27 พ.ค. 2020 เวลา 23:30 • ธุรกิจ
Ronald G Wayne ชายผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิล (อีกคน) ที่โลกลืม!!!!
หากใครอยู่ในแวดวงธุรกิจ ก็คงจะทราบดีว่าหุ้นบริษัทแอปเปิ้ล (Apple Inc.)คือหนึ่งในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มี Market Cap. ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเคยมีมูลค่าประเมินเกินกว่า $1 Trillion หรือราวๆ 33,282,000,000,000 บาท (สามสิบสามล้านล้านบาท) เรียกได้ว่าถ้าใครเป็นนักลงทุนสาย VI ต่างต้องอยากครอบครองตอนที่หุ้นเพิ่งเข้าสู่ตลาด
หุ้นของบริษัทแอปเปิ้ล (Apple Inc.) เคยทำจุดสูงสุดและมีมูลค่าประเมินสูงถึงหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นบริษัทแรกในหน้าประวัติศาสตร์ อ้างอิงจาก https://www.marketwatch.com/investing/stock/aapl
ทุกคนทราบดีว่าผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ลตามข้อมูลอย่างเป็นทางการคือ Steve Jobs, Steve Wozniak และ Ronald G Wayne แต่เดี๋ยวก่อน Wayne คือใคร ทำไมเราจึงไม่ค่อยคุ้นชื่อเค้าทั้งๆที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่าตอนที่ Jobs เริ่มก่อตั้งบริษัทใหม่ๆในโรงรถของเขา เขาได้ดึงเอามันสมองของเพื่อนอย่าง Wozniak ที่มีความคิดสร้างสรรค์และฉลาดแบบเด็กสายเทค แต่ตัว Wozniak เองก็มีบุคลิกแปลกๆที่เน้นทำงานสนุก แต่ไม่มีความคิดเรื่องแผนธุรกิจเลย
ด้วยเหตุนี้ Jobs จึงต้องการคนที่มีประสบการณ์มาช่วย เขาจึงไปขอความเห็นจากวิศวกรที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกับเขาอย่าง Ronald G Wayne ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมากกว่า ด้วยบุคลิกที่ใจเย็น สุขุม และประสานงานเก่ง ทำให้ Jobs ติดต่อให้เขามาคุยกับ Wozniak เพื่อตกลงกันจดทะเบียนบริษัทในชื่อ Apple Computer Company เมื่อวันที่ 1 เมษายน 1976 ที่ Cupertino, California ซึ่งขณะนั้น Wayne ก็อายุปาเข้าไป 41 ปีแล้ว ในขณะที่ Jobs และ Wozniak เพิ่งอายุ 20 ต้นๆ
สามผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทในชื่อ Apple Computer Company ยุคแรกเรียงจากซ้ายไปขวา Ronald G Wayne, Steve Jobs และ Steve Wozniak เครดิตรูปภาพจาก https://www.somagnews.com/apples-3rd-founding-partner-ronald-wayne/
การตัดสินใจขายหุ้นแอปเปิ้ลของ Wayne !!!
เมื่อเริ่มก่อตั้งบริษัท สัดส่วนหุ้นของบริษัทแอปเปิ้ลที่ Jobs และ Wozniak ถือครองคือหุ้นคนละ 45% ส่วน Wayne ถือไว้ที่ 10% แต่แล้ว 12 วันให้หลังจากจดทะเบียน Wayne กลับเลือกที่จะขายหุ้นคืนทั้งหมด เพราะตอนนั้นบริษัทที่มีเพียงสามคนเพิ่งกู้เงินจำนวน 15,000 ดอลลาร์ เพื่อมาผลิตสินค้าชุดแรกอย่างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่น Apple-1
แต่ด้วยประสบการณ์ที่ไม่ดีต่อธุรกิจแนวนี้ของ Wayne ที่เพิ่งเจ๊งจากการลงทุนในธุรกิจสล็อตแมชชีน เมื่อห้าปีก่อนมาลงทุนในแอปเปิ้ล ทำให้เขามองว่าบริษัทที่เพิ่งตั้งนี้น่าจะไปไม่รอดในมุมมองของเขา และหากเกิดเจ๊งขึ้นมา เขาอาจจะต้องขายทรัพย์สินที่มีเพื่อชดใช้หนี้แทน Jobs และ Wozniak ที่ยังไม่ได้มีทรัพย์สินและภาระมาก การตัดสินใจขายหุ้นจึงคือทางเลือกสุดท้าย
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่น Apple-1 คือ ผลิตภัณฑ์แรกของแอปเปิ้ลที่ต้องกู้หนี้มาพัฒนาต้นแบบ และเป็นเหตุให้ Wayne ตัดสินใจทิ้งหุ้นบริษัทไปอย่างน่าเสียดาย เครดิตรูปภาพจาก https://www.cnbc.com/2019/05/28/wozniak-built-apple-1-computer-sold-for-almost-500000-at-christies.html
ซึ่งหลังจากนั้นอีก 1 ปี บริษัทได้จ่ายเงินเพิ่มให้ Wayne อีก 1,500 ดอลลาร์เพื่อแลกกับสิทธิ์ที่เขาจะไม่สามารถฟ้องร้องบริษัทได้อีกต่อไปในอนาคต ซึ่งหากนำมูลค่าหุ้น 10% ที่เขาขายในวันนั้น มาประเมินในปัจจุบันมันจะมีมูลค่าสูงถึง $100 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3,328,100,000,000 บาท ซึ่งมูลค่าพอๆกับทรัพย์สินของเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกในปัจจุบันอย่างเจฟฟ์ เบโซส (Jeffrey Preston Bezos) ที่มีทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ราว $105.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3.47 ล้านล้านบาท เรียกได้ว่าเขาขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีระดับโลกได้เลยทีเดียว ถ้าไม่ขายมันซะก่อน
1
แต่ใครจะรู้ว่าราคาหุ้นของบริษัทที่ก่อตั้งโดยเด็กหนุ่มอายุ 20 ต้นๆ แบบแอปเปิ้ลจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นแบบทุกวันนี้ มันเป็นเรื่องราวของโชคชะตา และวิสัยทัศน์ ไม่มีใครกำหนดได้ ในปัจจุบันเมื่อมีคนกลับไปถาม Wayne ว่ารู้สึกอย่างไรที่ขายหุ้นไปในตอนนั้น เขาก็ตอบเพียงว่า "ไม่ได้รู้สึกเสียดายเงินก้อนนี้เลย หากเขายังทำงานอยู่ที่แอปเปิ้ล เขาอาจต้องมานั่งทำงานเอกสารไปอีกนาน 20 ปี ซึ่งไม่ใช่ชีวิตที่เขาชอบ มันมีวิธีทำเงินอีกตั้งเยอะ และเขาอยากจะทำงานที่เขาชอบจริงๆ ไม่ใช่แบบนี้ " (อ้างอิงจากคำสัมภาษณ์ของสำนักข่าว BBC เมื่อปี ค.ศ. 2016 )
1
ผลงานของ Wayne กับบริษัทแอปเปิ้ลและเรื่องที่เขาเสียดายที่สุดในชีวิต!!!
ก่อนที่เขาจะออกจากบริษัท Wayne เองได้สร้างผลงานสุดคลาสิกให้กับแอปเปิ้ลอย่างการออกแบบโลโก้แรกของบริษัท (ที่หลายคนไม่รู้ว่ามีมาก่อน) ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นแบบที่เราคุ้นเคยในภายหลัง นอกจากนี้เขายังเป็นคนร่างเอกสารจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นของบริษัท พร้อมทั้งคู่มือในการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่น Apple-1 ให้กับ Jobs และ Wozniak ด้วย
คู่มือในการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่น Apple-1 ที่เขียนโดย Ronald G Wayne ก่อนที่จะออกจากบริษัทไป เครดิตภาพจาก ฺBBC
โลโก้ต้นฉบับดั่งเดิมของบริษัท Apple Inc. ที่ถูกออกแบบโดย Ronald G Wayne ที่เป็นรูปเซอร์ ไอแซค นิวตัน ที่สื่อถึงวิสัยทัศน์เปลี่ยนโลกของบริษัท ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นแบบที่เรคุ้นเคยกันในปัจจุบัน
แต่ถ้าถามว่าอะไรคือสิ่งที่เขาเสียดายมากที่สุดในชีวิต ตัว Wayne เองกลับตอบว่ามันคือเอกสารสำเนาจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทแอปเปิล ซึ่งมีลายเซ็นต์ของผู้ก่อตั้งเริ่มต้นทั้งสามคน ที่เขาขายมันไปในปี ค.ศ. 2011 ในราคาเพียง 500 เหรียญ ก่อนที่จะรู้ในภายหลังว่าเอกสารฉบับนี้ถูกนำไปประมูลต่อในตลาดและมีมูลค่าสูงถึง 1.6 ล้านเหรียญ (ปัจจุบันเขายังเก็บสำเนาของเอกสารฉบับนี้ไว้ย้ำเตือนตนเองที่ขายหมูไปดื้อๆ) เรียกได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่พลาดซ้ำซ้อนอีกครั้งสำหรับเขา หลังจากขายหุ้นบริษัทไปเมื่อ 35 ปีก่อน
เอกสารสำเนาจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทแอปเปิลที่มีลายเซ็นต์ของผู้ก่อตั้งทั้งสามอย่าง Jobs, Wozniak และ Wayne ที่ถูกประมูลขายในมูลค่าสูงถึง 1.6 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ คือสิ่งที่ Wayne ยืนยันว่ารู้สึกเสียดายที่สุด อ้างอิงจาก BBC
ปัจจุบัน Wayne ที่อยู่ในวัย 84 ปี ได้ใช้ชีวีตวัยเกษียณอย่าสงบในเมือง Pahrump, Nevada ที่ห่างจากลาสเวกัสราว 1 ชั่วโมงตามระยะเวลาการขับรถ บ้านของเขาค่อนข้างเรียบง่าย ตามประสาคนชั้นกลางในอเมริกา แต่แทบไม่น่าเชื่อที่ตัวเขาเองออกมายอมรับว่า ยังไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆเลยจากบริษัทแอปเปิลที่เคยร่วมก่อตั้ง !!!
ปัจจุบัน Wayne ใช้ชีวิตอย่างสงบในชนบทที่ไม่ใกล้จากลาสเวกัสนัก เรื่องราวในชีวิตเขาคือบทหนึ่งในน่าประวัติศาสตร์ที่สอนเราหลายเรื่อง Cr.BBC
แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาได้รับ iPad 2 เป็นของขวัญในปี ค.ศ.2011 แต่ก็ไม่ได้ใช้มันและเอาไปให้ลูกบุญธรรมใช้ต่อ สุดท้ายแล้ว Wayne ยังคงย้ำเสมอว่าสิ่งที่เขาเสียดายมากที่สุดคือการขายบ้านที่ Florida ซึ่งเขารักมาก แต่ไม่รู้สึกเสียดายที่ขายหุ้นแอปเปิลตอนนั้น เพราะ "การทำงานภายใต้ร่มเงาและคำสั่งของเด็กอายุ 20 ต้นๆอย่าง Jobs และ Wozniak ในขณะนั้นมันคงทำให้เขารู้สึกอึดอัดและไม่สนุกเอามากๆ " ชีวิตมักมีเรื่องที่ไม่คาดหวังเสมอ ใครจะไปรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่จงกล้าตัดสินใจเลือกทำสิ่งที่ชอบจะได้ไม่เสียดายกับชีวิตที่ผ่านมา เหมือนที่ Wayne ได้สอนเราจากชีวิตของเขา
"ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตเป็นอย่างไร โชคชะตาคือสิ่งที่ยากจะคาดเดา"
ขอสงวนเนื้อหาบทความห้ามคัดลอก และดัดแปลงใดๆ รวมทั้งการใช้เนื้อหาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้าโดยเด็ดขาด หรือกระทำการอื่นใดที่เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของเพจ
อ้างอิง
โฆษณา