23 พ.ค. 2020 เวลา 10:58 • ท่องเที่ยว
"เวียดนามเหนือ เวียดนามใต้" EP.1
ผมเป็นคนที่โตมาในยุคที่เด็กๆ หนังฮอลลีวู้ดแอ็คชั่นมันส์ๆ มักจะเป็นหนังเกี่ยวกับสงครามเวียดนาม เช่น Rambo2, Platoon, Apocalypse Now, Hamburger Hill, The Dear Hunter, Good Morning Vietnam เยอะมาก อันนี้เท่าที่พอจะนึกออกตอนนี้นะ ทำให้ผมมีภาพในหัว มีภาพจินตนาการเกี่ยวกับเวียดนามไว้เยอะมากตั้งแต่เด็กๆ จนในที่สุดก็เกือบมีโอกาสจะได้ไปเที่ยวคนเดียวเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่สุดท้ายด้วยหลายสาเหตุทำให้ทริปล่มไป และลืมๆเรื่องนี้ไป จนเมื่อปีก่อนผมได้ไปเวียดนามจนได้ แถมเป็นทริปแบบ เวียดนามเหนือ เวียดนามใต้ รวมกันเลยด้วย ออกจะเหนื่อยหน่อย แต่ด้วยเวลาที่จำกัด มันก็คุ้มค่าแหละ
ทริปเริ่มต้นจากกรุงเทพบินตรงไปลง 'ฮานอย' เมืองหลวงของเวียดนามเหนือในอดีต แล้วนั่งเครื่องภายในประเทศจากฮานอยไปลง 'โฮจิมินห์' หรือชื่อในอดีตที่เรียกว่า 'ไซ่ง่อน' นั่นเอง
อาวุธประจำกายสำหรับทริปนี้ก็เจ้า Nikon F3 ตัวเดิม กับเลนส์คิท 35-70mm. ครอบจักรวาล ไม่คมมากมายแต่ก็ถ่ายได้หลายระยะ สะดวกกับการเดินๆ วันละ 10-15 กิโล สะดวกดี
ฟิลม์ที่ผมใช้ก็มี Fuji C200 กับฟิลม์หนัง Kodak Vision3 250D และ Agfa Vista 200 อย่างละม้วน อาจจะฟังดูแปลกๆ ว่าไปตั้งสองเมืองทำไมถ่ายมาน้อยจัง เอาจริงๆเวลาแต่ละเมืองมันจำกัดมากๆครับ แล้วนอกจากถ่ายฟิลม์แล้วช่วงนั้นผมยังพกดิจิตัลคู่กันอยู่ เลยจะหนักไปทางดิจิตัลเยอะกว่า เพิ่งจะมาช่วงหลังนี้ล่ะที่เลิกพกไปแล้ว พกแต่กล้องฟิล์มอย่างเดียว
ก็เป็นทริปดองเค็มที่เอามาลงให้ดูกันเล่น ในช่วงที่เราไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ ต้องเก็บตัวรอให้สถาการณ์มันผ่านพ้นไปก่อนนะครับ หวังว่าจะได้ออกเดินทางได้อีกครั้งในเร็ววัน นั่งมองฟิล์มใน stock แล้วก็ไม่รู้จะได้ไปเที่ยวอีกเมื่อไหร่ เฮ้อ....
สภาพเมืองฮานอย สำหรับผมรู้สึกว่าเมืองทางเหนือมันคล้ายๆกันนะ มีความคล้ายๆเชียงใหม่บ้านเรา ต้นไม้ร่มรื่นอากาศเย็น
โบสถ์เซนต์โจเซฟ เป็นที่ๆสวยมากประทับใจ แต่เค้าปิดไว้ไม่ให้เข้า ไม่ใช่แค่ไม่ให้เข้าไปข้างใน แต่ไม่ให้เข้าไปใกล้ๆตัวโบสถ์เลยด้วยซ้ำ มีรั้วกันอยู่โดยรอบถ่ายได้จากข้างนอกเท่านั้น แต่ก็มีสาวๆ มาถ่ายรูปแต่งงานกันเยอะอยู่
ที่พักของผมเป็นห้องที่จองจาก air bnb เป็นห้องเล็กๆ อยู่ในตรอกแคบๆ ระหว่างตึกแถว ที่ด้านหน้าเป็นผับ แล้วเหมือนห้องนี้มันไปแอบอยู่หลังผับ ในหลืบอีกที คือบรรยากาศมันดาร์คมาก เหมือนตัวเองเป็นพวกสายลับ CIA แฝงตัวมาหาข่าวอะไรแบบนั้น แต่ห้องสวยนะเจ้าของเค้าแต่งไว้ดี
ที่นี่ไม่มีคนขายพวงมาลัยแบบบ้านเรา คนเวียดนามเค้าไม่ร้อยมาลัยกันมั้ง ไม่ยักเห็นนะ แต่ที่เห็นบ่อยๆก็คือ จักรยานที่ขายดอกไม้แบบนี้แหละ เต็มไปหมด
ตรอกนี้อเมซิ่ง ฮานอยมาก เห็นแคบๆแบบนี้ พอตกดึกทุกร้านจะยกเก้าอี้เตี้ยๆ โต๊ะเตี้ยๆ ออกมาวางกันเต็มไปหมด มันคือซอยร้านเหล้า อารมณ์ตรอกข้าวสาร แต่แน่นเอี๊ยดกว่าเยอะ
ระหว่างรอเวลาไปดื่มที่ตรอกก่อนหน้านี้ ก็มาเดินเล่นชมวิวเผาหัวร้านวิวดีๆ สักขวดนึงก่อน
กลับมาที่ตรอกเดิมในยามค่ำคืน บรรยากาศมันคนละเรื่องกับตอนกลางวันเลย สนุกสนานคึกคักสุดๆ
แต่ความอเมซิ่งที่แท้ทรูคือ นั่งกินกันอยู่ดี ตำรวจลงจร้าาา เก็บยกโต๊ะยกเก้าอี้เข้าร้านกันอุตลุต นักเที่ยวก็ถือแก้วยืนๆกันไป พอตำรวจไปก็เอาโต๊ะเอาเก้าอี้กลับมาวางกันอีกเหมือนเดิม แล้วขอโทษเถอะ มันไม่ใช่รอบเดียวนะสิ คืนนึงนี้ 4-5 รอบได้ ลุกๆ นั่งๆ กันสนุกเลย ยอมรับความอยากขาย อยากทำมาหากินขอ
พ่อค้าแม่ค้าแถวนี้เลย เป็นผมสองรอบก็คงเลิกล่ะ ไม่ขายล่ะ
ในบริเวณร้านตั้งโต๊ะได้ นั่งชิวไป พวกโต๊ะในถนนก็ยืนไปก่อนนะจ๊ะ
ตื่นมาสายๆ แบบแฮงก์ๆ
รถเมล์เวียดนาม แอร์เย็นสภาพดี และใช้พนักงานเดินเก็บตังค์แบบบ้านเรา ก็จะจ่ายเงินกันงงๆ นิดนึง
เดินผ่านร้านนี้ เห็นบรรดาแม่ครัวนั่งปิ้งหมูห่อใบชะพลูกันอยู่หน้าร้านหอมมาก ก็เลยพุ่งเข้าไปนั่งเลย เป็นโต๊ะเตี้ยเก้าอี้เตี้ยอีกแล้ว ร้านแคบมาก ไม่น่าเกินสามเมตร แต่คนเต็มนะ
ห้องครัวคือหน้าร้าน ปิ้งๆ แล้วก็ปรุง สรุปมันคือร้านขาย บุ๋นจ่า ชาวเวียดนามนิยมรับประทานเป็นมื้อกลางวัน วิธีสังเกตง่ายๆ คือสัก 11 โมง เราจะเริ่มเห็นร้านที่นำเนื้อหมูมาย่างจนควันโขมง นั่นแหละเขากำลังเตรียมบุ๋นจ่าอยู่ โดยมีทั้งเนื้อหมูหมักปั้นก้อน และหมูสามชั้น ย่างถ่านจนเกรียมได้ที่ รับประทานพร้อมน้ำแกงใส เส้นขนมจีน และผักสดชามใหญ่ๆ
วัดเจดีย์เสาเดียว วันอันเก่าแก่โด่งดังที่ใครๆก็ต้องมา แต่พอมาแล้ว เฮ้ย ฝรั่งล้วนซะงั้น
มีสิงห์? ตัวน้อยๆเฝ้าบันไดอยู่
หลังจากดูพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์เสร็จ ก็เดินออกมาตรงลานด้านหน้าอาคารที่เค้าบอกว่าเป็นที่ฝังศพของลุงโฮฯ ก็อลังการมากนะใหญ่โตกว้างขวางมาก เพิ่งจะสังเกตุเห็นว่า เหมือนเค้าจะไม่มีตัวหนังสือของตัวเอง เค้าใช้ตัวหนังสือภาษาอังกฤษแล้วเขียนเป็นคำอ่านแบบคาราโอเกะเอา อันนี้ก็แปลกดี ใครมีความรู้เรื่องนี้วานบอกที
บริเวณที่เราเดินๆอยู่นี้ ลานกว้างนี้เค้าเรียกกันว่า จัตุรัสบาดิ่ญ ฝั่งตรงข้ามมองไปจะเป็น อาคารสถานที่ราชการอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ล่ะ
ป้อมปราการหลวงทังลอง
ป้อมปราการจักรพรรดิแห่งทังลอง-ฮานอย เป็นพระราชวังเก่าแก่อายุกว่า 1,000 ปี สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หลี เวียต (Ly Viet) เพื่อประกาศเอกราชของอาณาจักรด๋ายเวียต (Dai Viet) ชื่อของอาณาจักเวียดนามโบราณ ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นทับป้อมปราการเดิมของจีนตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7 ที่เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองและการทหารติดต่อกันนาน 13 ศตวรรษ ลักษณะรูปแบบการก่อสร้างเหมือนป้อมปราการของจีนในสมัยศตวรรษที่ 7 ซึ่งพระราชวังทังลองสร้างบนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง ในช่วงที่เวียดนามปกครองด้วยกษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองของประเทศ สถานที่แห่งนี้เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นด้วยหินทั้งหมด ซึ่งเป็นสมบัติของราชวงศ์โฮ แต่ยังคงหลงเหลือโครงสร้างให้เห็นในปัจจุบัน อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรม เพราะเป็นราชวังหินแห่งเดียวที่เหลืออยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ยาวนาน สะท้อนอารยะธรรมในเขตลุ่มแม่น้ำแดงตอนล่าง ที่ตั้งอยู่ระหว่างอิทธิพลของอาณาจักรฮั่น (จีน) และ อาณาจักรจัมปา (Champa) ทางใต้ จึงถูกยกย่องให้เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของสถาปัตยกรรมในสมัยนั้น ๆ นอกจากนี้การสร้างโดยใช้เทคโนโลยีในแบบสมัยก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าพิศวงว่าคนสมัยนั้นสามารถสร้างพระราชวังที่งดงามอย่างนี้ได้อย่างไรภายในปราการเก่ามีแต่ซากหักพังของพระราชวังโบราณแห่งอาณาจักรทังลองที่งดงามอันรอคอยการบูรณะและตกแต่งให้กลับมาสวยงามดังเดิม
ไม่แน่ใจว่าสาวๆเหล่านี้มาถ่ายรูปอะไรกัน มีช่างภาพคนนึง ช่างภาพก็ดูจริงจัง เดาว่าน่าจะถ่ายอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวหรืออะไรทำนองนั้น ดุน่ารักดี
แว๊บมาตอนเช้าที่ไซง่อนเลย เพราะเมื่อคืนเราบินไฟลท์เย็นพอมาถึง เข้าที่พัก กินข้าวตบเก๊กฮวย ก็สลบไปเลย
เค้าว่ากันว่าแท็กซี่เวียดนาม นี่ก็ร้ายไม่ใช่เล่น ที่แนะนำกันก็จะมีสองบริษัท ที่ดูจะได้มาตราฐานหน่อย หนึ่งในนั้นก็คือ เจ้าสีขาวคาดเขียวแดงนี่แหละ แต่เอาจริงผมก็ขึ้นมั่วไปเรือ่ยนะ ก็ยังไม่โดนอะไร หรือว่าเพราะเราใช้ app?
