ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากพยายามอย่างหนักในการสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ผมก็ต้องพบเจอกับความผิดหวัง สุดท้ายสอบไม่ผ่านการทดสอบทางวิชาการในรอบแรก
จากนั้นผมทำอย่างไรต่อไป มาติดตามกันนะครับ
ตอนที่ 3 ความสำเร็จสู่เส้นทางโรงเรียนลูกผู้ชาย
ผมสอบตกภาควิชาการตอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ช้ำใจพอสมควรกับหนึ่งปีที่ทุ่มเทไป แต่ยังโชคดีเพราะอายุยังไม่เกินในการสอบปีหน้า ถือว่าครั้งนี้เป็นการลองสนามละกันนะครับ มีเวลาอีก 1 ปีให้เตรียมตัว ลุยกันเลย
เวลาอีกหนึ่งปีในการเตรียมสอบในครั้งที่ 2 อาจจะดูว่าเป็นเวลานาน แต่จริงๆแล้วไม่นานเลยนะครับ ดังที่เขาว่า สิ่งที่สั้นที่สุดในโลก คือ เวลา เพราะเวลามันสั้น ยังไม่ทันทำอะไรก็หมดเวลาเสียแล้ว ผมจึงไม่ประมาท เริ่มกลับมาทบทวนใหม่อีกครั้ง หลังจากรู้ผลสอบเลยครับ
การเตรียมตัวสอบครั้งนี้ การทบทวนทำข้อสอบเก่าๆ ดูง่ายกว่าเดิมเยอะมาก เพราะมันผ่านตามาแล้วหลายรอบ จนอ่านแค่ไม่กี่ประโยคในข้อสอบก็ทำให้รู้แนวทางหาคำตอบแล้ว
อีกทั้งบางบทเรียนที่ไม่เคยเรียนในโรงเรียนมัธยม ในปีนั้นได้เรียน เหมือนเป็นการทบทวนไปในตัวด้วยในห้องเรียน
การที่เรามีประสบการณ์ในการลงมือทำจริงๆแล้วหนึ่งครั้ง ทำให้เรารู้จุดอ่อนของตัวเอง ว่าต้องพัฒนาตัวเองด้านไหน วิชาอะไรที่เรายังอ่อนอยู่ เพิ่มเทคนิดการทำข้อสอบให้ทันเวลา มันคือความจริงครับที่ว่า การลงมือทำในครั้งเดียว ยิ่งกว่าเรียนในห้องเรียนหลายๆชั่วโมง
หนึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว สำหรับปีนี้ก็ไปค่ายติว 1 เดือนก่อนสอบเช่นเดิม แต่สิ่งที่ต่างไปจากเดิมนั้น คือ คะแนนทดสอบในแต่ละวิชาในค่ายติวนั้น ลำดับที่ของผมขยับขึ้นมาอยู่ในลำดับต้นๆของค่ายติว ซึ่งปีที่แล้วผมยังอยู่กลางๆอยู่เลย ช่วยเพิ่มความมั่นใจของผมขึ้นไปอีก
ในการสอบปีนี้แตกต่างจากทุกปี เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างการเรียนเป็น 3 ปี จึงมีการรับ 2 ชั้นปี พร้อมๆกัน คือ รุ่น 47 และ รุ่น 48 ทำคนอายุไม่เกินเลือกสอบได้ 8 ครั้ง รุ่นละ 4 เหล่า รุ่น 47 เข้าไปเรียน 2 ปี และรุ่น 48 เข้าไปเรียน 3 ปี
ผมเลือกได้เฉพาะรุ่น 47 เนื่องจากอายุเกินมาตรฐานรุ่น 48 ไปแล้ว ปีนี้ผมสอบ 3 เหล่า เช่นเดิม คือ เหล่าทหารบก เหล่าทหารอากาศ และเหล่าทหารเรือ
หลังสอบวิชาการเรียบร้อย ผลการสอบของโรงเรียนนายเรือประกาศก่อน ซึ่งมีรายชื่อผมในรายชื่อบุคคลที่สอบผ่าน ดีใจมากแต่ตอนนั้นเหล่าที่หวังจริงๆ คือเหล่าทหารบก และทหารอากาศ ต้องลุ้นกันต่อไป
สุดท้ายผลของเหล่าทหารอากาศกับทหารบกประกาศมาพร้อมกัน ผมติดเหล่าทหารบกเหล่าเดียว จึงเลือกเหล่าทหารบกเพื่อไปทำการสอบในรอบสอง เป็นการทดสอบร่างกาย และสอบสัมภาษณ์
พูดถึงการทดสอบร่างกาย ผมต้องเดินทางไปที่โรงเรียนนายร้อย จังหวัดนครนายก ก่อนวันทดสอบหนึ่งวัน พักที่บ้านของเพื่อนคุณพ่อ
ก่อนทำการทดสอบในวันถัดไป
การทดสอบร่างกายประกอบด้วย การวิ่ง 2 กม./50 เมตร ว่ายน้ำ 50 ม. วิ่งเก็บของ ดันพื้น ดึงข้อ และลุกนั่ง
ผมทำผ่านทั้งหมด และคิดว่าคะแนนเกือบเต็มทุกท่าด้วย เนื่องจากการเตรียมร่างกายมา 2 ปี บวกกับเป็นนักกีฬาฟุตบอล และซอฟท์บอลมาก่อน จึงค่อนข้างมั่นใจว่าผ่านแน่นอน
ต่อมาในการสอบสัมภาษณ์ กรรมการให้เข้าไปทีละคน ห้องแอร์เย็น เราถูกรายล้อมด้วยนายทหารใส่ชุดเต็มยศ แอร์ไม่เย็นก็คงจะหนาวอยู่แล้ว บวกความเย็นของแอร์เข้าไป ไม่ต้องพูดถึงครับ
แต่ด้วยรุ่นพี่ในค่ายติวได้ให้คำแนะนำ และบอกแนวคำถามว่าจะถามอะไร ผมก็ได้เตรียมตัวไปอย่างดีแล้ว อย่างเช่น เขาจะดูความมั่นใจในการตอบคำถามจากท่าทางของเรา ไหวพริบ การปฏิบัติตามคำสั่ง ถึงจะตื่นเต้นแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
เมื่อสอบสัมภาษณ์เสร็จ ก็ต้องมารอลุ้นกันอีกครั้งในการประกาศผลสอบรอบสุดท้าย
และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง ผลสอบครั้งนี้ลุ้นจริงๆครับ เพราะเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีสิทธแก้ตัวอีก
ผลของความพยายามของผม 2 ปีเต็ม ไม่ทำให้ผิดหวังครับครั้งนี้ สิ่งที่มุ่งมั่นทำมาสำเร็จจนได้ ผ่านการทดสอบทั้งหมด และมีคะแนนเป็นอันดับ 2 ของเหล่าทหารบก จึงทำให้เมื่อเข้าไปในโรงเรียนจะทำให้มีตำแหน่งหัวหน้าตอน 5 ชั้นปีที่ 2 ทันทีครับ
เริ่มเก็บของ ซื้อของเตรียมตัวเข้าโรงเรียน เตรียมร่างกายเพื่อสามารถรับกับระบบรับน้องใหม่ของโรงเรียน บททดสอบแรกของชีวิตนักเรียนทหารกำลังจะเริ่มต้น
ชีวิตในรั้วโรงเรียนลูกผู้ชายของผมจะเป็นอย่างไรนั้น
โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
