Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หามาเล่า
•
ติดตาม
22 พ.ค. 2020 เวลา 09:54 • การศึกษา
ฉลามยักษ์ Megalodon ยังมีชีวิตอยู่ ?
ในยุคปัจจุบันที่เราอาศัยกันอยู่นี้ ยังมีสิ่งมีชีวิตที่เขายืนยันแล้วว่าสูญพันธุ์ไปแล้วอาศัยอยู่ และสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นถูกยืนยันได้จากการพบเจอ จากการบอกเล่า บอกต่อ มีการถ่ายภาพและคลิปวิดีโอยืนยันไว้ แต่การค้นพบเหล่านั้นก็มีการถกเถียงกันอยู่ตลอดเวลาว่ามันเป็นของจริงหรือของปลอม หรือเป็นของที่แต่งขึ้นมา และมีการตรวจสอบกันตลอดเวลา ซึ่งสัตว์เหล่านี้จะมีอยู่เพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่ถูกค้นพบและวิจัยกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
1
และหนึ่งในสายพันธุ์นั้นที่เราพูดถึงกันมากที่สุดนั่นก็คือฉลามยักษ์ยุคดึกดำบรรพ์หรือ Megalodon คือสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่เขาว่ากันว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว กว่า 23-2.6 ล้านปีก่อนในยุคไมโอซีนตอนต้น โดยลักษณะของ Megalodon นั้นนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ที่เขาสันนิษฐานกันว่า Megalodon น่าจะมีหน้าตาคล้ายคลึงกับฉลามขาวในยุคปัจจุบันของเรา แต่ขนาดตัวของ Megalodon จะใหญ่กว่าฉลามขาว 10 เท่าตัว ว่ากันว่าขนาดใหญ่สุดอาจจะถึง 60 ฟุต หรือ 20-22 เมตร
2
ตรงนี้เป็นเพียงแค่การคาดเดาเท่านั้น เพราะจากข้อมูลที่ไปหามาได้ เขาบอกว่าหลักฐานการค้นพบ Megalodon หรือฉลามยักษ์ดึกดำบรรพ์มีค่อนข้างที่จะน้อยมาก มีหลักฐานเพียงไม่กี่ชิ้นและส่วนใหญ่หลักฐานเหล่านั้นมักจะไม่สมบูรณ์สักหลักฐานเลย โดยสิ่งที่พบเจอส่วนใหญ่ จะเป็นเพียงแค่ซากฟอสซิลฟันของเมกาโลดอน ที่มีการผลัดฟันเพียงเท่านั้น และมีการค้นพบกระดูกสันหลังของเมกาโลดอนเพียงเล็กน้อย ซึ่งตรงนี้เขาเลยไม่สามารถคาดเดารูปร่างหน้าตาของเมกาโลดอนว่าจริงๆแล้วรูปร่างหน้าตามันเป็นแบบไหน แต่รูปร่างลักษณะที่เห็นอยู่ เขาบอกว่ามีความใกล้เคียงกับฉลามขาวในยุคปัจจุบันของเรา ซึ่งหลายคนก็คงจะตั้งคำถามว่า ทำไมเมกาโลดอนถึงไม่มีฟอสซิล ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์เหมือนกับไดโนเสาร์ เหมือนกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่เขาค้นพบกัน
1
ถ้าเอาตามข้อมูลที่เขาสันนิษฐานกัน เขาสันนิษฐานกันว่าเมกาโลดอนเป็นสัตว์ที่มีขนาดที่ใหญ่มาก ว่ากันว่าอาจจะมีน้ำหนักตัวมากกว่าหลัก 100 ตัน แล้วพอเมกาโลดอนเหล่านี้เสียชีวิตหรือตายไป มันก็จะจมลงสู่ใต้ท้องทะเล ย่อยสลายไปทุกส่วนและจะมีสัตว์อื่นมากินซากของเมกาโลดอนไป แต่ซากเมกาโลดอนเหล่านั้นจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจย่อยสลายได้นั่นก็คือโครงกระดูกสันหลังและฟัน เพราะโครงกระดูกกับฟันคือโปรตีน เลยไม่ถูกย่อยสลายและกลายเป็นฟอสซิลให้เราได้พบเจอกันอยู่ทั่วโลก ฟอสซิลของเมกาโลดอนนักวิทยาศาสตร์เขาบอกว่า เราสามารถพบเจอฟอสซิลฟันของฉลามหรือโครงกระดูกสันหลัง เหล่านี้ได้ตามพื้นที่ชายฝั่งท้องทะเลที่มีความลึกไม่เกิน 1-200 เมตร เนื่องจากว่าเมกาโลดอนไม่อาศัยอยู่ในบริเวณน้ำลึก เพราะเมกาโลดอนเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณน้ำอุ่น ฉะนั้นแล้วยิ่งน้ำลึกลงไปอากาศหรืออุณหภูมิก็ยิ่งต่ำ เลยเป็นไปไม่ได้ที่เมกาโลดอนจะอาศัยอยู่บริเวณใต้น้ำลึก และจากการรวบรวมฟอสซิลฟันของเมกาโลดอนเขายังคาดการณ์กันอีกว่า กรามของเมกาโลดอนอาจจะใหญ่ได้ถึง 2 เมตร และมีแรงกัดได้ถึง 20,000 กิโลกรัม หรือ 6-8 เท่าถ้าเทียบกับฉลามขาวหรือจระเข้ในยุคปัจจุบัน
2
ฉลามขาวหรือจระเข้ในยุคปัจจุบันของเรามันคือสิ่งมีชีวิตหรือสัตว์นักล่าที่มีแรงกัดมากที่สุดในโลก และเป็นที่น่าเสียดายที่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่กว่า 90% ออกมายืนยันเลยว่าฉลามยุคดึกดำบรรพ์หรือเมกาโลดอนได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ไม่มีทางหลงเหลือหรือมีชีวิตอยู่บนโลกเราอย่างแน่นอน
1
แต่สาเหตุการสูญพันธุ์ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าเมกาโลดอนสูญพันธุ์เพราะอะไร หลายๆคนก็อาจจะเคยดูสารคดี และอาจจะคาดเดากันว่าอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงฉับพลันของอุณหภูมิน้ำที่เกิดจากอุกกาบาตพุ่งชนโลก ภูเขาไฟระเบิด เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เมกาโลดอนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ และมีการสูญพันธุ์เหมือนยุคไดโนเสาร์
1
ส่วนใหญ่ก็จะคิดกันประมาณนี้ แต่ถามว่ามันเป็นทฤษฎีแบบนั้นจริงๆหรือเปล่า คือทฤษฎีของเมกาโลดอนมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เขาบอกว่าทฤษฎีการสูญพันธุ์ของเมกาโลดอนมีอยู่ 3 ทฤษฎีด้วยกัน โดยทฤษฎีแรกที่นักวิทยาศาสตร์เขาคาดการณ์กันได้บอกไว้ว่า
เมกาโลดอนเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ฉะนั้นแล้วการกินอาหารของเมกาโลดอนก็จะต้องสมส่วนกับขนาดตัว และขนาดตัวของเมกาโลดอนอยู่ที่ประมาณ 100 ตัน ฉะนั้นแล้วการกินอาหารของมันอาจจะอยู่ถึง 10-20 ตันต่อวันหรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้ ซึ่งตรงนี้ในช่วงแรกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เพราะเมกาโลดอนเป็นสิ่งมีชีวิตตัวเดียวในยุคนั้นที่เป็นผู้ล่าที่ใหญ่ที่สุดในท้องทะเล แต่ในเวลาต่อมาได้เกิดบรรพบุรุษของฉลามขาวและวาฬเพชฌฆาต ฉลามขาวกับวาฬเพชฌฆาตในยุคนั้นขนาดตัวไม่ได้ใหญ่เท่ากับเมกาโลดอน ฉะนั้นแล้วเวลามันล่าเหยื่อหรือเวลาออกหาอาหาร ยังไงก็ต้องมีความว่องไวกว่าเมกาโลดอนอยู่แล้ว ตรงนี้เขาเลยคาดการณ์กันว่า นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เมกาโลดอนหาอาหารได้น้อยลงจากการถูกแย่งชิงจากบรรพบุรุษของฉลามขาวและวาฬเพชญฆาต เลยทำให้เมกาโลดอนอาจจะสูญพันธุ์ในยุคนั้นก็เป็นได้
2
ส่วนทฤษฎีต่อมาที่เขาคาดกันว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุให้เมกาโลดอนสูพันธุ์นั่นก็คือ การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่เมกาโลดอนไม่สามารถทำได้ ทางวิทยาศาสตร์เขาได้อธิบายไว้ว่า ในช่วงเวลานั้นได้มีหนึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นนั่นก็คือ แผ่นเปลือกโลกของแอฟริกาและแผ่นเปลือกโลกทางฝั่งยุโรปได้ขยับตัวเข้ามาชนกันอย่างรุนแรง ทำให้ระดับน้ำทะเลลดลงอย่างเฉียบพลัน และทำให้ธารน้ำแข็งเพิ่มขึ้นอย่างเฉียบพลันเช่นกัน เลยทำให้อุณหภูมิของน้ำทะเลทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้มีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลเป็นอย่างมาก ผลกระทบตรงนี้เลยทำให้สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลบริเวณน้ำอุ่นเริ่มตาย และสูญพันธุ์กันไปหลากหลายสายพันธุ์มาก แต่ก็ยังมีอีกหลากหลายสายพันธุ์ที่ปรับเปลี่ยนตัวเองและปรับเปลี่ยนพันธุกรรมตัวเองให้อาศัยอยู่ในบริเวณน้ำเย็นได้ แต่เมกาโลดอนไม่สามารถทำได้ นักวิทยาศาสตร์ได้คาดการณ์กันว่า ขนาดตัวของเมกาโลดอนที่ใหญ่มากๆและยีนที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจด้วยเรื่องของการเป็นนักล่าอันดับหนึ่งของท้องทะเลมันเลยอาจจะคิดว่าสามารถหาอาหารได้ตลอดเวลา และไม่มีทางสูญพันธุ์อย่างแน่นอน เลยไม่มีการปรับเปลี่ยนยีนแต่อย่างใด จนถึงวันนึงที่อุณหภูมิน้ำเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เลยทำให้เมกาโลดอนนั้นปรับตัวไม่ทัน และสุดท้ายเมกาโลดอนก็ต้องสูญพันธุ์ไปพร้อมกับสัตว์อื่นๆที่ปรับตัวไม่ทันเช่นกัน
3
และส่วนสาเหตุสุดท้ายที่เขาคาดการณ์กันว่าน่าจะทำให้เมกาโลดอนสูญพันธุ์นั่นก็คืออาจจะเกิดจากเหตุการณ์ซุปเปอร์โนวานอกโลก และโลกเราก็ได้รับผลกระทบจากรังสี ขอบอกก่อนว่านี่เป็นทฤษฎีใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา และทฤษฎีนี้เป็นทฤษฎีที่คนส่วนใหญ่ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์เขาไม่เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ แต่ก็ยังมีประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ที่เขาบอกว่ามีความเป็นไปได้เหมือนกัน โดยทฤษฎีตรงนี้ได้บอกไว้ว่า
ในยุคที่เมกาโลดอนอาศัยอยู่ ได้เกิดเหตุการณ์ซุปเปอร์โนวาของดาวเคราะห์ดวงนึง และจากเหตุการณ์ซุปเปอร์โนวาครั้งนั้นก็ได้ส่งผลกระทบมาถึงโลกเรานั่นก็คือ โลกเราได้รับรังสีคอสมิกมาเป็นจำนวนมากจนทำให้มีผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศของโลก และผลกระทบตรงนั้นเกิดเป็นอนุภาค 1 อนุภาคนั่นก็คืออนุภาคมิวออน และอนุภาคตรงนั้นก็ลงไปสู่ท้องทะเลจนทำให้เกิดความเสียหายทางชีวภาพ ซึ่งสัตว์น้ำ สัตว์ทะเลในยุคนั้นก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน