26 พ.ค. 2020 เวลา 01:10 • สุขภาพ
New Normal ความปกติรูปแบบใหม่
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า new normal กันมาบ้างแล้ว ความหมายของคำนี้ หมายถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนในการใช้ชีวิตประจำวัน
วันนี้ผมจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ New Normal ความปกติรูปแบบใหม่ ที่เกิดขึ้นแล้วในเมืองมิลานหลังจากรัฐบาลอิตาลีประกาศเปิดประเทศมาแล้ว 2 สัปดาห์ ประชาชนชาวเมืองอิตาลีเริ่มกับมาทำงานตามปกติและทุกคนรู้จักการเว้นระยะห่างทางสังคมกันมากขึ้น
ผมเดินออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ อากาศในยามเช้าของเมืองมิลานค่อนข้างเย็นทำให้ต้องสวมเสื้อหนังเพิ่มความอบอุ่นพร้อมกับหน้ากากอนามัยและถุงมือพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งพอเดินออกมาได้สักพักผมได้ยินเสียงตอกเหล็กดังสนั่นไปทั่วอาคารที่พักอาศัย ช่างก่อสร้างเริ่มกับมาทำงาน คนทำสวนกับมาตัดต้นไม้ หลายอาชีพเริ่มกับมาทำงานได้ตามปกติ แต่ทุกคนก็สวมใสหน้ากากอนามัยป้องกัน
ปกติทุกเช้าก่อนโรคโควิดระบาดผมชอบมาดื่มกาแฟที่บาร์คุณลุงอิตาเลี่ยนบริเวณใกล้บ้าน วันนี้ผมเลยคิดว่าจะมาอุดหนุนคุณลุงเช่นเดิม ร้านของคุณลุงเป็นร้านเล็กๆมีบาร์กาแฟและกลิ่นกาแฟคั่วตีฟุ้งกระจายอยู่ภายในร้านเรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ประจำร้านเลยครับ
พอมาถึงบริเวณบาร์กาแฟคุณลุงมีแผ่นพลาสติกใส่กั้นเพื่อเป็นการเว้นระยะห่างตาข้อกำหนดของรัฐบาล ต่อจากนั้นผมก็สั่งกาแฟช็อตตามปกติและพูดคุยกับคุณลุงนิดหน่อย คุณลุงหันกับไปเตรียมกาแฟ กลิ่นหอมของกาแฟลอยเตะจมูกดึงดูดให้ผมหันไปสนใจ ผมเลยถ่ายรูปเก็บบรรยากาศนิดหน่อยและอัพลงไอจี พอคุณลุงนำมาเสิร์ฟผมก็รีบจัดการกับแก้วกาแฟที่อยู่ตรงหน้าโดยทันที และเมื่อไปจ่ายเงินก็ต้องตกใจกับราคาที่เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ จากราคาปกติกาแฟ 1 ช็อตประมาณ 1.5 ยูโร วันนี้มา 2.50 ยูโร ช็อคแปปครับ...
ร้านกาแฟคุณลุง
ผมได้ถามคุณลุงในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นหรอ ทำไมอยู่ๆราคากาแฟกระโดดขึ้นอย่างนี้ คุณลุงไม่ได้อธิบายอะไรมาก ทำหน้าอมยิ้มแล้วบอกว่า
"ลองออกไปดูข้างนอกเลย ของทุกอย่างในมิลานราคาขึ้นหมด"
หลังจากได้ยินผมก็ต้องตกใจและคิดหนักเพราะถ้าราคากาแฟยังขึ้นสินค้าอย่างอื่นคงจะไม่เหลือ
จากนั้นผมได้เดินเล่นไปรอบๆเห็นร้านขายเบอร์เกอรี่ทีปิดมานานกลับมาเปิดอีกครั้ง ร้านตั้งโต๊ะไว้ด้านหน้าพร้อมกับมีเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรคไว้สำหรับลูกค้าใช้ล้างมือ พร้อมกับมีป้ายติดเต็มหน้ากระจกว่า “ใครไม่ใส่หน้ากากห้ามเข้า”
ภายในร้านมีการจัดโต๊ะแบบเว้นระยะห่างแต่ละโต๊ะมีเก้าอี้แค่สองตัวตั้งไว้กันคนละฝั่งมีลูกค้ากำลังใช้บริการภายในอยู่ประปราย ส่วนร้านอาหารยังไปไม่เปิดให้บริการอาจจะเป็นเพราะคำสั่งจากทางรัฐบาลที่อนุญาตให้เปิดในเดือนถัดไป
