25 พ.ค. 2020 เวลา 02:58 • การศึกษา
CHAPTER 26 : BCG Matrix
- ในหนึ่งองค์กรอาจจะมีหลายธุรกิจ หลายแบรนด์ หรือมีหลายสินค้าในมือ การวิเคราะห์ว่าสินค้าหรือแบรนด์ที่อยู่ในมือตัวไหนจะไปรอดหรือไม่รอด มีอีกหนึ่งเครื่องมือในการเข้ามาช่วยนั่นก็คือ BCG Matrix
ภาพจาก : google.com
- BCG Matrix ย่อมาจาก Boston Consulting Group ซึ่งเป็นชื่อของบริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดและธุรกิจแห่งหนึ่ง และยังเป็นผู้คิดโมเดลนี้ขึ้นมาด้วย
ภาพจาก : https://expand360.com/portfolio-item/boston-consulting-group/
BCG Matrix คือการนำ “อัตราการเจริญเติบโตของตลาด” หรือ “Market Growth” และ “ส่วนแบ่งตลาด” หรือที่เรียกกันว่า “Market Share”
มาเป็นตัวแปรในการเปรียบและวิเคราะห์ เป็นแนวแกนตั้งและแกนนอน จะได้ออกมาเป็น BCG Matrix (ดังรูป)
ภาพจาก : http://www.smartinsights.com/
💥 จากรูปเราจะมาวิเคราะห์ทีละตัว ดังนี้
⭐️ Star (รูปดาวสีเหลือง) คือ ธุรกิจที่เป็นเหมือนดาวรุ่ง คือมีอัตราการเจริญเติบโตสูง และมีส่วนแบ่งการตลาดมาก ยกตัวอย่างเช่น สินค้าที่ขายดีมาก และหมดเร็วมาก ๆ ถูกพูดถึงอย่างมาก สิ่งที่ควรทำกับธุรกิจประเภทนี้ คือ ลงทุนเพื่อรักษาระดับความเป็นดาวรุ่ง และให้ระวังการแข่งขัน เพราะเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง ก็จะเกิดการแข่งขันที่สูง มีบริษัทรายอื่นเข้ามาทำธุรกิจที่คล้าย ๆ กัน
🐄 Cash Cow (วัวสีฟ้า) คือ ธุรกิจที่มีอันตราการเจริญเติบโตต่ำ แต่มีส่วนแบ่งการตลาดที่สูง ถือได้ว่าเป็น “ธุรกิจหลัก” ขององค์กร ที่มีเสถียรภาพ สิ่งที่ควรทำกับธุรกิจในโซนนี้คือใช้เงินลงทุนให้น้อย ๆ เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ได้เติบโตมากขึ้นอยู่แล้ว รักษาเสถียรภาพของธุรกิจเอาไว้ และนำกำไรที่ได้ไปลงทุนกับธุรกิจที่มีการเติบโตสูงอย่าง Star หรือ Question Mark ที่จะพูดต่อไป
ภาพจาก: https://www.nairienroo.com/bcg-matrix/
❓ Question Mark (รูปเครื่องหมาย ? สีแดง) คือ ธุรกิจที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะยังมีส่วนแบ่งการตลาดที่น้อย เมื่อมีการเจริญเติบโตที่สูง แต่ส่วนแบ่งการตลาดต่ำ จึงทำให้เกิดความน่าสงสัย ธุรกิจนี้จึงอยู่ในกลุ่ม Question Mark ส่วนใหญ่มักจะเป็นธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยี นอกจากจะเป็นสิ่งใหม่ที่เข้ามาแล้ว ธุรกิจในโซนนี้อาจะเกิดจากปัญหาภายในองค์กรในเรื่องของการบริหารจัดการต่าง ๆ
- Question Mark เป็นจุดที่สนใจเลยทีเดียว ว่าจะทำให้ธุรกิจนั้นขึ้นไปเป็น Star หรือ ตกลงไปเป็น Dog จึงต้องมีการวางแผนการลงทุน บนพื้นฐานของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
🐶 Dog (รูปสุขนัขสีเขียว) เป็นกลุ่มที่สิ้นหวังที่สุด เพราะอัตราการเจริญเติบโตต่ำ และส่วนแบ่งการตลาดต่ำ ซึ่งก็คือรายได้ต่ำ กำไรต่ำ หรือขาดทุน อาจจะเนื่องมาจากสินค้าได้ล้าสมัย ตกยุค ไปแล้ว หรือเกิดจากการบริหารที่ผิดพลาด กลยุทธ์ที่ควรใช้กับกลุ่มนี้คือ ขายทิ้ง เลิกทำ เพราะทำไปก็ขาดทุนเปล่า ๆ หรือถ้ายังมีความหวังอยู่บ้างก็ให้หาทางปรับปรุงธุรกิจ แต่ใช้เงินให้น้อยที่สุด
*** ประโยชน์ของ BCG Matrix คือทำให้เราสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาดของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี และจะนำไปความแข็งแกร่งขององค์กรต่อไป
นอกเหนือจากการวิเคราะห์ธุรกิจแล้ว ลองใช้ BCG Matrix กับเรื่องอื่นๆ ก็ได้นะครับ อย่างเช่น การประเมินช่องทางจัดจำหน่ายต่างๆ หรือการประเมินพนักงาน บุคลากร
สุดท้ายแล้วถ้าเราเข้าใจว่าอะไรอยู่กลุ่มไหน ก็จะนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องและถูกใจ ได้ครับ ***

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา