27 พ.ค. 2020 เวลา 06:12 • กีฬา
ผมลงบทความนี้ทางเฟสบุ๊คเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมาครับ
Serie A mania
โดย นพนันท์
นาโปลีในอุ้งมือกัตตูโซ่
ผมไม่รู้นะว่าสถานการณ์ตอนเปิดตลาดซื้อขายนักเตะช่วงหน้าร้อนปีนี้จะเป็นอย่างไร แต่หลังจากอ่านข่าวนาโปลีที่เตรียมปล่อยผู้เล่นชั้นดีออกไปแลกรายได้สูงถึง 200 ล้านยูโรเพื่อเปิดโอกาสให้เจนนาโร่ กัตตูโซ่ได้ทำทีมที่ตัวเองต้องการบอกตามตรงเลยว่า....หนาวแทน
 
ช่วงหน้าหนาวหมดไปตั้งแต่ปลายมีนาคมต่อเมษายนแล้ว แต่พอได้ยินได้ฟังที่เอาเลริโอ เด เลาเรนตีสประธามมหาเศรษฐีผู้สร้างภาพยนตร์ชาวปาร์เตโนเปออกมาชี้แจงอย่างนี้ ผมหนาวสะท้านไปทั้งตัว ผมเองชื่นชอบนาโปลีมาตั้งแต่สมัยคอร์ราโด้ แฟร์ราอิโน่นั่งเก้าอี้ประธานสโมสรแห่งนี้ ไม่ว่านิสัยส่วนตัวของเขาจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจในตัวอดีตประธานของทีมอัซซูร่าผู้นี้นั่นก็คือเขารู้ว่าจะทำเช่นไรที่จะให้ทีมของเขาสามารถสู้กับคู่แข่งระดับสุดยอดได้อย่างคู่คี่สูสีลุ้นกันสนุก แฟร์ลาอิโน่มีส่วนสำคัญกับการไปดึงเอาดิเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่ามาอยู่นาโปลีด้วยค่าตัวที่ทำลายสถิติโลก 12 ล้านยูโรเมื่อสามสิบหกปีก่อน เช่นเดียวกับผู้เล่นชั้นดีทั้งตัวเก๋าและดาวรุ่งอีกเพียบไม่ว่าจะเป็นแฟร์นานโด้ ดิ นาโปลี ซัลวาตอเร่ บานญี่ อันเดรีย การ์เนวาเล่ตลอดจนชิโร่ แฟร์ราร่าที่ทะยอยเข้ามาช่วยทีมประสบความสำเร็จจนสามารถคว้าสคูเด็ตโต้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรเมื่อปี 1987
ในยุคที่แฟร์ลาอิโน่นั่งเก้าอี้ประธานสโมสรอยู่สิบปี มีสิ่งที่เหลือเชื่อเกิดขึ้นก็คือทีมดังของถิ่นปาร์เตโน่สามารถคว้าแชมป์อิตาลีได้ถึงสองสมัย แชมป์ยูฟ่าคัพ แชมป์โคปป้าอิตาเลียและแชมป์ซูเปอร์โคปป้าอิตาลิอาน่าอย่างละสมัย
 
ว่ากันตามจริงก็คือเป็นยุคทองของนาโปลีโดยแท้ เพราะทีมประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ได้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ขอองสโมสรเลยทีเดียว หลังจากนั้นคงไม่ต้องไล่เรียงดูว่าทีมอัซซูร่าประสบความสำเร็จอะไรบ้าง แม้กระทั่งในยุคของเด เลาเรนตีสซึ่งว่ากันตามจริงมันน่าที่มีแชมป์รายการใหญ่ๆซักรายการ แต่ดีที่สุดก็แค่แชมป์โคปป้าอิตาเลีย 2 สมัย และซูเปอร์โคปป้าอิตาลิอาน่าอีกสมัยหนึ่งเท่านั้นเอง
 
แน่นอนยุคของเด เลาเรนตีสทำให้สามารถพลิกผันจากตัวเลขขาดทุนบานเบอะมาเป็นมีกำรี้กำไรได้บ้างในบางฤดูกาลก็จริง แต่แฟนบอลชาวปาร์เตโนเปต้องการมากไปกว่านั้นก็คือการสร้างทีมให้ยิ่งใหญ่เหมือนกับยุคทองที่ประธานแฟร์ลาอิโน่เคยทำเอาไว้ ผมเข้าใจนะว่าการสร้างทีมที่ประสบความสำเร็จต้องใช้เวลา และต้องมอบความไว้วางใจให้โค้ชซักคนที่มีความสามารถ
แต่การที่เด เลาเรนตีสบอกว่าจะขายผู้เล่นชั้นดีถึงสี่คนตั้งแต่เฟาซี่ กูลาม อาร์ดิอุสต์ มิลิค อัลลัน และคาลิดู คูลิบาลี่ออกไปเพื่อหาทุน 200ล้านยูโรเพื่อหาผู้เล่นดาวรุ่งฝีเท้าดีๆมาให้กัตตูโซ่สร้างทีมขึ้นมาใหม่ ฟังดูแล้วทะแม่งๆยังไงชอบกล ว่ากันตามจริงกัตตูโซ่เองก็ไม่ใช่กุนซือที่มีผลงานโดดเด่นแต่อย่างใด แถมคุมทีมไหนก็ไม่เคยอยู่ครบสัญญา ไม่ว่าจะเป็นปาแลร์โม่ เอเอฟไอครีต ปิซ่า เยาวชนมิลานจนถึงมิลานชุดใหญ่ จนล่าสุดต้องระเห็จมารั้งบังเหียนนาโปลีซึ่งหาใครเข้ามาทำหน้าที่ไม่ได้หลังจากสโมสรแยกทางกับคาร์โล อันเชล็อตติไปเมื่อหน้าร้อนปีที่แล้ว กุนซือจอมแท็คติกอย่างเมาริซิโอ ซาร์รี่ตลอดจนอันเชล็อตติยังเข็นทีมซึ่งมีแต่ผู้เล่นระดับอินเตอร์แทบทั้งทีมให้ไปถึงจุดหมายปลายทางยังไม่ไหว นับประสาอะไรกับกุนซือฝีไม้ลายมือธรรมดาๆอย่างกัตตูโซ่ที่เครดิตของเขาพอจะมีบ้างก็แค่ในฐานะนักเตะ แต่อาชีพคุมทีมยังต้องเรียนรู้และหาประสบการณ์อีกเยอะกลับเป็นที่ชื่นชอบเด เลาเรนตีสเสียเหลือเกิน
 
.....ไม่รู้เหมือนกันว่าหากโปรเจ็คนี้เกิดขึ้นจริงแต่กัตตูโซ่สะเปะสะปะจับต้นชนปลายไม่เจอเหมือนที่ผ่านมา อะไรจะเกิดขึ้นกับนาโปลีหลังจากนั้นบอกตามเลยว่าไม่อยากคิดจริงๆ.....
โฆษณา