23 พ.ค. 2020 เวลา 08:55
ลี้ลับ : แสงจากที่มืด
ความมืดมักแอบซ่อนบางอย่างไว้เสมอ เรื่องที่จะเล่านี้ก็เช่นกัน
นัดชา สาววัย 18 ปี เธอกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม. 6 ทุกๆเช้าเธอจะขับรถมอเตอร์ไซค์ไปเรียนหนังสือ โดยมีน้องสาวชื่อ นา ไปเรียนด้วย น้องสาวเธออยู่ ม. 4 ทั้งสองเป็นนักเรียนที่เรียนเก่ง และอัธยาศัยดีเป็นที่รักใครของใครหลายคน ไม่เคยมีสักครั้งที่ทั้ง 2 คนจะออกนอกลู่นอกทาง เช้าไปโรงเรียนแต่เช้า และกลับบ้านทันทีหลังเลิกเรียน เส้นทางที่จะกลับบ้านนั้นไม่ไกลมากนัก แต่มีให้เลือกอยู่ 2 เส้นทางสำหรับรถวิ่ง เส้นทางแรกเดินทาง 20 นาที เส้นทางที่ 2 เดินทาง 10 นาที แต่ทั้งคู่มักเลือกเส้นแรกในการเดินทางกลับ เพราะอะไรนะหรือ เส้นทางที่สองใกล้กว่าก็จริงแต่มีประวัติที่ได้ยินมาไม่น่าฟังนัก
วันนี้ก็เช่นทุกวัน 2 พี่น้องเตรียมตัวจะกลับบ้าน แต่พอดีครูใหญ่ให้ช่วยกันจัดสถานที่สำหรับงานเลี้ยงรุ่น จึงทำให้ทั้ง 2 พี่น้อง ต้องกลับบ้านดึก ผู้พี่ขับรถกลับมาทางเดิมปกติ แต่ "ทำไมกันนะ ทำไมถึงมาสร้างถนนวันนี้ด้วย" เธอบ่นอุบอิบ แล้วเลี้ยวรถกลับมาอีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งทั้ง 2ืพยายามที่จะหลีกเลี่ยงที่จะไม่มาเส้นทางนี้
เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน รถจึงไม่ค่อยมีนัก ยิ่งดึกยิ่งไม่มีรถพาให้รู้สึกสยองอย่างไรบอกไม่ถูก ระหว่างทางเธอและน้องเห็นรถบรรทุกอ้อยคันหนึ่งวิ่งอยู่ข้างหน้า "ได้การละ ขี่ตามรถอ้อยดีกว่าน่าจะปลอดภัย " นัดชาพูด
ระหว่างทางทั้งสองขี่ไปคุยไปปกติ ทันใดนั้นเอง......
นัดชาก็ได้หันไปเห็นดวงไฟชนิดหนึ่งในกระจกรถ เธอจ้องดวงไฟในกระจกอย่างจริงจัง ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นมันคือดวงไฟจากรถหรืออะไรกันแน่ แต่ทำไมมันจึงรักษาระยะได้ดีขนาดนี้นะ ไม่มีขึ้นลงตามความขรุขระบนถนนเลย ด้วยความสงสัยเธอจึงบอกให้น้องสาวหันไปดู ว่ามีรถขับตามมารึป่าว น้องสาวเธอหันไปดูสักพัก .....ชั่วครู่ก็ได้รับคำตอบว่า "ไม่มีนะพี่ มีอะไรรึป่าว " เธอได้ยินคำตอบของน้องแล้วถึงกลับอึ่งไปที่เดียว แต่ยังไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยินนัก จึงให้น้องสาวหันไปดูอีกที แต่ก็ได้รับคำตอบเช่นเดิม ใจไม่ดีอยู่แล้ว ขณะนี้มันยิ่งเต้นแรงขึ้นไปอีก นัดชาได้แต่ภาวนาอยู่ในใจ ขออย่าให้สิ่งนั้นลอยเข้ามาใกล้เลย และไม่หันไปตอบน้องแต่อย่างใด ได้แต่ใช่สายตาจับจ้องอยู่ในกระจก จะแซงรถอ้อยก็ไม่ได้ เนื่องจากถนนแคบเกินไป เธอจึงได้แต่แกล้งทำใจเย็น พูดหยอกล้อกับน้องต่อไป สักพักเธอรู้สึกผิดปกติ
เสียงน้องเธอเริ่มหายไป พบแต่ความเงียบเข้ามาแทนที่ เธอจึงเรียกชื่อน้องหนึ่งครั้ง แล้วก็ได้รับคำตอบว่า "ขับรถไปเถอะ อย่าเพิ่งคุยเลย " มันผิดปกติมากที่น้องของเธอเงียบไป ดวงไฟนั้นก็ยังคงรักษาระยะมาเรื่อยไป ๆ ในที่สุดรถก็พ้นขึ้นถนนใหญ่สมใจทั้ง2 คน ทันทีที่รถรถขึ้นถนนลาดยางใหญ่เธอรีบบิดรถทันที เพื่อเร่งความเร็วให้หลีกพ้นสิ่งที่ตามมา และก็สำเร็จดังใจคิด
เมื่อมาถึงบ้าน พ่อกับแม่รีบวิ่งมาเปิดประตูทันที แล้วก็ได้ยินเสียงหนึ่งก็แทรกขึ้นมา " พ่อวัดบ้านเรามีงานศพรึป่าวคะ " ฉันและพ่อ แม่ มึนงงและตกใจมาก ที่อยู่ๆน้องก็ตั้งคำถามประหลาดขึ้นมา
"มีอะไรรึป่าวลูก" เสียงแม่ถาม
แล้วก็ได้รับคำตอบว่า น้องนา ได้ยินเสียงตีระนาดมาตลอดทาง หลังจากที่นัดชา ให้น้องหันไปดูดวงไฟ นัดชาเองซะอีกที่ไม่ได้ยินอะไร แต่กลับเห็นเป็นดวงไฟแทน
ใครจะไปเชื่อว่ากลับมาด้วยกันแท้ๆ แต่กลับได้ยินและได้เห็นอะไรแปลกๆไปคนละแบบ
หลังจากวันนั้นทั้ง 2 ก็ได้ยินข่าวว่ามีคนไปเชิญพระธุดงและแม่ชี 100 รูป มาทำพิธีเชิญผีโป่งไปอยู่ที่อื่น ที่แท้สิ่งที่เห็นก็คือผีโป่งนั่นเอง บุญเท่าไหร่นักที่วันนั้นไม่มีใครเป็นอะไร ....และยังมีชีวิตรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
ภาพ : อินเตอร์เน็ต
โฆษณา