ตามท้องถนนจะเห็นรถยนต์สัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติ วัยรุ่นออกมาวิ่งตามสวนสาธารณะ ร้านตัดผมเปิดให้บริการแต่จากที่เห็น ช่างตัดผมก็ทำหน้าที่ตัดไปในขณะที่ลูกค้าต้องคอยจับประคองหน้ากากอนามัยตัวเองเป็นภาพที่ค่อนข้างทุลักทุเลน่าดูเลยครับ
ถัดออกมาผมเห็นผู้คนกำลังต่อแถวยาวมากๆกำลังเลือกซื้อไอศครีม ทุกคนต่างเข้าแถวแบบเว้นระยะห่าง และใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน
จากนั้นผมมุ่งหน้าเดินทางไปยังมหาวิหารของเมืองมิลาน โดยรถไฟใต้ดินภายในรถไฟใต้ดินทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยและนั่งห่างกันไม่มีคนยื่นโหนราวรถไฟ บนพื้นรถไฟมีสัญญาลักษณ์แสดงชัดเจนห้ามทุกคนยื่นชิดกันระบุตำแหน่งทางเข้า-ออกอย่างชัดเจน
ผู้โดยสารภายในรถไฟใต้ดิน
ที่นั่งภายในรถไฟใต้ดินเว้นระยะห่างกัน
infographic ประกอบการใช้รถไฟใต้ดิน
ภาพวิถีชีวิตของคนมิลานในยามเช้าทุกคนจะเร่งรีบไปทำงานผู้คนจำนวนมากยืนเบียดเสียดกันแน่นในทุกขบวนรถไฟฟ้าใต้ดินวันนี้กับบางตาและแตกแต่ออกไปอย่างสิ้นเชิง รวมถึงทุกคนต่างมีสายตาหวาดระแวงกันและกัน ระแวดระวังกลัวคนอื่นจะเข้ามาใกล้
เมื่อผมเดินทางมาถึงมหาวิหารเมืองมิลาน บรรยากาศเริ่มกับมาครึกครักเหมือนเดิม บริเวณลานกว้างด้านหน้ามหาวิหารมีคนจำนวนมากกับมาทำกิจกรรมตามปกติ หลายคนกำลังยืนถ่ายรูปอยู่ด้านนหน้ามหาวิหาร ร้านขายขนมด้านข้างมหาวิหารกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแบบ take away บาร์ร้านกาแฟรอบๆลานกว้างหน้ามหาวิหาร ตั้งโต๊ะไว้ข้างนอกร้านและตั้งห่างกันอย่างน้อยมีระยะ 1 เมตร
ภาพด้านหน้ามหาวิหารดูโอโมเมืองมิลาน
เมื่อเดินเข้าไปภายในมหาวิหารเจ้าหน้าที่ทหารแนะนำข้อมูลและวิธีปฎิบัติตนเมื่อต้องต้องการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา มีการเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่งอย่างชัดเจน ทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และบริเวณประตูทางเข้ามีจุดบริการเจลฆ่าเชื้อโรค
ภาพบรรยากาศภายในมหาวิหารดูโอโม
เมื่อผมเดินออกมาจากมหาวิหารและมองออกไปยังโรงแรมที่อยู่รอบๆมหาวิหารยังคงปิดสนิทคาดการณ์ว่าจะกับมาเปิดให้บริการเร็วๆนี้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ผมเดินออกมาด้านข้างมหาวิหารพบกับโรงละครแห่งชาติที่ยังคงปิดสนิทเช่นเดิม
โรงละครแห่งชาติ teatro alla scala
ร้านหนังสือบางร้านเปิดให้บริการแต่มีมาตรการป้องกันค่อนข้างรัดกุมมีเจลฆ่าเชื้อโรคและถุงมือพลาสติกแบบใสแจกให้ลูกค้าทุกคนสวมใส่ก่อนเลือกดูหนังสือเพื่อป้องกันเชื้อโรคจากการสัมผัสกับหนังสือโดยตรง
โต๊ะหน้าร้านหนังสือ La Feltrinelli
สำหรับผมค่อนข้างตกใจเนื่องจากตามข้อมูลที่เคยศึกษามา การที่เราจะติดเชื้อโรคจะต้องเกิดจากการสัมผัสกันจากสารคัดหลั่งผ่านตาหรือจมูก แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นการป้องกันเบื้องต้นไว้ก่อนเพราะถือเป็นสิ่งที่ดีเนื่องจากเราเองก็ไม่รู้ว่าหนังสือเล่มนี้เคยถูกสัมผัสโดยผู้ติดเชื้อหรือไม่ แต่ก็ไม่คิดว่าพวกเราจะมาถึงจุดที่การใช้ชีวิตจะยุ่งยากขนาดนี้ พอผมหยิบหนังสือขึ้นมาแล้วพยายามจะเปิดดูหน้าข้างในค่อนข้างลำบาก