แล้วความเสียหายตรงนั้นก็ก่อให้เกิดโรคร้าย โรคมะเร็ง และโรคต่างๆทำให้สัตว์หลายสายพันธุ์ต้องตายไปอย่างน่าเสียดาย และเขาคาดกันว่าหนึ่งในสายพันธุ์สัตว์เหล่านั้นที่ได้รับผลกระทบก็คงมีเมกาโลดอน และอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เมกาโลดอนสูญพันธุ์ และนี่ก็คือข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมาเกี่ยวกับคำยืนยันจากนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ที่เขาว่ากันว่าเมกาโลดอนหรือฉลามยักษ์ดึกดำบรรพ์ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ตรงนี้มันก็ยังมีนักวิทยาศาสตร์บางส่วนและนักวิจัยบางส่วนเขายังเชื่อกันว่ามันอาจจะไม่ได้สูญพันธุ์และมันอาจจะยังอาศัยอยู่บนโลกเราก็เป็นได้ ตรงนี้ไม่ได้มโนขึ้นมาหรือไม่ได้อ้างอิงขึ้นมาแบบมั่วๆ ได้มีการอธิบายและมีหลักฐานยืนยันอยู่หลายอย่างมาก ซึ่งได้ลงเจาะข้อมูลไประดับหนึ่งและได้รวบรวมข้อมูลมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยหลักฐานตรงนี้ขอแยกเป็น 2 หลักฐานนั้นก็คือหลักฐานจากคำบอกเล่า และเกี่ยวกับหลักฐานจากคลิปวีดีโอโดยหลักฐานจากคำบอกเล่าตรงนี้เท่าที่ไปหามามันมีเยอะมากแต่จะมีอยู่ 1 เรื่องเล่าที่เขามีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ชายหาดและมีการยืนยันจากผู้พบเจอว่ามีการค้นพบจริงๆนั่นก็คือหลักฐานคำบอกเล่าเรื่องฉลามยักษ์ที่ท่าเรือสตีเฟน
1
ข้อมูลเขาได้บอกไว้ว่าในปี 1918 ทางท่าเรือสตีเฟน ได้รับวิทยุแจ้งเหตุผิดปกติบางอย่างจากชาวประมงที่ออกเดินทางทะเลจับปลาอยู่ โดยทางชาวประมงได้แจ้งเหตุมาว่าเรดาร์ของพวกเขาได้มีการตรวจจับปลาขนาดใหญ่ได้ และพวกเขาเหล่านั้นได้มองเห็นว่าปลาตัวนั้นกำลังกินปลาในอวนที่พวกเขาจับมาได้อยู่ ซึ่งพวกเขาได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าปลาที่พวกเขาเห็นตรงนั้นมีลักษณะคล้ายกับฉลามมากแต่ขนาดที่เขาเห็นตรงนั้นมีขนาดใหญ่กว่า 300 ฟุตหรืออาจจะถึงเกือบ 100 เมตรเลยก็ว่าได้ ซึ่งเหตุการณ์ตรงนี้ได้มีหลักฐานยืนยันนั่นก็คืออวนของชาวประมงที่เขาจับปลามาได้ มีรอยฉีกขาดจากการกัดอย่างรุนแรงและรอยกัดตรงนี้เขาเชื่อกันว่าเป็นรอยกัดของฉลามอย่างแน่นอน แต่ฉลามตัวนั้นมีขนาดใหญ่กว่า 100 เมตรเขาเลยคาดกันว่าเป็นไปได้ไหมว่านี่อาจจะเป็นเมกาโลดอน ซึ่งตรงนี้เป็นข้อมูลที่ยังเป็นปริศนาและยังหาคำตอบไม่ได้ และข้อมูลตรงนี้ก็ยังมีการบอกต่อและเป็นข่าวโด่งดังในยุคนั้นจนทำให้คนไม่กล้าออกทะเล ในช่วงนั้นเลยส่วนอีก 1 หลักฐานที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของเมกาโลดอนนั่นก็คือหลักฐานที่เป็นคลิปวีดีโอซึ่งหลักฐานตรงนี้ส่วนใหญ่เป็นหลักฐานที่เป็นของปลอมทั้งหมดแต่จะมีประมาณไม่กี่วีดีโอที่เขายังหาข้อสรุปไม่ได้และเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
2
16 บันทึก
35
8
2
16
35
8
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย