24 พ.ค. 2020 เวลา 07:53
"ทำได้ คือ ช่วยเหลือ และ คิดในมุมเขา"
เมื่อตอนต้นปี วันนั้นวินดามีเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด และจำเป็นต้องเดินทางโดยเครื่องบิน (เป็นเวลาประมาณเกือบ 2 อาทิตย์แล้วที่วินดาตื่นแต่เช้ามืดและนอนดึกติดกัน) วันนั้นเลยคิดสร้างพลังให้ตัวเองสดชื่นและยิ้มได้ เพราะวินดาต้องเจอคนเยอะ อยากให้เกิดบรรยากาศดีๆกับตัวเองและคนรอบข้างที่วินดาพบเจอค่ะ
เลยบอกกับตัวเองว่า วันนี้ถ้าช่วยเหลือใครได้จะทำให้ดีที่สุด โดยนึกถึงใจเขาใจเรา พยายามคิดในมุมของคนที่วินดาช่วยเหลือได้ (ไม่รู้เป็นอะไรชอบตั้งโจทย์กิจกรรมให้ตัวเอง หรือเราไม่ปกติหว่า อิหยังนิ??? 555)
พอไปถึงสนามบินวินดาและพี่ๆที่ทำงานด้วยกันก็ไปโหลดกระเป๋า เชคอินได้ตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย ยังพอมีเวลาเหลืออีกพอสมควร ด้วยความที่พวกเรายังไม่อยากเข้า Gate เลยพากันขึ้นไปหาที่นั่ง หาอะไรกินที่ชั้นบนของสนามบินดอนเมือง พี่ๆไปหาซื้ออะไรกินกัน วินดาเลยอาสานั่งเฝ้าของให้ก่อน
ตั้งใจยิ่งกว่าทำข้อสอบไปอี๊กกก😆
สักพักมีผู้หญิงคนนึงอายุประมาณสามสิบปลายๆเดินตรงมาที่วินดาพร้อมกระดาษในมือคล้ายเอกสารอะไรซักอย่างน่าจะมากกว่า 1 แผ่น เพราะมีแม๊กเย็บตรงมุมกระดาษด้วย
"ขอโทษนะคะ รบกวนเวลาสักครู่ตอบแบบสอบถามให้ 1 ฉบับ สะดวกไหมค่ะ?" พูดจบพร้อมส่งกระดาษแนบปากกามาให้ด้วยเลยค่าาาา ในใจวินดาคิดหยอกๆว่าอุปกรณ์พร้อมขนาดนี้ถ้าไม่สะดวก พี่เขาคงหน้าเหวอน่าดูนะคะ
วินดายิ้มและตอบไปว่า "สะดวกค่ะ เดี๋ยวทำเสร็จแล้วเดินไปส่งให้นะคะ" พี่เขานั่งโต๊ะถัดจากวินดาไปประมาณ 3-4 โต๊ะค่ะ วินดาเห็นของและกองเอกสารวางอยู่
วินดารับเอกสารมาแล้วพลิกเปิดดู OMG!!! คุณพระ!!! ที่เย็บด้วยแม๊กมานั้นประมาณ 4 แผ่น หน้า-หลังค่าาาาา ลมแทบจับ 555 นี่แบบสอบถามหรือข้อสอบเข้า Gate สนามบินค่ะเนี่ย ขอตอบแบบ Open Book ได้ไหมค่ะ😆
เรื่องราวก็คือพี่เขากำลังทำวิทยานิพนธ์(Thesis) ปริญญาโทค่ะ มาค่ะใจเขาใจเรานะคะ ถ้าเป็นเราต้องเดินมาและพูดแบบนี้กี่ครั้งต่อวัน??? คือหัวข้อที่พี่เขาทำต้องให้คนที่มาใช้บริการสนามบินเป็นคนทำ ณ ช่วงเวลานั้นค่ะและมีปัจจัยอีกหลายๆอย่างที่ต้องทำให้เขาต้องเก็บข้อมูลเองแบบนี้ ไม่เหมาะกับการส่ง e-mail หรือเอกสารอิเล็คทรอนิกส์ให้คนช่วยตอบค่ะ
พี่เขาต้องมาสนามบินเพื่อเก็บข้อมูลทุกวัน อย่างน้อยก็เป็นเดือนหละค่ะ ซึ่งเขาต้องใช้ความพยายาม อดทน มีวินัยเป็นพื้นฐานของงานนี้อย่างเคร่งครัดเลยนะคะ แล้วแบบนี้ไหนเลยวินดาจะทำแบบสอบถามแบบขอไปทีได้
วินดาตั้งใจอ่านและตอบอย่างรอบคอบ ตอบทุกข้อ บางข้อเป็นการสอบถามความคิดเห็น วินดาก็อธิบายทุกคำถามด้วยลายมือถึงจะไม่สวยแต่ก็ให้อ่านออกได้ง่ายค่ะ
เสร็จแล้ววินดาก็เดินไปส่งให้พี่เขาด้วยตัวเองพร้อมรอยยิ้มแห่งกำลังใจ พี่เขายิ้มตอบและขอบคุณวินดา ตอนนั้นวินดารับรู้ได้ถึงความรู้สึกขอบคุณและดีใจของพี่เขาที่ส่งมาจริงๆนะคะ วินดาเองก็รู้สึกดีกับตัวเองที่ได้ช่วยเหลือและเชื่อว่าทำในสิ่งที่ดีค่ะ หวังว่าพี่เขาจะได้ข้อมูลครบถ้วนจากวินดาและทุกคนที่ทำให้ ที่สำคัญโชคดีในการจบนะคะ😊
ยิ้มแรกผ่านไป ยิ้มต่อไปในห้องน้ำค่ะ (ไม่ได้หิวนะคะ) เมื่อเสร็จภารกิจออกมาล้างมือ วินดาเห็นคุณป้าแม่บ้านกำลังเช็ดอ่างล้างมือด้วยน้ำยาอย่างกระตือรือร้นและคล่องแคล้ว แว๊ปนั้นวินดาเปิดก๊อกน้ำและล้างมืออย่างระมัดระวังไม่ให้น้ำกระเด็นออกมานอกอ่างมากนักค่ะ คุณป้าแม่บ้านจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเยอะนะคะ อิอิ
คุณป้าแม่บ้านเห็นวินดาทำแบบนั้นก็หันมายิ้มหวานให้ยาวๆ 1 ที ความรู้สึกตอนนั้นมันประทับใจตัวเองจนบอกไม่ถูก หวังว่าคุณป้าจะเอ็นดูหนูนะคะ 555
ตอนเดินไปถึง Gate จนขึ้นเครื่องวินดาก็ยิ้มให้พนักงานและคนที่บริการเราไปทั่วค่ะ จนคนคงคิดว่าวินดาเป็นอะไรรึป่าว บ้า!!! 555 เอารถเข็นเล็กใส่ของพอถึงสุดทางที่เข็นได้วินดาก็จอดชิดกำแพงไม่ให้เกะกะทางเดิน เพื่อให้พนักงานง่ายต่อการเก็บเข้าที่ค่ะ
หลับปุ๋ยเพลินๆเลยค่าาา😴
เรียกได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่นอนน้อยแต่ขึ้นเครื่องไปทำงานอย่างมีพลังและสดใสค่ะ ขึ้นเครื่องได้พักนึงวินดาก็งีบหลับถึงที่หมายปลอดภัย
ขอบคุณผู้มีส่วนร่วมกับการเดินทางของวินดาในครั้งนี้ทุกคนนะคะ🥰
แล้วพบกันใหม่ค่ะ👋🏻
#windasharing
โฆษณา