24 พ.ค. 2020 เวลา 03:49 • สุขภาพ
การปลูกผัก
วันนี้จะมาแนะนำวิธีการปลูกผักไว้รับประทานเอง
1. กวางตุ้ง
วิธีปลูกกวางตุ้งในกระถาง ขั้นตอนแรกให้
พรวนดินให้พร้อม กำจัดวัชพืชให้หมด แล้วนำปุ๋ยคอกมาผสม จากนั้นให้หย่อนเมล็ดลงในกระถางเพาะกล้า รดน้ำ และใส่ปุ๋ย เสร็จแล้วก็รอจนกระทั่งต้นสูงประมาณ 5-10 เซนติเมตร แล้วค่อยย้ายลงไปปลูกในกระถางใหญ่ที่เตรียมไว้อีกที ใช้เวลาประมาณ 20-25 วัน ถึงจะเก็บเกี่ยวได้
โดยต้นกวางตุ้งสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี โตได้ดีในดินทุกชนิด แต่จะชอบดินร่วนปนทรายที่มีความชื้นสูงเป็นพิเศษ ต้องการน้ำค่อนข้างมาก อย่างน้อยวันละประมาณ 1 ครั้ง มีโรคและแมลงรบกวนบ้างเล็กน้อย แต่ที่น่าสนใจคือมีประโยชน์เพียบ ไม่ว่าจะเป็นช่วยเสริมสร้างกระดูก ฟัน และภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา ช่วยในการขับถ่าย ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดตามข้อ อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอาหารที่ร่างกายต้องการ และอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ
3
2. คะน้า
วิธีปลูกคะน้าในกระถาง ขั้นตอนแรกให้
เตรียมดินด้วยการผสมดินร่วน 1 ส่วน ทราย 1 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน และขี้เถ้าแกลบหรือขุยมะพร้าวหรือใบไม้แห้ง 1 ส่วน (แต่หากไม่สะดวกผสมดินเอง สามารถใช้ดินสำเร็จรูปแทนได้) จากนั้นก็ใส่ลงไปในกระถางแบบไม่ต้องเต็มมาก เสร็จแล้วหย่อนเมล็ดคะน้าตามลงไป หลังจากนั้นเติมดินกลบได้ตามต้องการ ใช้เวลาประมาณ 45-60 วัน จึงเก็บเกี่ยวได้ แต่ถ้าหากจะปลูกคะน้าซ้ำในกระถางเดิม ควรผสมดินใหม่
1
สำหรับการดูแล คะน้าเป็นพืชที่ต้องการน้ำอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ โดยต้องรดให้ชุ่มชื้นทั่วกระถางทุก ๆ เช้า-เย็น หมั่นกำจัดวัชพืชและพรวนดินบ่อย ๆ วางในบริเวณที่มีแสงเพียงพอ ส่วนปุ๋ยที่นำมาบำรุงต้นควรเป็นปุ๋ยที่ธาตุไนโตรเจนสูง
3. ถั่วฝักยาว
วิธีปลูก ถั่วฝักยาว ในกระถาง ขั้นตอนแรก
ให้เตรียมดินปลูกให้เหมาะสมด้วยการพรวนหน้าดินแล้วตากแดดทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ ดินที่เหมาะกับการปลูกมากที่สุดคือดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์ ไม่มีตำหนิ โรยลงไปในหลุมดินลึก 5 เซนติเมตร แล้วกลบให้สนิทพร้อมกับรดน้ำทันที สัปดาห์แรกควรรดน้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง (หรือแล้วแต่สภาพอากาศ) ประมาณ 1 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นยอดต้นอ่อน เมื่อต้นเริ่มโต ลดการให้น้ำลงเหลือ 4-6 วันต่อครั้งก็พอ โดยใช้เวลาในการปลูกประมาณ 55 วันจึงเก็บเกี่ยวได้
1
สำหรับการดูแลเมื่อต้นมีอายุได้ 15 วัน ให้เริ่มใส่ปุ๋ยบำรุง โดยเน้นสูตรที่มีธาตุฟอสฟอรัสสูง พร้อมกับหมั่นกำจัดวัชพืชบ่อย ๆ และควรทำค้างหรือนั่งร้านเพื่อให้ถั่วฝักยาวได้เลื้อยเกาะด้วย โดยต้องบอกเลยว่าถั่วฝักยาวเป็นพืชที่เหมาะจะปลูกไว้กินเองมาก ๆ เพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอาหารมากมาย นำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย แถมยังช่วยดูแลผิวพรรณ บำรุงสายตา กระดูก และฟัน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และช่วยป้องกันเบาหวานได้ด้วย
1
โฆษณา