** เชลซี 2000 **
เกือบลืมไปแล้วว่า จอร์จ เวอาห์ ก็เคยมาฝากความทรงจำใน พรีเมียร์ลีก กับเขาด้วยเหมือนกัน
1999/2000 เอซี มิลาน อยู่ในการทำทีมของ อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ ซึ่งมีคู่พิฆาต อันเดร เชฟเชนโก้ - โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟ เป็นสองกองหน้าขาประจำ คนนึงสปีด 9 คนนึงก็โหม่ง 9
เวอาห์ ได้ลงเล่นอยู่พอสมควรเหมือนกันในครึ่งซีซั่นแรกนั้น ลงสนาม 14 นัดซัด 5 ประตู เพียงแต่ส่วนใหญ่ก็ต้องนั่งรอโอกาสที่ม้านั่งสำรอง... ตามขวบวัย 32 และการมีคลื่นลูกใหม่ที่แรงกว่าอย่าง เชว่า-เบียร์โฮฟฟ์
ก็มาถึงจุดที่ทุกฝ่ายตัดสินใจร่วมกัน - "ความท้าทายใหม่" คือทางออก
"ที่จริง ผมอยากอยู่อิตาลีต่อ แต่เวลานั้น มิลานทำลายชีวิตผม ผมคิดจะไปโรม่า แต่ อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ บอกว่าเขาไม่ต้องการให้ผมไปเสริมความแข็งแกร่งของทีมคู่แข่ง"
ทางเลือกแรกๆ ของ เวอาห์ มีอยู่ 2 ทาง
1) กลับฝรั่งเศส ซบ โอลิมปิก มาร์กเซย ที่จะเป็นต้นสังกัดที่ 3 ของเขาที่นั่น
"มันแทบจะ 100% ว่าผมจะย้ายไปมาร์กเซย ผมจะไปที่นั่นเพราะผมอยากสิ้นสุดเส้นทางอาชีพในฝรั่งเศส"
หรือ 2) ไป อาร์เซน่อล เพื่อร่วมงานกับ เวนเกอร์ อีกสักครั้ง
"ผมได้รับคำบอกว่า อาร์เซน่อล อยากเซ็นสัญญากับผม และผมก็รักที่จะได้เล่นให้ อาร์แซน เวนเกอร์ อยู่แล้ว"
แต่ปรากฏว่า ทางเลือกที่ 3 อย่าง เชลซี กลายเป็นคำตอบสุดท้าย
"วันนั้น มันเป็นช่วงสายๆ และผมยังนอนคุดคู้อยู่บนเตียง" เวอาห์รำลึก "มาร์กแซล เดอไซยี่ โทรศัพท์มาหาผม เขาบอกว่ามันจะยอดเยี่ยมมากถ้าผมเซ็นสัญญากับ เชลซี"
"เขาว่า ผมจะชอบลอนดอนแน่ๆ"
"ก่อนนั้น ผมได้รับคำบอกว่า อาร์เซน่อล อยากเซ็นสัญญากับผม และผมก็รักที่จะได้เล่นให้ อาร์แซน เวนเกอร์ อยู่แล้ว แต่ เชลซี เดินหน้าเข้าหาผมอย่างจริงจัง และต้องการเซ็นสัญญากับผมมากที่สุด"
หนึ่งคือจากคำชักชวนของเพื่อนเก่าเคยร่วมค้าแข้งที่มิลานด้วยกันมาอย่าง เดอไซยี่ (มิลาน 1993-1998) และสองคือ เชลซี อยู่ในช่วงซ่องสุมดาวดังจากลีกเลี่ยน (ก่อนหน้าที่จะมี โรมัน อบราโมวิช เข้าเทคโอเวอร์) เวลานั้น สแตมฟอร์ด บริดจ์ มีทั้ง เดอไซยี่, ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์, จานฟรังโก้ โซล่า, โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ รวมถึง จานลูก้า วิอัลลี่ ที่ขยับขึ้นคุมทีมแทน รุด กุลลิท ในปี 1998 เป็นต้นมา
