท่านใช้ได้นานถึง 4-5 ปีเลยที่เดียว
มาดูวิธีเช็คระดับน้ำกรดในแบตเตอรี่ดังนี่
1.เปิดฝากระโปรงรถขึ้นล็อคให้เรียบร้อย
จะเห็นแบตเตอรี่อยู่ทางด้านขวาหรือซ้ายเครื่องยนต์ ของแต่ละยี่ห้อรถยนต์
2.เปิดฝาปิดช่องเติมน้ำกลั่นออกทุกช่องเพื่อที่จะดูระดับน้ำกรดในแบตเตอรี่่
ระดับน้ำกรดในแบตเตอรี่ไม่ควรต่ำกว่าระดับ lower level เพราะถ้าต่ำกว่านี้จะทำให้ปริมาณน้ำกรดในแบตเตอรี่ต่ำกว่าแผ่นธาตุ จะทำให้ประสิทธิภาพการจ่ายไฟของแบตเตอรี่ลดลง หรือเสื่อมคุณภาพไปเลย
แบตเตอรี่มี 6 ช่อง ช่องละ 2 โวล์ ปริมาณน้ำกรดในแบตเตอรี่ควรอยู่ระดับ upper level ทุกช่องตลอดเวลา ถ้าเราใช้รถประจำทุกวันน้ำกรดในแบตเตอร่ีจะลดลง ตามการใช้งาน ส่วนที่หายไปในน้ำกรดแบตเตอร่ีคือน้ำที่ระเหยออกไป ไม่ใช่กรดแบตเตอร่ี เราจึงเติมน้ำกลั่นเท่านั้น
น้ำกลั่นมีขายตามร้านขายอะไหล่รถยนต์หรือปั๊มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 10-25 บาท
3.เติมน้ำกลั่นลงในช่องเติม
ให้เติมถึงระดับที่กำหนดไว้ให้ดูตัวแบตเตอร่ีหรือช่องเติมก็ได้
ให้เติมถึงระดับขอบพลาสติกด้านใน ไม่ควรเติมจนล้น จะทำให้เกิดการหกล้นมากัดอุปกรณ์อื่นของเคร่ืองยนต์เสียหายได้ในขณะใช้รถยนต์ขึ้นที่สูง
4.เติมเสร็จเรียบให้ปิดฝาให้สนิทและเช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อย
ครบ 4 ขั้นตอนนี้จะทำใหแบตเตอร่ี้รถยนต์ของทุกท่านมีประสิทธิภาพที่ดี ใช้ได้ยาวนานนะครับ
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและกดติดตามให้เป็นกำลังใจในการทำบทความครั้งต่อไปนะครับ ❤❤
บันทึก
7
5
7
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย