เคยไหม? อยู่ๆ ก็ตัดสินใจซื้อของที่ไม่ได้ตั้งใจซื้อ โดยใช้เวลาเลือกเพียงแปปเดียว
วันนี้เราจะมาพูดถึง กลยุทธ์ที่ ห้ามมองข้ามเด็ดขาด ถ้าอยากสะกดจิตให้จงซื้อ
1. ตั้งราคาให้ลงท้ายด้วย 9
เป็นเรื่องน่าตลก ของความรู้สึกเรา เวลาที่เราเห็นป้ายราคา 79 บาท
ดูเย้ายวนเเละน่าซื้อกว่า 80 บาททั้งๆที่ราคาต่างกันเพียงแค่ 1 บาท แต่ความแตกต่าง 1 บาทในทางคณิตศาสตร์นี้ มีมูลค่ามากกว่า 1 บาทมากในความรู้สึกของผู้ซื้อ และยากต่อการต่อราคา ยากต่อการลดราคา และดูเหมือนว่าราคานี้เป็นราคาที่ลดแล้ว
อย่างไรก็ดี ในสินค้าบางชนิดอาจจะไม่เหมาะ เช่น สินค้าอิเลกทรอนิกส์ หรือสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง เพราะราคาก็เป็นอีกสิ่งที่เรามักรู้สึกถึง คุณภาพ นั่นเป็นสาเหตุให้เราเห็นว่า ราคาไอโฟนนั้น มักลงท้ายด้วย 90 หรือ 900 เพราะเป็นการ Balance ระหว่าสินค้า “มีราคาแพง = มีคุณภาพ” ในระดับหนึ่ง แต่ราคาก็ไม่ได้ดูแพงมากจนเกินไป
2. ประโยคเร่งเร้าให้ตัดสินใจ
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราพบได้บ่อยมากในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นประโยคคลาสสิค ที่มักเห็นได้บ่อยในรายการ TV Direct
นั่นคือ “ถ้าหากคุณโทรมาตอนนี้ เราลดให้จาก ..​เป็น ..”
อย่างไรก็ดี กลยุทธ์นี้ยังคงใช้ได้เสมอ หากเรารู้จักนำมาปรับให้เข้ากับธุรกิจของเรา
เช่น ร้านค้าขายของออนไลน์ กับการ Live ขายสินค้าผ่าน Facebook เป็นการเร้าให้เรารีบตัดสินใจ กับสินค้าที่เเม่ค้าขายอยู่ เพราะถ้าหากเราไม่ CFหรือ รีบซื้อตอนนี้ สินค้าหรือโปรโมชั่นนั้นอาจจะหมดลงในไม่ช้า
3. ใช้สีแดงในการเขียนราคา
สีแดง ถูกเชื่อมโยงกับความรู้สึกของมนุษย์ ถึงความร้อนแรง ความน่าตื่นเต้น และทำให้ผู้บริโภคที่มองมีความเร่งรีบ และนำไปสู่การตัดสินใจที่เร็วขึ้น นั่นเอง
4. Choice หลอก เพื่อให้ซื้อสิ่งที่เราอยากขาย
กลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจมากๆค่ะ หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า Choice หลอกคืออะไร ?
Choice หลอกก็คือ การที่เรา วางทางเลือกให้ลูกค้าเลือก โดยเราเป็นคนอยู่เบื้องหลังการตัดสินใจทั้งหมด
ยกตัวอย่างเช่น ร้านค้าอาหาร แห่งหนึ่งขายสเต๊กโดยมี ทั้งหมด 3 เมนูด้วยกัน
1. เมนู เสต๊กโคขุน 300 บาท
2. เมนู เสต๊กริบอายจาก นครราชสีมา 500 บาท
3. เมนู เสต๊กริบอายนำเข้าจาก ออสเตรเลีย 590 บาท
1
ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกอันไหนคะ
แน่นอนว่าจะสั่งทางเลือก ที่ 3 ซึ่งดูคุ้มค่ากว่าเพราะเพิ่มเงินเพียง 90 บาทก็ได้ เสต๊กเนื้อนำเข้าเเล้ว
ซึ่งจริงๆเเล้ว ทางเลือกที่สองนั้น ทางร้านไม่ได้อยากขาย แต่เป็นเพียงเเค่ Choice หลอก เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเปรียบเทียบในการตัดสินใจ
5. ของขายดี ไว้ในสุด
กลยุทธ์นี้ นิยมใช้มากในต่างประเทศเลยค่ะ ถ้าไป Super Market ในต่างประเทศจะเห็นว่ามักตั้ง กระดาษทิชชู่ นม และ ขนมปัง ไว้ด้านในของ Super Market เนื่องจากเป็นสินค้าที่ขายดี เเละ เป็นสินค้าจำเป็น
ทำให้ แต่ละครั้งที่ลูกค้ามาซื้อสินค้าเหล่านี้ ต้องเดินเข้าไปถึงด้านในของร้าน ซึ่งเป็นโอกาส ที่ทาง Super Market จะได้ขายสินค้าอื่นเพิ่มมากขึ้น จากสินค้าโปรโมชั่นที่จัดอยู่ตามทางเดินนั่นเองค่ะ
รู้แบบนี้เเล้ว อย่าลืมจัดร้านค้าให้ ลูกค้าต้องเดินชมนะคะ
6. แสดงราคาต่อวัน
อีกเทคนิคที่ใช้กัน ก็คือการเเสดงราคาสินค้าต่อวัน เช่น ราคาโซฟาตัวละ 50,000 อาจจะดูแพงใช่ไหมคะ
แต่ถ้าหากเรามาคิดๆ ดูเเล้วโซฟาตัวหนึ่ง อาจใช้ได้นานถึง 5 ปี คิดเเล้วตกปีละ 10,000 บาท หรือวันละ เพียง 27 บาทเท่านั้นเองค่ะ
ลองนึกถึงความสบายที่ได้จากการนอนดูทีวี ผ่านโซฟาอันเเสนสบาย ในราคาเพียง 27 บาทต่อวันสิคะ
น่าซื้อมากๆเลยใช่ไหมม
7.สร้างความแตกต่างระหว่าง ราคาจริงกับราคาลด
ส่ิงหนึ่งที่เรามักเห็นกันในโลกออนไลน์ยุคหลังๆมานี้คือ การถ่ายภาพป้ายลดราคา ที่จริงๆเเล้วอาจจะไม่ได้ลด หรือ ลดเพียงไม่กี่บาท มาให้เราได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ
ซึ่ง การที่ร้านค้า ทำราคาลดให้มีขนาดใหญ่ ก็เพื่อดึงดูดสายตา และทำให้ลูกค้าคิดไปเองว่านี่คือสินค้าที่ลดราคาลงมาเเล้ว ซึ่งทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง
👍ถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ก็อย่าลืมเเชร์นะคะ🙏
อีกช่องทางการติดตาม : https://bit.ly/buynowmarketingfb
โฆษณา