บทสรุปจึงลงเอยที่ เชลซี เซ็น "ยืม" เวอาห์ มาจนจบซีซั่น 1999/2000
แน่นอนว่าในวัย 33 เวอาห์ จึงเลยจุดพีคของตัวเองมาแล้ว
แต่ทานโทษ ดีลนี้ไม่ถูกจัดว่า "ล้มเหลว" แต่อย่างใด
เจ้าของบัลลงดอร์ 1995 เข้ามาสวมเสื้อตราสิงห์หมายเลข 31 เป็นอีกหนึ่งกองหน้าตัวเลือกร่วมกับ โซล่า, คริส ซัตตัน และ ทอเร่ อันเดร โฟล
เพียงรุ่งขึ้นหลังจากเซ็นสัญญาเปิดตัว เวอาห์ ก็ถูกใส่ชื่อเป็นตัวสำรอง เกม "ลอนดอนดาร์บี้" เชลซี เปิดบ้านรับมือ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
เวอาห์ ถูกส่งลงในครึ่งหลัง นาที 56 แทนที่ ทอเร่ อันเดร โฟล และเมื่อเกมงวดลงจนเกือบจะผ่านด้วย 0-0 ก็เกิด "Dream Debut" ขึ้น
นาที 87 เดนนิส ไวส์ สาดบอลจากริมขวาเขตโทษ เวอาห์ โถมตัวขึ้นเหนือกองหลังสเปอร์ส 2 ราย และทิ่มหัวโขกลูกผ่านมือ เอียน วอล์คเกอร์ เข้าตุงตาข่าย
เชลซี ชนะอริร่วมเมืองหลวง 1-0 ด้วยประตูนี้ ซึ่งก็ทำให้ เวอาห์ ลงชื่อกลายเป็น "ขวัญใจแฟนบอล" ในทันทีที่ลงสนามเกมแรก
ให้หลังไม่นาน ประตูที่ 2-3-4 และ 5 ก็ตามมา (จากจำนวนเกม 15 นัด)
และทุกนัดที่ เวอาห์ ยิงได้ เชลซี ชนะทั้งหมด
1-0 สเปอร์ส
2-1 เลสเตอร์ (เอฟเอ คัพ)
3-1 วิมเบิลดัน
5-0 จิลลิ่งแฮม (เอฟเอ คัพ)
2-0 ลิเวอร์พูล
เวอาห์ (ที่เมื่อจบซีซั่น มีแชมป์เอฟเอ คัพ ติดมือ / ลงตัวจริงนัดชิง ชนะวิลล่า 1-0 ด้วย) แสดงให้เห็นว่าแม้จะ ส.ว. สูงวัยขนาดนั้น พรีเมียร์ลีก ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา ความเฉียบคม ครบเครื่องทั้งบนพื้นและกลางอากาศ วิญญาณเพชฌฆาต ยังอยู่ในตัวเขาอย่างเต็มเปี่ยม
กุสตาโว่ โปเยต์ : "เขามันท็อปคลาสตัวจริง เขาดีพอที่จะคอนโทรลทุกอย่าง คุณยัดบอลไปเถอะ บอลยาว, บอลสูง, ทุกอย่าง เขาเก็บได้หมด และคุณพึ่งพาเขาได้เต็มที่ บางครั้งคุณตกอยู่ในความกดดัน และต้องการใครบางคนที่จะทำสิ่งพิเศษ จอร์จ คือคนๆ นั้น"
จนแฟนเชลซีเป่าปากเสียดายไปตามๆ กัน เมื่อทีมรักของพวกเขาไม่เลือกที่จะเซ็นสัญญาถาวรกับ เวอาห์ เมื่อจบซีซั่น
เพียงแต่ก็พอเข้าใจได้ เพราะซัมเมอร์ 2000 ทีมตราสิงห์จัดแพ็คคู่ของดีราคารวม 19 ล้านปอนด์อย่าง จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ & ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น มานั่นเอง