กลายเป็นว่าชีวิตต่อจากนี้จะยุ่งยากขึ้นแต่เราอาจจะปลอดภัยจากเชื้อโรค การออกนอกบ้านกลายเป็นสิ่งอันตรายต้องระแวงระวังตัวเองตลอดเวลา
ภายในร้านหนังสือ La Feltrinelli
หลังออกจากร้านหลังสือ ผมเดินทางต่อไปยังห้างสรรพสินค้าบริเวณใกล้เคียง เห็นผู้คนจำนวนมากกำลังต่อคิวเข้าห้างสรรพสินค้าที่ rinascente ผู้คนต่อแถวเป็นทางยาวร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมเริ่มเปิดให้บริการอีกครั้ง พนักงานร้านน้ำหอมที่ปกติจะยืนฉีดน้ำหอมฟุ้งเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อวันนี้กลับยืนห่างออกไป พร้อมกับฉีดเจลแอลกอฮอล์กับมาให้ลูกค้าแทน
แถวเข้าห้างสรรพสินค้า rinascente
หลังจากเลือกซื้อสินค้าเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินทางต่อไปยังสถานที่ใกล้เคียงเพื่อซื้อของจิปาถะทั่วไป แต่แล้วก็ต้องตกใจกับราคาสินค้าตามร้านค้าต่างๆ พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย เช่นวันนี้ผมตั้งใจมาซื้อผ้าปูที่นอน แต่พบว่าราคากับพุ่งสูงขึ้น จากปกติที่เคยซื้อ 220 ยูโร มาวันนี้ราคาเปลี่ยนเป็น 300 ยูโร ยังไม่รวมกับราคาสินค้าของใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีที่สูงขึ้นมากอีกเท่าตัว สุดท้ายผมก็ตัดสินใจที่จะไม่ซื้อผ้าปูที่นอนอันใหม่ใช้อันเก่าต่อไป
จากนั้นผมก็ไปซื้อของกินต่อที่ซุปเปร์มาร์เก็ต มีคุณลุงคุณป้าคู่หนึ่งเดินทางมาด้วยกันพอมาถึงหน้าซุปเปอร์มาร์เก็ตคุณลุงรปภ.ออกมาประกาศว่า
“สามารถเข้ามาซื้อของได้เพียงแค่ 1 หนึ่งคน”
ได้ยินคุณป้าคุยกับคุณลุงรปภว่า
“พวกเรามาด้วยกันขอเข้าไปซื้อด้วยกันได้ไหม”
แต่ลุงรปภกับบอกว่า
“ไม่ได้เนื่องจากมีกฎหมายออกมาถ้ามาแบบครอบครัวสามารถซื้อของได้เพียง 1 คนเท่านั้น”
คุณป้าจึงเดินเข้าไปซื้อของข้างในเพียงคนเดียวให้คุณลุงรออยู่ด้านหน้า
ถ้าหากมองเพียงผิวเผินมาตรการดังกล่าวค่อนข้างหน้าสนใจแต่ถ้ามองลึกลงไปผมรู้สึกแปลกใจและมีข้อสงสัยอยู่หลายอย่าง เช่น คุณลุงคุณป้าอยู่บ้านเดียวกัน นอนด้วยกันกินข้าวด้วยกันแต่หน้าแปลกที่พอออกมาซุปเปอร์ต้องแยกห่างกัน เพราะถ้าใกล้ชิดกันเดี๋ยวจะติดเขื้องั้นหมายความว่า
“ถ้าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันเข้าไปซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตเชื้อโรคจะเริ่มทำงานทันทีแต่ถ้าอยู่บ้านแล้วใกล้ชิดกันเชื้อโรคจะไม่ทำงานแบบนี้หรอ”
ตรรกข้อนี้ทำให้ผมค่อนข้างไม่เข้าใจและยังหาคำอธิบายไม่ได้เนื่องจากเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายที่บังคับใช้จากรัฐบาลอิตาลี
การเปิดประเทศในครั้งนี้ผมสังเกตเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าทุกคนกำลังปรับตัวสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคมปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตเพื่อให้รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้
โฆษณา