24 พ.ค. 2020 เวลา 13:44
เรื่อง : ปากพาไป
เรื่องเล่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ฉันชื่อแก้ว เมื่อตอนเป็นเด็กฉันและเพื่อนๆมักชอบพูดคุยเรื่องผี เรื่องเล่าแปลก ๆ เสมอ ฉันชอบที่เพื่อนเล่าให้ฟัง แต่ไม่ถามว้าเคยเชื่อ คำตอบคือ "ไม่" ทำไมจะต้องเชื่อในสิ่งที่ไม่เคยเห็นด้วย ตลกสิ้นดี
จนกระทั่งฉันอายุได้ 10 ปี ฉันก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี ได้ยินได้ฟังมาเยอะแต่จะให้เชื่อได้อย่างไร ก็ไม่เคยเห็นนิ
จนวันหนึ่ง ใกล้ๆบ้านฉันมีงานศพ แม่กับพ่อจึงไม่อยู่บ้าน ทิ้งให้ฉันกับน้องอยู่ 2 คน ให้ตายเถอะ มันน่ากลัวเหมือนกันนะ
ไอ้เพลงที่บรรเลงนี่ มันชวนขนลุกอย่างไรพิกล สัก 20.00 น. พ่อกับแม่ถึงกลับบ้าน
แม่บอกให้รีบเข้านอน เพราะวันนี้เป็นวันพระใหญ่ด้วย แม่กำชับฉันกับน้องว่าให้นอนไว ๆ ถ้าได้เห็นได้ยินอะไรอย่าทักเด็ดขาด ไม่เข้าใจเหมืแนกันว่าทำไมแม่ถึงพูดอะไรตลกๆแบบนั้นออกมา
ประมาณตี 5 พ่อฉันก็ลุกออกไปซื้อของเพื่อมาขาย เนื่องจากเรามีร้านขายของ พ่อจึงต้องตื่นแต่เช้าทุกวัน
ขณะนั้นฉันกำลังนอนหลับสบายๆ อยู่บนที่นอนนุ่มๆ หูฉันก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นมา หูไม่ฝาดแน่ๆ ด้วยปากมันพาไปจึงออกปากทักไปว่า เสียงใครบ้ามาตีระฆังตอนนี้เนี่ย แล้วรีบสะกิดแม่ทันที แม่กับน้องนอนอยู่ใกล้ไปแต่สะกิดเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น
ฉันได้แต่ลืมตาแป๋วดูประตูห้อง เงาของกิ่งไม้ด้านนอกสะท้อนเข้ามาตรงกับประตูพอดี เนื่องจากหน้าต่างอยู่ตรงข้ามกับประตูจึงทำให้เงาของสิ่งที่อยู่ข้างนอกหน้าต่าง สะท้อนเข้ามาได้ ฉันนึกอารมณ์เสียในใจ พระที่ไหนพิเลนมาตีระฆังตอนตี 5 ว่าพลางก็รู้สึกหงุดหงิด แต่ก็พยายามข่มตาให้หลับ ทันใดนั้นเอง......
....ตาก็เหลือบไปเห็นเงาของอะไรบางอย่างตรงประตู มันเป็นลักษณะเงาดำๆ เคลื่อนไหวไปมา ฉันพยายามขยี้ตาอีกครั้ง คิดว่าตาฝาดไป พระเจ้าช่วย...ฉันไม่ได้ตาฝาด
เงานั้นค่อยๆ ยืดยาวขึ้นแล้วปรากฏแขนขายืดออกมา มันชั่งยาวและน่ากลัวอะไรขนาดนี้ ส่วนสูงที่ที่เห็นอยู่นิดเดียวก็เริ่มสูงขึ้นเรื่อยไป ๆ
ในที่สุดฉันก็ทนดูไม่ไหว กรีดร้องขึ้นมาสุดเสียง ทำให้แม่และน้องที่นอนขนาบกันอยู่ข้างๆ ถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมา
แวบแรกคิดว่าแม่กับน้องตื่นขึ้นมาเงาน่ากลัวนั่นคงจะหายไป แต่ปล่าวเลยมันยิ่งทวีความน่ากลัวขึ้นไปอีก
แม่รีบคว้าฉันกับน้องที่ร้องไห้จนตัวสั่นเทาเข้าไปกอดทันที ตอนนี้ฉันเชื่อแล้วว่า สิ่งลี้ลับนี้มีอยู่จริง ทั้งที่เคยเห็นเป็นเรื่องตลกมาก่อน
แม่กอดเราสองคนไว้แน่นและพูดกับเงานั้นว่า ไม่รู้ว่าท่านเป็นใครแต่อย่ามาหลอกหลอนลูกฉันเลย ลูกฉันกลัวไปหมดแล้ว ไปซะเดี๋ยวจะทำบุญอุทิศไปให้
เหมือนสิ่งน่ากลัวนั้นจะเข้าใจ ทันทีที่แม่พูดจบเงาดำนั้นก็ค่อยๆ ลดขนาดลงและจางหายไป แม่เฝ้ากอดฉันกับน้องจนรุ่งเช้า
รุ่งเช้าฉันอึ่งกับสิ่งที่แม่บอก เพราะปากของฉันจริงๆเชียวทำให้เกิดเรื่องขึ้น โบราณท่านว่าถ้าพระตีกลองวันพระ แปลว่าพระปล่อยผีออกมา เพื่อที่จะให้วิญญาณไปพบญาติพี่น้อง ระหว่างนี้ไม่ว่าใครเห็นอะไรแปลกๆอย่าไปทักเด็ดขาด ถ้าไม่ถูกวิญญาณหลอกหลอน ก็อาจเอาชีวิตเพื่อไปอยู่ด้วย
นับจากวันนั้นฉันจึงเลิกเห็นเป็นเรื่องตลกทันที แม่นำพระมาห้อยในห้องเพราะกลัวว่าจะเจอเรื่องน้ากลัวอีก ฉันคงเข็ดแล้วหละ นี่แหละหนาเขาถึงพูดว่า "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่"
โฆษณา