Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Chekie
•
ติดตาม
27 พ.ค. 2020 เวลา 01:00 • บันเทิง
Madonna : ''โปรดพาฉันไปในที่ที่เป็นใจกลางของทุกสิ่ง''
ถ้าพูดถึงผู้หญิงที่ชื่อว่า ''มาดอนน่า'' ในวันนี้ ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงจะรู้จักชื่อของเธอดี และครั้งหนึ่งเธอก็เคยได้รับการขนานนามว่า ''ราชินีเพลงป็อป''
แต่กว่าที่เธอจะก้าวมายืนที่จุดนี้ต้องผ่านอะไรมามากมาย วันนี้ผมขอหยิบเรื่องราวของ ''มาดอนน่า'' มาเล่าสู่กันฟัง
ย้อนไปในช่วงยุค 70s สมัยที่ ''มาดอนน่า'' ยังเป็นวัยรุ่นเธอเป็นเพียงเด็กสาวที่มีความทะเยอทะยานจะเป็นนักร้องให้ได้
ผมขอเล่ากลับไปอีกในช่วงปี 1964 ตอนนั้นคุณแม่ของเธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งเธอมีอายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น ผ่านไปไม่นานพ่อของเธอได้เเต่งงานใหม่ และกับภรรยาใหม่เขามีลูกสองคน บวกพี่น้องเดิมอีก 6 คน เวลานั้นครอบครัวพี่น้องของมาดอนน่าจึงมีถึง 8 คน
ครอบครัวของมาดอนน่าเป็นครอบครัวฐานะปานกลางแต่ด้วยจำนวนสมาชิกครอบครัวที่เยอะ ทำให้รายได้ที่มาจุนเจือครอบครัวมีไม่พอใช้ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตที่มาดอนน่าเติบโตมาไม่ค่อยดีนัก
กลับมาที่ปี 1977 เมื่อเธออายุได้ 19 ปี เธอได้ตัดสินใจออกจากบ้าน เพื่อไปตามล่าฝันที่กรุงนิวยอร์ก มหานครที่มีทุกสิ่งในโลก ด้วยเงินติดตัวเพียง 35 เหรียญกับเสื้อผ้ากระเป๋าหนึ่งเท่านั้น
เมื่อเธอมานิวยอร์ก เธอได้เรียกแท็กซี่คันหนึ่ง คนขับแท็กซี่ถามเธอว่า
''จะให้ผมพาไปส่งที่ไหนครับ''
ด้วยความที่เธอเพิ่งมาถึง ไม่รู้ว่านิวยอร์กมีที่ไหนให้ไปบ้าง เธอจึงตอบคนขับแท็กซี่กลับไปว่า
''โปรดพาฉันไปในที่ที่เป็นใจกลางของทุกสิ่ง''
ในตอนแรกของมาดอนน่าที่นี่เธอต้องต่อสู้ชีวิตมากๆ เธอหางานที่ร้านอาหารหลายร้าน จนเธอได้งานที่ร้านดันกิ้นโดนัท และได้เช่าอพาร์ทเม้นต์รูหนูราคาถูกไว้อาศัยนอน
แต่อพาร์ทเม้นต์หลังนี้ทั้งสกปรกและมีขโมยชุม วันหนึ่งได้มีโจรงัดเข้ามาในห้องของเธอ ชิงทรัพย์สินของเธอ และที่เลวร้ายกว่านั้นคือโจรได้ใช้กำลังบังคับ ขู่เข็ญ และข่มขืนเธอในที่สุด
ชีวิตในตอนนั้นของเธอเลวร้ายมาก จะถอยหลังกลับไปบ้านในสภาพแบบนี้ก็ไม่ได้ และเคยคิดจะปลิดชีวิตตัวเองด้วยเหมือนกัน
''มันเป็นเรื่องดีที่เราสามารถกำหนดชีวิตตัวเองได้ ไม่ต้องใช้ชีวิตเพื่อทำตามความคาดหวังของใคร และฉันอยากให้ทุกคนรับรู้ว่า ไม่มีใครหน้าไหนทำให้เราอ่อนแอลงได้ ถ้าหัวใจเราไม่ยอมรับมัน''
เธอกัดฟันสู้ชีวิตและทำทุกอย่างเพื่อความฝันที่จะได้เป็นนักร้องดัง นักแสดงที่มีชื่อเสียง และได้ทำทุกอย่างที่ต้องการ
แต่ความเป็นจริงในเวลานั้นเธอถูกให้ออกจากงาน ต้องยอมเปลือยกายเป็นแบบนู๊ดให้กับห้องเรียนศิลปะ เพื่อเเลกกับเงินไปจ่ายค่าที่พัก
เธอทำงานเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งก็เอาเงินไปเรียนออกแบบท่าเต้น และหางานร้องเพลงตามงานต่างๆ
จนเวลาผ่านไปสองปี ในปี 1979 ความฝันของเธอก็เริ่มเข้าใกล้ยิ่งขึ้น เมื่อเธอได้รู้จัก 'แดน กัลรอย' คนรักคนแรกของเธอ ทั้งสองร่วมกันตั้งดนตรีวง 'The Breakfast Club' ขึ้น ช่วงแรกมาดอนน่าเริ่มต้นด้วยฐานะมือกลอง แต่ด้วยพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงของเธอ ไม่นานเธอก็ได้เปลี่ยนมาเป็นนักร้องนำ แม้ไม่นานด้วยปัญหาต่างๆ วงนี้ก็ต้องแยกทางกัน
แต่มาดอนน่าก็ยังคงตระเวนร้องตามงานต่างๆอยู่ และเธอได้ส่งเทปตัวอย่างเสียงให้กับค่ายเพลง Sire Record ในเครือ Warner Music และไม่นานทางค่ายก็ได้เซ็นสัญญากับเธอ
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จเลยครับ และในปี 1982 ซิงเกิ้ลแรกในฐานะน้องร้องเดี่ยวของมาดอนน่าก็ถูกปล่อยออกมาในชื่อว่า
''Everybody''
และเพลงก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่งให้เธอเป็นนักร้องสาวดาวรุ่งที่มีรายได้มหาศาล และทำให้เธอกลายเป็นนักร้องดังและเป็นดาวค้างฟ้าจนถึงทุกวันนี้ ที่ผ่านมามันคงเป็นความพยายาม อดทน และไม่ยอมแพ้ของเธอ ทำให้เธอก้าวมาอยู่ในจุดนี้และเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกได้
ผมไม่รู้ว่าวันนั้นคนขับแท็กซี่คนนั้นขับรถพาเธอไปส่งที่ไหน แต่ถ้ามองจากตรงนี้
''มันคงเป็นที่ที่เป็นใจกลางของทุกสิ่ง'' แบบที่เด็กสาวคนนั้นต้องการก็ได้นะ
เพราะเด็กสาวคนนั้น ได้กลายมาเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงที่ดีที่สุดยาวนานกว่าหลายทศวรรษเลยทีเดียว
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย