22 พ.ค. 2020 เวลา 18:17
หลายคนรู้จักอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ในฐานะนักแสดง โดยเฉพาะบทบาทที่เราคุ้นเคยและสร้างชื่อเสียงให้กับเขามากที่สุด คือ บทบาทคนเหล็ก ในภาพยนตร์เรื่อง คนเหล็ก 2029 ภาค 1 ( The Terminator ) ในปี 2527 แต่รู้มั้ยว่าจริง ๆ แล้ว คนเหล็ก 2029 ไม่ใช่การแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา เรื่องแรกที่เขาแสดงคือเรื่อง Hercules in New York ในปี 2513
และมีผลงานการแสดงอีกมากมายกว่า 100 เรื่อง
อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ประสบความสำเร็จเริ่มแรกจากกีฬาเพาะกาย และเชื่อว่าการเป็นแชมป์กีฬาเพาะกายจะทำให้เขาสามารถก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ได้
นอกจากนี้ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ยังประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพที่เขาเลือกอีกหลายอย่าง เช่น การเป็นนักการเมือง เขาได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการรัฐแครริฟอเนีย คนที่ 38 เมื่อปี พ.ศ.2546-2549
 
อะไรก็สิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จมากมายในชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งที่เกิดมาในประเทศออสเตรีย ประเทศที่แพ้สงคราม และอพยพมาตามฝันที่สหรัฐอเมริกา ไม่ใช่เพราะว่าอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ มีกล้ามเนื้อที่ใหญ่ และสามารถฆ่าพรีดีเอเตอร์ด้วยมือเปล่าได้ แต่เป็นกฏ 5 ข้อแห่งความสำเร็จง่ายๆที่อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ได้แบ่งปันต่างหาก
2
กฏข้อที่ 1 ค้นหาวิสัยทัศน์ของคุณ
อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ กล่าวว่า ชีวิตเราหากไม่มีวิสัยทัศน์ มันจะล่องลอยไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีความสุข ซึ่งมันก็จะแตกต่างจากชีวิตเขาที่ฝึกซ้อมกีฬาเพาะกายเป็นระยะเวลา 5 ชมต่อวัน ทุก ๆ วัน ฝึกซ้อม ฝึกซ้อม และก็ฝึกซ้อม ไม่เว้นสักวัน ไม่ว่าเขาจะทำงานหนักแค่ไหนก็ตาม เพราะเขารู้ว่าเป้าหมายสูงสุดเขาคืออะไร
เขาต้องการเป็นแชมป์นักเพาะกายในการแข่งขันเพาะกาย เป็นมีสเตอร์ยูนิเวิร์ส และก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ อาร์โนลด์_ชวาร์เซเน็กเกอร์บอกว่าเขารู้ว่าอะไรคือเป้าหมายสูงสุด และหลงใหลในมันเขาเลยมีความสุขที่ได้ทำ จงค้นหาวิสัยทัศน์ของคุณให้พบและส่วนที่เหลือจะตามมาเอง
 
กฏข้อที่ 2 อย่าได้คิดเล็ก (จงคิดใหญ่) อาร์โนลด์_ชวาร์เซเน็กเกอร์ไม่ได้คิดแค่ว่าจะไปปรากฏตัวอยู่ในภาพยนตร์เท่านัน แต่ต้องการที่จะเป็นดาราภาพยนตร์ชื่อดัง มีค่าตัวที่สูงลิบ มีค่าตัวสูงสุด และมันใช่เรื่องที่ผิดตรงไหนที่จะคิดแบบนั้น
 
กฏข้อที่ 3 เลิกสนใจพวกที่เอาแต่พูดว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นธรรมชาติที่เมื่อเรามีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ และมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ คนเหล่านั้นจะมาค่อยพูดอยู่ข้างๆคุณว่า ฉันคิดว่ามันทำไม่ได้หรอก ฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก
เมื่ออาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ อายุ 15 ปี บอกกับเพื่อนของเขาชาวออสเตรียว่าต้องการที่แชมป์โลกในการแข่งขันกีฬาเพาะกาย เพื่อนของเขาบอกว่านายบ้าหรือเปล่า เพราะมันเป็นกีฬาคนอเมริกา มันเป็นความคิดโง่ๆ แต่มันก็ไม่สามารถทำลายความมุ่งมั่นของเขาลงได้ เขายังคงที่จะฝึกฝนมันอย่างหนัก จนกระทั้งอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ได้แชมป์โลกกีฬาเพาะกาย 13 ครั้ง เขาบอกตัวแทนและผู้จัดการภาพยนต์ ว่าต้องการเข้าสู่วงการภาพยนต์ ต้องการเป็นพระเอกของเรื่อง แต่กลับได้รับคำพูดที่ดูถูกและเสียงหัวเราะเย้ยหยัน
อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่วงการภาพยนตร์ มีรูปร่างที่ใหญ่เหมือนยักษ์ สำเนียงการพูดแบบเยอรมัน มีชื่อที่ออกเสียงยาก แต่มันก็ไม่ทำให้เขายอมแพ้เช่นเคย เขาลงเรียนคลาสการแสดง หรือแม้แต่คลาสการเปลี่ยนสำเนียงการพูด จนได้รับโอกาสเล็กๆ ได้ออกรายการทีวีในช่วงเวลาเล็ก ๆ และจนกระทั่งได้รับโอกาสใหญ่ และประสบความสำเร็จในโอกาสใหญ่
1
และรู้มั้ยสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับมันก็คืออะไร ผู้อำนวยการสร้าง กล่าวในงานแถลงข่าวว่า ถ้าเราไม่มี อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ กับกล้ามเหล่านั้น เราคงจะต้องเที่ยวไปสร้างใครสักคนขึ้นมาและหลังจากนั้นเมื่อเขาได้เล่นหนังคนเหล็ก เจมส์ แคเมรอน บอกว่า ในประโยคที่ว่า แล้วผมจะกลับมา กลายเป็นหนึ่งในประโยคที่โด่งดังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์
เพราะว่า สำเนียงอันบ้าคลั่งของอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ เพราะว่าเสียงของเขาเหมือนกับหุ่นยนต์ คุณคงเห็นแล้ว ทุกสิ่งที่พวกคนที่คอยบั่นทอนจิตใจคุณบอกว่ามันเป็นหนี้เสีย ได้กลายเป็นทรัพย์สิน จงห่างจากคนคิดลบเหล่านั้นซะ
3
กฏข้อที่ 4 ทำงานอย่างหนัก เพราะไม่มีใครต้องการที่จะล้มเหลว เพราะว่าไม่ทำงานหนักพอ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวงการใด ถ้าไม่ยอมลำบาก ก็ไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เหมือนกับอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ เขาจำได้ว่าตอนนั้นเขาฝึกซ้อม 5 ชั่วโมงต่อวันในทุกๆวัน
3
และบริหารจัดการธุรกิจก่อสร้าง เป็นช่างก่ออิฐ และก็เข้ามหาวิทยาลัยด้วย เข้าคลาสการแสดงหลายๆคลาส ตั้งแต่ 08.00 ตอนกลางคืนถึง 12.00 เที่ยงคืน ทุกๆวันที่อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ทำนั้น ทำงานให้หนัก นั้นคือสิ่งที่เชื่อมาโดยตลอด ไม่ว่าจะทำอะไร จงทำงาน ทำงาน และทำงาน
กฏข้อที่ 5 อย่าเอาแต่ได้แต่จงให้บางสิ่งกลับคืนสังคม อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ บอกให้เราถอดกระจกบานที่อยู่ตรงหน้าแล้วมันจะทำให้มองข้ามตัวเราเองที่ในกระจก แล้วจะพบผู้คนเป็นล้านๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ
และนี้คือทำไมอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ถึงพยายามทำทุกๆโอกาส ที่สามารถทำได้ เพื่อให้บางสิ่งกลับไป เปิดฝึกอบรมพิเศษสำหรับคนที่พิเศษ เริ่มสอนหลักสูตรหลังเลิกเรียน สำหรับเด็กที่ด้อยโอกาส ที่อยู่ในเมือง เพื่อทำให้พวกเขารู้จักที่จะไม่ยุ่งกับยาเสพติด ไม่เข้าร่วมกับอันธพาลและปฏิเสธความรุนแรง เราทุกคนสามารถที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นคนในละแวกบ้านของเรา หรือในโรงเรียนท้องถิ่นของเรา เพราะท้ายที่สุดมันขึ้นอยู่กับพวกเราทั้งนั้น
จงค้นหาวิสัยทัศน์ อย่าได้คิดเล็ก (จงคิดใหญ่) เลิกสนใจพวกที่เอาแต่พูดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ทำงานอย่างหนัก อย่าเอาแต่ได้แต่จงให้บางสิ่งกลับคืนสังคม
#ความสำเร็จของแต่ละคนขึ้นอยู่กับเป้าหมายแต่ละคนที่ตั้งไว้
#การกระทำและกาลเวลาจะทำให้ไปถึงเป้าหมาย
ขอบคุณสำหรับการติดตาม
สามารถแนะนำ ติ ชม ได้นะครับ
โฆษณา