ร้านชากาแฟ ที่มีมอเตอร์ไซค์ให้เช่า ไม่ใช่รถลูกค้านะอย่าเข้าใจผิด และให้ป้าเช่าที่ขายน้ำด้วย คือที่นี่จะทำธุรกิจกันปนๆ มั่วๆ อย่างวันก่อนที่ไปดื่มในตรอกแคบๆที่ฮานอย มีร้านนึงอันนี้พีคสุดๆ เป็นร้านซักรีด พ่อกับลุงก็ยืนรีดผ้ากันไป ลูกชายกับเพื่อนก็เอากลองกีตาร์ไฟฟ้า มาร้องเพลงเฮฟวี่ แล้วก็เปิดขายเหล้าเป็นบาร์ ไปด้วย อันนี้คือโคตรสุด ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน mix and match โคตรๆ
โบสถ์ไซง่อนนอร์เทรอดาม อันนี้ก็แลนด์มาร์ค ใครมาไซ่ง่อนก็ต้องมาถ่าย แต่ผมได้มาถ่ายตอนมันซ่อมนะเอ้อ เข้าไม่ได้ แถมมีนั่งร้านมาเป็นส่วนประกอบภาพด้วย(จะดีใจทำไม) ไปไหนก็ปิด ไม่ปิดก็ซ่อม เฮ้อ
เราพยายามมองให้มันเป็นอาร์ตไปล่ะกันนะ จะมาซ่อมอะไรวันนี้
ชอบความคุมโทนการแต่งตัว กับแอคติ้งของน้องๆกลุ่มนี้มาก
ไปรษณีย์กลางไซง่อน ที่ยังเปิดใช้อยู่ ก็เข้าไปครับ ไปเขียนโปสการ์ดส่งกลับเมืองไทย แบบที่ใครๆก็ทำกันนั่นแหละครับ
ที่ส่งไปรษณีย์มีหน่อยเดียว ที่เหลือ ขายของที่ระลึกล้วนๆ
ขึ้นชื่อว่าเมืองแห่งร้านกาแฟ มันก็มีเยอะจริง ร้านนี้ก็น่ารัก อยู่ชั้นสาม ต้องขึ้นบันไดมา ไอ้เราก็เปิด google map เดินๆ ร้านมันอยู่ไหนว่า บอกถึงแล้วๆ ไม่ทันดูป้าย อ๋อ อยู่ชั้นบนเฮ้อ
เค้าคุยฝรั่งเศสกัน ทั้งสาวเวียดนามบาริสต้าและลูกค้า เราก็ได้แต่แบะๆๆ ไป จบกัน
พิพิธภัณฑ์ดีนะเจ๋งมาก คือมันมีวัตถุโบราณของเวียดนาม แบบอายุหลักพันปี วางกันดื้อ แบบเอามือจับได้อ่ะ ไม่มีคนห้าม คนเฝ้าด้วย (การดูวัตถุจัดแสดงโบราณ ที่ถูกต้องห้ามจับนะครับ) คืองงมาก ไม่กลัวเสียหายกันเหรอไง แล้วก็สภาพแต่ละชิ้นนี่สมบูรณ์มากนะ ไม่เอามาลงให้ดูหรอก อยากเห็น บินมาดูเองดีกว่า
น่าจะเจ้าหน้าที่ เพราะตอนไปใกล้ปิดแล้ว ที่เห็นด้านหลังเป็นศาลเจ้าหรือวัด ไม่แน่ใจ อยู่ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์นี่แหละ เข้าไปพระกำลังปิดประตูไล่ด้วยสายตาพอดี สวยเจ้าหน้าที่พวกนี้ก็กำลังเตะตะกร้อวงอยู่ กีฬาประจำภูมิภาคเราจริงๆ
apartment cafe อันเลื่องชื่อลือชา และไม่มีขาตั้งกล้องด้วย กลั้นหายใจ กดไปสามรูป เบลอเละเทะไปสอง หรือดีสุดได้เท่านี้แหละ
จบวันด้วยหาที่กินเก๊กฮวยตามฟอร์ม ฟามงูหลาว จำชื่อนี้ไว้ให้ดีนะครับ มันคือที่สุดของที่สุด ใหญ่มากร้านเหล้าล้วนๆ ทั้งเส้นเลย มีทุกแนว เหมือนเอา พัทยามาผสมกับอาร์ซีเอ ใส่สีลมกับพัฒพงษ์เข้าไปหน่อย หยอดตรอกข้าวสารเข้าไปนิด ออกมาเป็นย่านราตรีที่มีชื่อว่า 'ฟามงูหลาว'
มีทุกอย่างเท่าที่คุณจะคิดออกเลยล่ะ
รถติดๆ เด็กน้อยเดินมาพร้อมถังน้ำมัน จุดไฟขึ้นมาแล้วก็....
ปูดดดดด พ่นไฟเล่นซะงั้น
ต้องยอมรับเลยว่าที่นี่มันสุดจริงๆ เดินๆอยู่ก็มีผู้ชายมาดักหน้าพร้อมยื่นรูปสาวๆให้ดูพร้อมกับร้องถาม "girl girl girl" พอเราส่ายหน้าไม่เอา นึกว่าจะจบ ที่ไหนได้พวกควักรูปเด็กผู้ชายขึ้นมาแทน บอก "boy boy boy" แทนเฉยเลย เฮ้ยยแบบนี้ก็ได้เหรอว่ะ เหลือเกินจริงๆ
ตื่นเช้ามาด้วยสภาพอิดโรย วันนี้ยังอีกยาวไกล
เติมน้ำมันแพร็บ เดี๋ยวมาต่อ ep.2 ดีกว่า กับไซง่อนวันสุดท้ายครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา