27 พ.ค. 2020 เวลา 08:14 • สุขภาพ
3 เคล็ดลับสู่ความอ่อนเยาว์ กระชากวัย!
วิธีง่ายๆที่ควรทําเพื่อให้คุณดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องทําโบท็อกซ์หรือพึ่งมีดหมอ ขอเพียงรู้จักดูแลตัวเองและทําชีวิตให้สมดุลดังนี้ค่ะ
1. ดูแลร่างกายด้วยการกินอาหารที่เหมาะสม
ผักผัก
กินอาหารที่อุดมด้วยแอนตี้ออกซิแด้นท์จําพวกผักผลไม้ที่มีสีม่วงและสีแดง เช่น บลูเบอร์รี่ พริกแดงและพริกส้ม แอปเปิลสีแดง เพื่อต่อสู้กับพิษจากอนุมูลอิสระที่เป็นตัวเร่งให้เกิดริวรอยเหี่ยวย่น การอักเสบของร่างกายเป็นสาเหตุสําคัญอย่างหนึ่งที่ทําให้ดูแก่เร็ว สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากอาหารที่เรากิน และของใช้ประจําวัน อาหารที่มีน้ำตาลและไกลเซมิกคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ขนมปังขาวและขนมเค้ก ล้วนเป็นตัวการสําคัญ เพราะจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลอย่างรวดเร็ว ทําให้เซลล์ในร่างกายเกิดการอักเสบ ภูมิต้านทานโรคต่ำ ผิวเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลหรือทําจากแป้งขาว หันไปกินอาหารที่มอบความชุ่มชื่นให้ร่างกายและป้องกันรอยเหี่ยวย่นอย่างผลไม้สด ข้าวโอ๊ต กินโปรตีนมากๆ เพื่อซ่อมแซมเซลล์ ส่วนปลาจัดเป็นหนึ่งในอาวุธชั้นยอดที่ช่วยต่อต้านริ้วรอย เนื่องจากปลาอุดมด้วยวิตามิน เกลือแร่ นอกจากนี้ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้เซลล์ผิวเกิดความยืดหยุ่น
1
2. ออกกำลังกายและเคลื่อนไหวร่างกาย
ออกกำลังกายออกกำลังกาย
ความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อเริ่มเสื่อมลงเมื่ออายุ 30 ปี เป็นต้นไป แต่การออกกําลังกายช่วยได้! ยับยั้งความแก่ได้ คนเฉื่อยชามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าและแก่ก่อนวัยมากกว่าคนที่กระตือรือร้น การออกกําลังกายจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลังเอ็นดอร์ฟินที่ช่วยปกป้องความอ่อนเยาว์ และขจัดความเครียดออกไป แถมยังทําให้หลับสบาย ส่งผลให้ผิวพรรณสดใสตามมา
3. ทำจิตใจให้สุขุม เยือกเย็น
นั่งสมาธินั่งสมาธิ
เอ็นดอร์ฟินเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายสร้างขึ้นเวลาที่คุณมีความสุข ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคและซ่อมแซมเซลล์ต่างๆในร่างกาย จึงช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์และแข็งแรงขึ้น เมื่อรู้สึกเครียดหรือซึมเศร้า ร่างกายจะผลิตเอ็นดอร์ฟินออกมาน้อยมาก ดังนั้นการหาเวลาพักผ่อนและไม่เครียดมีส่วนสําคัญที่ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ หากพบว่าตัวเองไม่สามารถทําจิตใจให้เยือกเย็นได้ลองฝึกโยคะ ไทชิ หรือนั่งสมาธิ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยให้จิตใจรู้สึกผ่อนคลายเท่านั้น แต่มีงานวิจัยทีระบุว่า คนที่มีการรับรู้ทางจิตวิญญาณที่ดีจะมีอายุยืนและสุขภาพดีตามไปด้วยค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มาของข่าวด้วยนะครับ
โฆษณา